อปพร.คดีทำร้ายครูสอนคนพิการโต้ แค่วิวาทเพราะเมา
รปภ.อผศ.ออก มาโต้ไม่ได้อ้างตัวเป็น อปพร.กรณีทำร้ายร่างกายครูสอนเด็กพิการ เหตุชนถังขยะล้มแค่ป้องกันตัวตร.เปรียบเทียบปรับแค่ทะเลาะวิวาทเพราะเมา
เมื่อวันนี้ 26 มิ.ย. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเฉลิม เผือกอ่วม อายุ 41 ปี อาชีพ รปภ.ประจำอผศ.อยู่บ้านเลขที่ 28/15 หมู่ 5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้เข้าพบ พ.ต.ท.มานะ เทียนเมืองปัก พงส.ผนง.สภ.ปากเกร็ด และ ร.ต.ท.ปิโยรส ชูกุล ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด พร้อมด้วยนายศิวพล นพทิพย์ ครูสอนเด็กพิการ มูลนิธิคริสเตียนเพื่อเด็กพิการ กรณีทำร้ายร่างกายนายศิวพล จนได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเพราะชนถังขยะล้ม เมื่อคืนวันที่ 24 มิ.ย.56 เวลาประมาณ 20.00 น.เพื่อสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายจากกรณีดังกล่าว หลังจากสอบสวนนายเฉลิมให้การรับสารภาพเรื่องทำร้ายร่างกายจริงแต่ไม่ได้อ้างตัวเป็น อปพร.น่าจะเป็นการเข้าใจผิดไปเอง ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเจรจาเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาล และตั้งข้อหานายเฉลิมว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บแก่ร่างกายและจิตใจ
นายเฉลิม กล่าวว่าคืนที่เกิดเหตุตนและเพื่อนได้นั่งดื่มสุราอยู่ที่ร้านขายของชำ เมื่อนายศิวพลเดินมาถึงบริเวณดังกล่าวก็ได้เตะป้ายโฆษณาและเตะถังขยะล้ม นายศิวพลมีอาการมึนเมา ตนได้ถามไปว่ามาทำลายของหลวงทำไม นายศิวพลก็เดินเข้ามาหาตนบอกให้กลับบ้านไปซะ เพราะเมา แต่นายศิวพลไม่กลับ ทำให้มีปากเสียงกันจนเกิดโมโหจนตนทนไม่ไหวเลยชกและตบไป 1 ครั้ง และบอกให้กลับบ้านไป แต่นายศิวพลไม่ยอมกลับ ตนจึงได้ให้น้องชายตนคือ นายสุเทพ เผือกอ่วม อายุ 39 ปี โทร.แจ้งตำรวจ หลังจากนั้นนายศิวพลได้กลับบ้านไป ต่อมาออกมาพร้อมกับน้องชายอีกครั้งและพกอาวุธมาด้วย ตนเห็นอย่างนั้นเลยต้องป้องกันตัวได้มีการต่อสู้ชกต่อยกัน ส่วนตนมีกระบองจริงแต่ไม่ได้เอาออกมาทำร้ายนายศิวพล บาดแผลที่เกิดเป็นเพราะเมาเลยล้มลงไปกระแทกกับเก้าอี้หินจนต้องเย็บ หลังจากที่เห็นข่าวตนได้ติดต่อขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ และเรียกคู่กรณีเพื่อมาเคลียร์ ตอนนี้เข้าใจกันดีทั้ง2ฝ่ายได้จับมือขอโทษกันแล้วพร้อมทั้งชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้นายศิวพลด้วย
ด้าน พ.ต.ท.มานะ กล่าวว่าจากการสอบสวนสาเหตุเกิดจากเมาเหล้าทั้ง 2 ฝ่าย จึงทำให้มีปากเสียงกันแต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายได้จับมือขอโทษกันแล้ว เพราะทั้ง 2 คนอยู่ในซอยเดียวกันส่วนทางด้านคดีไม่สามารถยอมความกันได้ต้องดำเนินคดีตาม กฏหมาย ส่วนค่ารักษาพยาบาล นายเฉลิมยินดีชดใช้ให้ และที่อ้างตัวว่าเป็น อปพร.นั้นเป็นการเข้าใจผิดนายเฉลิมทำงานเป็น รปภ.ของ อผศ.
