ตร.เศรษฐกิจออกหมายเรียกป้าพิการขายถั่วต้มไปพบ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 มิ.ย. ที่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ต.แหลมทราย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จาก นางปรีดา เจริญสุข อายุ 58 ปี อาชีพขายถั่วต้ม อาศัยในบ้านเลขที่ดังกล่าวกับญาติพี่น้อง เมื่อไปถึงพบ นางปรีดา ในสภาพ คนพิการ แขนด้านขวาไม่สามารถใช้การได้ จากอุบัติเหตุ เมื่อหลายปีที่แล้ว นางปรีดาได้นำหมายเรียกของ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 56 เป็นหมายเรียกครั้งที่ 2 ลงนามโดย ร.ต.อ.สืบสกุล สิมะวรธรรมกุล พนักงานสอบสวน ในรายละเอียดของหมายเรียก ระบุว่า เป็นคดีอาญา ระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้กล่าวหา กับ บริษัท ฟิโลโซฟีแคป จำกัด กับพวก ผู้ต้องหา โดยระบุ ว่า นางปรีดา เจริญสุข คือ นางสาวปรีดา เจริญสุข เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว มีหน้าที่ต้องทำบัญชีและกรรมการผู้จัดการ ไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การบัญชี พศ. 2545 มาตรา 11 วรรค 1 มีโทษปรับไม่เกิน ห้าหมื่นบาท และ ในฐานะ กรรมการผู้จัดการ มีโทษปรับอีกไม่เกิน ห้าหมื่นบาท และ สั่งให้ นางสาวปรีดา เจริญสุข ไปพบ ร.ต.อ.สืบสกุล สิมะวรธรรรมกุล ที่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เศรษฐกิจ อาคาร 2 ชั้น9 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. ในเวลา 10.00-15.00 น. วันที่ 24 พค.56 ที่ผ่านมา ในหมายเรียกยังระบุ ว่า ถ้าไม่ไปพบ ก็ จะออกหมายจับ จับกุมตัวเพื่อดำเนินคดี ตาม กม.อาญา มาตรา 66 อีกด้วย
นางปรีดา กล่าวว่า “เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาได้รับหมายเรียกจาก ไปรษณีย์ โดยพี่สาวเจ้าของบ้านอ่านให้ฟัง เมื่อได้ฟัง ถึงกับเป็นลม ทั้งพี่ทั้งน้อง เนื่องจาก นางปรีดาเป็นเพียงแม่ค้าหาบถั่วต้มขาย ในตลาดหลังสวน มีรายได้เพียงไม่ถึง 200 บาท พอได้กินไปวันๆ อีกทั้งในชีวิตนี้ไม่เคยไป กทม.แม้แต่ครั้งเดียว และ ไม่เคยมอบบัตรประชาชนให้ใครเพื่อไปทำอะไรกับใครอีกด้วย แต่จู่ๆ ก็ กลายเป็น กรรมการผู้จัดการบริษัทใหญ่โต ใน กทม.ที่ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ ส่วนตัวตนเองไม่เคยมีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว หาเช้ากินค่ำ ไปวันๆ เท่านั้น แถม ถูกขู่จะออกหมายจับอีก ทำให้เกิดอาการเป็นลม ทุกวัน มีความกลุ้มใจมาก สุขภาพแย่ลง กินไม่ได้นอนไม่หลับ หมดเรี่ยวหมดแรง ไม่สามารถหาบถั่วต้มไปขายได้ ขาดรายได้ มาร่วม 2อาทิตย์แล้ว ต้องอาศัยญาติพี่น้องหุงหาอาหารให้กิน จึงต้องร้องไปยัง นักข่าว เพื่อให้ ตำรวจหน่วยดังกล่าว แก้ไขเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้องด้วย และ ต้องรับผิดชอบในความผิดพลาดในครั้งนี้ด้วย” เมื่อข่าวดังกล่าวแพร่ออกไปสร้างความหดหู่ใจแก่ชาวบ้านในตลาดหลังสวนที่เห็น ป้าปรีดาซึ่งหาบถั่วต้มขายทุกวัน อีกทั้งมือพิการข้างหนึ่ง กลายเป็นกรรมการบริษัทใหญ่และเป็นผู้ต้องหา บางส่วนบางกันด่า ตร.ที่สุดมั่ว ในกรณีนี้และหลายกรณี ที่เกิดขึ้นผ่านมา
