หลัก 5 อ.ชะลอวัย ฟืนฟูสุขภาพ-ไร้โรค
อาการ ไม่สดชื่น หงุดหงิดง่าย ปวดเมื่อยตามร่างกาย นอนไม่ค่อยหลับ อ้วนง่าย เหล่านี้เป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยๆ ของชาวออฟฟิศและคนเมือง เมื่อไปพบแพทย์ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคอะไร แต่สำหรับทางการแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยหรือ Anti-Aging Medicine เรียกอาการเหล่านี้ว่า ร่างกายเริ่มเกิดความเสื่อม เมื่อร่างกายเริ่มเสื่อม อวัยวะต่างๆ ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ อาการหรือโรคที่เกิดจากความเสื่อมก็จะตามมา เช่น โรคมะเร็งต่างๆ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคต้อกระจก โรคระบบประสาทเสื่อมโรคกระดูกพรุนเป็นต้น
เราจะชะลอความเสื่อมของร่างกายได้หรือไม่ และมีวิธีไหนบ้าง พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านชะลอวัย จาก AddLife Anti-Aging Center ไลฟ์เซ็นเตอร์ คิวเฮาส์ ลุมพินี อธิบายว่า โดยเฉลี่ยความเสื่อมของร่างกายคนเราเริ่มเมื่ออายุ 30 ปี แต่ปัจจุบันสภาพแวดล้อม อาหาร อากาศ และมลภาวะที่เป็นพิษ ทำให้ร่างกายเกิดความเสื่อมเร็วขึ้น การแพทย์เฉพาะทางด้านชะลอวัย จึงเข้ามาช่วยรักษาหรือแก้ไข โดยจะมุ่งเน้นที่การป้องกันโรค การฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงการรักษาสุขภาพก่อนที่จะเกิดโรค ทั้งการใช้สารอาหาร แร่ธาตุ ฮอร์โมนต่างๆ มาช่วยทำให้ร่างกายชะลอความเสื่อมให้ช้าลง การชะลอความเสื่อมของร่างกาย เพื่อช่วยชะลอวัยให้ดูเด็กลง ทำได้ง่ายๆ คือ ให้อยู่แบบ 5 อ. ได้แก่
อากาศ : อยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ หลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษต่างๆ ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี ในแสงแดด ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ที่ช่วยเร่งความเสื่อมของร่างกาย หาเวลาไปพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์นอกเมืองแล้วคุณจะรู้สึกสดชื่นสมองปลอดโปร่งขึ้น อาหาร : กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เปลี่ยนกลุ่มอาหารให้หลากหลาย หลีกเลี่ยงแป้งและไขมันสูง อาหารปนเปื้อน ออกกำลังกาย : ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีและดูอ่อนกว่าวัย ควรจัดสรรเวลาให้ออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 150 นาที เช่น แอโรบิก วิ่ง ว่ายน้ำ จ๊อกกิ้ง โยคะ เป็นต้น อารมณ์ : การคิดบวก นั่งสมาธิ จะช่วยให้คลื่นในสมองได้หลับสนิท ลองหาเวลานั่งสมาธิวันละ 5 นาที แอนไท-เอจจิ้ง : การแพทย์แนวรุกมุ่งเน้นการฟื้นฟูรักษาภาวะเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เป็น อ.ที่ 5 ที่สำคัญ เพราะแม้ว่าเราจะทำครบ 4 อ. ข้างต้น แต่เมื่อร่างกายเสื่อมถึงจุดหนึ่ง มีอาการ "แก่" เกิดขึ้นแล้ว เราจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้การ รักษาและชะลอไม่ให้สุขภาพเสื่อมถอยแต่ฟื้นฟูให้แข็งแรงขึ้น วิธีง่ายๆ ที่คุณก็สามารถดูแลตนเองให้ดูอ่อนวัยห่างไกลโรคได้ เริ่มปฏิบัติวันนี้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