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000077838
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายเฉลิม เผือกอ่วม อายุ 41 ปี อาชีพ รปภ.ประจำอผศ.โต้ทำร้ายครูสอนเด็กพิการ รปภ.อผศ.ออก มาโต้ไม่ได้อ้างตัวเป็น อปพร.กรณีทำร้ายร่างกายครูสอนเด็กพิการ เหตุชนถังขยะล้มแค่ป้องกันตัวตร.เปรียบเทียบปรับแค่ทะเลาะวิวาทเพราะเมา เมื่อวันนี้ 26 มิ.ย. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเฉลิม เผือกอ่วม อายุ 41 ปี อาชีพ รปภ.ประจำอผศ.อยู่บ้านเลขที่ 28/15 หมู่ 5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้เข้าพบ พ.ต.ท.มานะ เทียนเมืองปัก พงส.ผนง.สภ.ปากเกร็ด และ ร.ต.ท.ปิโยรส ชูกุล ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด พร้อมด้วยนายศิวพล นพทิพย์ ครูสอนเด็กพิการ มูลนิธิคริสเตียนเพื่อเด็กพิการ กรณีทำร้ายร่างกายนายศิวพล จนได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเพราะชนถังขยะล้ม เมื่อคืนวันที่ 24 มิ.ย.56 เวลาประมาณ 20.00 น.เพื่อสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายจากกรณีดังกล่าว หลังจากสอบสวนนายเฉลิมให้การรับสารภาพเรื่องทำร้ายร่างกายจริงแต่ไม่ได้อ้างตัวเป็น อปพร.น่าจะเป็นการเข้าใจผิดไปเอง ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเจรจาเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาล และตั้งข้อหานายเฉลิมว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บแก่ร่างกายและจิตใจ นายเฉลิม กล่าวว่าคืนที่เกิดเหตุตนและเพื่อนได้นั่งดื่มสุราอยู่ที่ร้านขายของชำ เมื่อนายศิวพลเดินมาถึงบริเวณดังกล่าวก็ได้เตะป้ายโฆษณาและเตะถังขยะล้ม นายศิวพลมีอาการมึนเมา ตนได้ถามไปว่ามาทำลายของหลวงทำไม นายศิวพลก็เดินเข้ามาหาตนบอกให้กลับบ้านไปซะ เพราะเมา แต่นายศิวพลไม่กลับ ทำให้มีปากเสียงกันจนเกิดโมโหจนตนทนไม่ไหวเลยชกและตบไป 1 ครั้ง และบอกให้กลับบ้านไป แต่นายศิวพลไม่ยอมกลับ ตนจึงได้ให้น้องชายตนคือ นายสุเทพ เผือกอ่วม อายุ 39 ปี โทร.แจ้งตำรวจ หลังจากนั้นนายศิวพลได้กลับบ้านไป ต่อมาออกมาพร้อมกับน้องชายอีกครั้งและพกอาวุธมาด้วย ตนเห็นอย่างนั้นเลยต้องป้องกันตัวได้มีการต่อสู้ชกต่อยกัน ส่วนตนมีกระบองจริงแต่ไม่ได้เอาออกมาทำร้ายนายศิวพล บาดแผลที่เกิดเป็นเพราะเมาเลยล้มลงไปกระแทกกับเก้าอี้หินจนต้องเย็บ หลังจากที่เห็นข่าวตนได้ติดต่อขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ และเรียกคู่กรณีเพื่อมาเคลียร์ ตอนนี้เข้าใจกันดีทั้ง2ฝ่ายได้จับมือขอโทษกันแล้วพร้อมทั้งชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้นายศิวพลด้วย ด้าน พ.ต.ท.มานะ กล่าวว่าจากการสอบสวนสาเหตุเกิดจากเมาเหล้าทั้ง 2 ฝ่าย จึงทำให้มีปากเสียงกันแต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายได้จับมือขอโทษกันแล้ว เพราะทั้ง 2 คนอยู่ในซอยเดียวกันส่วนทางด้านคดีไม่สามารถยอมความกันได้ต้องดำเนินคดีตาม กฏหมาย ส่วนค่ารักษาพยาบาล นายเฉลิมยินดีชดใช้ให้ และที่อ้างตัวว่าเป็น อปพร.นั้นเป็นการเข้าใจผิดนายเฉลิมทำงานเป็น รปภ.ของ อผศ. ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000077838
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)