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/thailand/212530 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นางปรีดา พิการ แขนด้านขวาไม่สามารถใช้การได้ ถูกตร.เศรษฐกิจออกหมายเรียก เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 มิ.ย. ที่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ต.แหลมทราย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จาก นางปรีดา เจริญสุข อายุ 58 ปี อาชีพขายถั่วต้ม อาศัยในบ้านเลขที่ดังกล่าวกับญาติพี่น้อง เมื่อไปถึงพบ นางปรีดา ในสภาพ คนพิการ แขนด้านขวาไม่สามารถใช้การได้ จากอุบัติเหตุ เมื่อหลายปีที่แล้ว นางปรีดาได้นำหมายเรียกของ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 56 เป็นหมายเรียกครั้งที่ 2 ลงนามโดย ร.ต.อ.สืบสกุล สิมะวรธรรมกุล พนักงานสอบสวน ในรายละเอียดของหมายเรียก ระบุว่า เป็นคดีอาญา ระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้กล่าวหา กับ บริษัท ฟิโลโซฟีแคป จำกัด กับพวก ผู้ต้องหา โดยระบุ ว่า นางปรีดา เจริญสุข คือ นางสาวปรีดา เจริญสุข เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว มีหน้าที่ต้องทำบัญชีและกรรมการผู้จัดการ ไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การบัญชี พศ. 2545 มาตรา 11 วรรค 1 มีโทษปรับไม่เกิน ห้าหมื่นบาท และ ในฐานะ กรรมการผู้จัดการ มีโทษปรับอีกไม่เกิน ห้าหมื่นบาท และ สั่งให้ นางสาวปรีดา เจริญสุข ไปพบ ร.ต.อ.สืบสกุล สิมะวรธรรรมกุล ที่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เศรษฐกิจ อาคาร 2 ชั้น9 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. ในเวลา 10.00-15.00 น. วันที่ 24 พค.56 ที่ผ่านมา ในหมายเรียกยังระบุ ว่า ถ้าไม่ไปพบ ก็ จะออกหมายจับ จับกุมตัวเพื่อดำเนินคดี ตาม กม.อาญา มาตรา 66 อีกด้วย นางปรีดา กล่าวว่า “เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาได้รับหมายเรียกจาก ไปรษณีย์ โดยพี่สาวเจ้าของบ้านอ่านให้ฟัง เมื่อได้ฟัง ถึงกับเป็นลม ทั้งพี่ทั้งน้อง เนื่องจาก นางปรีดาเป็นเพียงแม่ค้าหาบถั่วต้มขาย ในตลาดหลังสวน มีรายได้เพียงไม่ถึง 200 บาท พอได้กินไปวันๆ อีกทั้งในชีวิตนี้ไม่เคยไป กทม.แม้แต่ครั้งเดียว และ ไม่เคยมอบบัตรประชาชนให้ใครเพื่อไปทำอะไรกับใครอีกด้วย แต่จู่ๆ ก็ กลายเป็น กรรมการผู้จัดการบริษัทใหญ่โต ใน กทม.ที่ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ ส่วนตัวตนเองไม่เคยมีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว หาเช้ากินค่ำ ไปวันๆ เท่านั้น แถม ถูกขู่จะออกหมายจับอีก ทำให้เกิดอาการเป็นลม ทุกวัน มีความกลุ้มใจมาก สุขภาพแย่ลง กินไม่ได้นอนไม่หลับ หมดเรี่ยวหมดแรง ไม่สามารถหาบถั่วต้มไปขายได้ ขาดรายได้ มาร่วม 2อาทิตย์แล้ว ต้องอาศัยญาติพี่น้องหุงหาอาหารให้กิน จึงต้องร้องไปยัง นักข่าว เพื่อให้ ตำรวจหน่วยดังกล่าว แก้ไขเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้องด้วย และ ต้องรับผิดชอบในความผิดพลาดในครั้งนี้ด้วย” เมื่อข่าวดังกล่าวแพร่ออกไปสร้างความหดหู่ใจแก่ชาวบ้านในตลาดหลังสวนที่เห็น ป้าปรีดาซึ่งหาบถั่วต้มขายทุกวัน อีกทั้งมือพิการข้างหนึ่ง กลายเป็นกรรมการบริษัทใหญ่และเป็นผู้ต้องหา บางส่วนบางกันด่า ตร.ที่สุดมั่ว ในกรณีนี้และหลายกรณี ที่เกิดขึ้นผ่านมา ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/thailand/212530
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)