เมก้า วีแคร์ เปิดตัวกิจกรรม "แฮปปี้ แฟมิลี่ คอนเทสต์"
เภสัชกรหญิง ดวงนภา ตงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมก้าไลฟ์ไซแอ็นซ์ พีทีวาย จำกัด กล่าวว่า "ในฐานะที่เมก้า วีแคร์ เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มเวชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพในประเทศไทย ที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งนอกจากที่เราจะมุ่งมั่นยกระดับและสร้างมาตรฐานการผลิตแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคชาวไทยอีกด้วย โดยเราเล็งเห็นว่าคุณภาพชีวิตจะดีได้ ต้องมาจากสุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจของทั้งตัวเราและครอบครัว การดูแลสมาชิกในครอบครัวของเราให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรง เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการสนับสนุนให้รับประทานอาหารที่ดี การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งต้องประกอบกับการมีสุขภาพใจที่แข็งแรงด้วย เพื่อช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่นและมีความสุขได้อย่างยั่งยืน"
ครอบครัว เป็นสถาบันพื้นฐานแรกสุดทางสังคม เป็นรากฐานของการพัฒนาบุคลากร ทั้งแบบแผนของพฤติกรรม ขนบธรรมเนียม ความคิด ตลอดจนคุณภาพชีวิต โดยส่วนมากสมาชิกในครอบครัวจะมีแบบแผนที่ปฏิบัติตามกันมา เช่น การเลือกคู่ครอง การเลี้ยงดูลูก การอบรมขัดเกลา การนับถือศาสนา เป็นต้น ซึ่งหากสถาบันครอบครัวเข้มแข็ง ก็จะส่งผลให้สังคมเข้มแข็งด้วย แต่หากครอบครัวอ่อนแอ ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมาอีกมากมาย
นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช และผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต ซึ่งมาร่วมให้ความรู้ในงาน ได้เปิดเผยว่า "ปัจจุบัน สังคมไทยละเลยและเพิกเฉยต่อสถาบันครอบครัว เมื่อเทคโนโลยีและสื่อไอทีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้คนให้ความสนใจทางด้านจิตใจกันน้อยลง พ่อแม่เลี้ยงดูลูกด้วยความรักความอบอุ่นน้อยลง หันไปเลี้ยงดูด้วยเงินหรือวัตถุมากขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาครอบครัวและสังคมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิ ปัญหาเรื่องเพศ ปัญหาความรุนแรง ปัญหาเด็กติดเกม เป็นต้น ในขณะที่ สังคมไทยกำลังก้าวสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากการพัฒนาด้านสาธารณสุข ทำให้คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น ซึ่งจากผลสำรวจทางประชากรล่าสุด พบว่า มีประชากรกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 10 และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และช่องว่างระหว่างวัยของผู้สูงอายุกับเด็กและวัยรุ่นก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้คนสองวัยขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน เด็กและวัยรุ่นจึงห่างเหินและไม่รู้สึกผูกพันกับปู่ย่าตายายจนเกิดเป็นปัญหาช่องว่างระหว่างวัย"
"ทั้งนี้ การที่คนรุ่นปู่ย่าตายายมีโอกาสได้เลี้ยงดูรุ่นหลานที่อยู่ในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจากการศึกษาพบว่า การที่เด็กหรือวัยรุ่นได้รับการขัดเกลาเลี้ยงดูจากปู่ย่าตายาย จะช่วยลดความเสี่ยงต่อพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น แนวทางที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในครอบครัว ต้องเริ่มจากการสร้างความเข้าใจในพฤติกรรมของคนแต่ละวัย สร้างความสัมพันธ์และความใกล้ชิดของสมาชิกในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วยการหาเวลาว่างทำกิจกรรมร่วมกัน หันมาใส่ใจและดูแลกันและกันมากขึ้น ทั้งในเรื่องของสุขภาพ ความรัก ความอบอุ่น รวมถึง หากมีปัญหาต้องกล้าที่จะเผชิญ และใช้เหตุผลในการแก้ไข มากกว่าอารมณ์" นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติม
ทางด้าน เภสัชกรหญิง วิชชุลดา ผรณเกียรติ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์ ได้เผยถึงรายละเอียดของกิจกรรมว่า "ด้วยความมุ่งมั่นของเมก้า วีแคร์ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในสถาบันครอบครัวไทย เราจึงได้ริเริ่มกิจกรรม "แฮปปี้ แฟมิลี่ คอนเทสต์" เพื่อสร้างเสริมความรัก ความผูกพัน และการดูแลห่วงใยกันและกันของสมาชิกในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยการเชิญชวนให้ประชาชนที่สนใจ ร่วมส่งภาพถ่ายพร้อมบอกเล่าเรื่องราวการดูแลกันและกันของสมาชิกในครอบครัว 3 รุ่น 3 วัย ซึ่งต้องประกอบด้วย รุ่นปู่ย่าตายาย รุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด"
ผู้เข้าประกวดสามารถส่งภาพถ่าย "แฮปปี้ แฟมิลี่" พร้อมคำบรรยายสั้นๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม - 8 กันยายน 2556 ผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1) อัพโหลดภาพถ่าย พร้อมคำบรรยายมาที่ URL: happyfamilycontest.megawecare.co.th หรือ 2) ที่ ตู้ ปณ.11 ปณจ. บางนา กรุงเทพฯ 10260 โดยทุกๆ ภาพและเรื่องราว "แฮปปี้ แฟมิลี่" ที่ส่งเข้ามา จะมีมูลค่าเท่ากับ 100 บาท ซึ่งทาง เมก้า วีแคร์ จะนำเงินที่ได้จากการที่ทุกครอบครัวส่งผลงานเข้าร่วมกิจกรรมไปบริจาคสมทบทุนให้กับ "โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ประชากรผู้เข้าสู่วัยสูงอายุ" ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินการของสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพกาย ใจและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้สามารถร่วมกิจกรรมได้ทั้งภายในครอบครัวและชุมชนได้