หญิงสาวสุขภาพดี อาการ ไม่สดชื่น หงุดหงิดง่าย ปวดเมื่อยตามร่างกาย นอนไม่ค่อยหลับ อ้วนง่าย เหล่านี้เป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยๆ ของชาวออฟฟิศและคนเมือง เมื่อไปพบแพทย์ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคอะไร แต่สำหรับทางการแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยหรือ Anti-Aging Medicine เรียกอาการเหล่านี้ว่า ร่างกายเริ่มเกิดความเสื่อม เมื่อร่างกายเริ่มเสื่อม อวัยวะต่างๆ ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ อาการหรือโรคที่เกิดจากความเสื่อมก็จะตามมา เช่น โรคมะเร็งต่างๆ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคต้อกระจก โรคระบบประสาทเสื่อมโรคกระดูกพรุนเป็นต้น เราจะชะลอความเสื่อมของร่างกายได้หรือไม่ และมีวิธีไหนบ้าง พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านชะลอวัย จาก AddLife Anti-Aging Center ไลฟ์เซ็นเตอร์ คิวเฮาส์ ลุมพินี อธิบายว่า โดยเฉลี่ยความเสื่อมของร่างกายคนเราเริ่มเมื่ออายุ 30 ปี แต่ปัจจุบันสภาพแวดล้อม อาหาร อากาศ และมลภาวะที่เป็นพิษ ทำให้ร่างกายเกิดความเสื่อมเร็วขึ้น การแพทย์เฉพาะทางด้านชะลอวัย จึงเข้ามาช่วยรักษาหรือแก้ไข โดยจะมุ่งเน้นที่การป้องกันโรค การฟื้นฟูสุขภาพ รวมถึงการรักษาสุขภาพก่อนที่จะเกิดโรค ทั้งการใช้สารอาหาร แร่ธาตุ ฮอร์โมนต่างๆ มาช่วยทำให้ร่างกายชะลอความเสื่อมให้ช้าลง การชะลอความเสื่อมของร่างกาย เพื่อช่วยชะลอวัยให้ดูเด็กลง ทำได้ง่ายๆ คือ ให้อยู่แบบ 5 อ. ได้แก่ ผัก ผลไม้จำนวนมาก อากาศ : อยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ หลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษต่างๆ ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี ในแสงแดด ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ที่ช่วยเร่งความเสื่อมของร่างกาย หาเวลาไปพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์นอกเมืองแล้วคุณจะรู้สึกสดชื่นสมองปลอดโปร่งขึ้น อาหาร : กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เปลี่ยนกลุ่มอาหารให้หลากหลาย หลีกเลี่ยงแป้งและไขมันสูง อาหารปนเปื้อน ออกกำลังกาย : ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีและดูอ่อนกว่าวัย ควรจัดสรรเวลาให้ออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 150 นาที เช่น แอโรบิก วิ่ง ว่ายน้ำ จ๊อกกิ้ง โยคะ เป็นต้น อารมณ์ : การคิดบวก นั่งสมาธิ จะช่วยให้คลื่นในสมองได้หลับสนิท ลองหาเวลานั่งสมาธิวันละ 5 นาที แอนไท-เอจจิ้ง : การแพทย์แนวรุกมุ่งเน้นการฟื้นฟูรักษาภาวะเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เป็น อ.ที่ 5 ที่สำคัญ เพราะแม้ว่าเราจะทำครบ 4 อ. ข้างต้น แต่เมื่อร่างกายเสื่อมถึงจุดหนึ่ง มีอาการ "แก่" เกิดขึ้นแล้ว เราจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้การ รักษาและชะลอไม่ให้สุขภาพเสื่อมถอยแต่ฟื้นฟูให้แข็งแรงขึ้น วิธีง่ายๆ ที่คุณก็สามารถดูแลตนเองให้ดูอ่อนวัยห่างไกลโรคได้ เริ่มปฏิบัติวันนี้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1pXRXdOREEwTURjMU5nPT0=§ionid=TURNek1BPT0=&day=TWpBeE15MHdOeTB3TkE9PQ==
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)