"กิจกรรมฯ ในครั้งนี้ เราได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ได้แก่ ตัวแทนสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ และนิตยสารรักลูก ที่ให้เกียรติมาร่วมเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นอกจากนี้ เรายังได้ทีมผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงจากเพลย์ จีทีเอช ออน แอร์ มาร่วมสร้างสรรค์เรื่องราวของครอบครัวที่ผ่านเข้ารอบ 3 ครอบครัวสุดท้ายเป็นวิดีโอคลิป เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้โหวตหาผู้ชนะผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจเมก้า วีแคร์ ซึ่งครอบครัวที่ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเป็นแพ็คเกจท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน มูลค่ารวม 160,000 บาท และรองชนะเลิศ 2 ครอบครัว จะได้รับรางวัลแพ็คเกจท่องเที่ยวเมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย 4 วัน 3 คืน มูลค่ารวมรางวัลละ 100,000 บาท เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว" ภญ.วิชชุลดา กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีครอบครัวทองเจือ นำโดย คุณพีท ทองเจือ ที่ควงคุณแม่นิธิกานต์ และลูกสาวคนสวย น้องเซย่า มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวสุดน่ารักในครอบครัวว่า "ตัวผม เป็นนักแข่งรถ จึงต้องดูแลตัวเองอยู่เสมอ และผมก็อยากให้คนในครอบครัวดูแลตัวเองเหมือนกัน ผมและลูกๆ มักจะชวนคุณแม่มาออกกำลังกายกันตอนเช้าเสมอๆ ในขณะเดียวกันคุณแม่ ก็จะดูแลพวกเราในเรื่องของอาหารการกิน ท่านจะเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญ ตั้งแต่ผมเด็กๆ คุณแม่จะให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารมื้อเช้ามาก เพราะมื้อเช้าถือเป็นมื้ออาหารที่สำคัญ จนถึงวันนี้คุณแม่ก็ยังฝึกให้น้องเซย่าเคยชินกับการรับประทานอาหารเช้าด้วยเช่นกัน นอกจากเราจะดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว เรายังดูแลสุขภาพใจ ด้วยการใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน และแสดงความห่วงใยกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะเราเชื่อว่าหากสุขภาพกายดี สุขภาพใจก็จะดีตามไปด้วยครับ"....ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม แฮปปี้ แฟมิลี่ คอนเทสต์ ได้ที่เมก้า วีแคร์ เฟซบุ๊ค แฟนเพจ www.facebook.com/MEGAWeCare (ขนาดไฟล์: 0 ) หรือสอบถามได้ที่ call center 02-769-5444 ในระหว่างวันและเวลาทำการ
ขอบคุณ... http://www.newswit.com/food/2013-08-14/93e45cee4a84d52c5b4eebd4b6f750da/ (ขนาดไฟล์: 167)
newswit.com ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ส.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เภสัชกรหญิง ดวงนภา ตงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมก้าไลฟ์ไซแอ็นซ์ พีทีวาย จำกัด กล่าวว่า "ในฐานะที่เมก้า วีแคร์ เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มเวชภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพในประเทศไทย ที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งนอกจากที่เราจะมุ่งมั่นยกระดับและสร้างมาตรฐานการผลิตแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคชาวไทยอีกด้วย โดยเราเล็งเห็นว่าคุณภาพชีวิตจะดีได้ ต้องมาจากสุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจของทั้งตัวเราและครอบครัว การดูแลสมาชิกในครอบครัวของเราให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรง เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการสนับสนุนให้รับประทานอาหารที่ดี การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งต้องประกอบกับการมีสุขภาพใจที่แข็งแรงด้วย เพื่อช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่นและมีความสุขได้อย่างยั่งยืน" ครอบครัว เป็นสถาบันพื้นฐานแรกสุดทางสังคม เป็นรากฐานของการพัฒนาบุคลากร ทั้งแบบแผนของพฤติกรรม ขนบธรรมเนียม ความคิด ตลอดจนคุณภาพชีวิต โดยส่วนมากสมาชิกในครอบครัวจะมีแบบแผนที่ปฏิบัติตามกันมา เช่น การเลือกคู่ครอง การเลี้ยงดูลูก การอบรมขัดเกลา การนับถือศาสนา เป็นต้น ซึ่งหากสถาบันครอบครัวเข้มแข็ง ก็จะส่งผลให้สังคมเข้มแข็งด้วย แต่หากครอบครัวอ่อนแอ ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมาอีกมากมาย นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช และผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต ซึ่งมาร่วมให้ความรู้ในงาน ได้เปิดเผยว่า "ปัจจุบัน สังคมไทยละเลยและเพิกเฉยต่อสถาบันครอบครัว เมื่อเทคโนโลยีและสื่อไอทีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้คนให้ความสนใจทางด้านจิตใจกันน้อยลง พ่อแม่เลี้ยงดูลูกด้วยความรักความอบอุ่นน้อยลง หันไปเลี้ยงดูด้วยเงินหรือวัตถุมากขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาครอบครัวและสังคมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิ ปัญหาเรื่องเพศ ปัญหาความรุนแรง ปัญหาเด็กติดเกม เป็นต้น ในขณะที่ สังคมไทยกำลังก้าวสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากการพัฒนาด้านสาธารณสุข ทำให้คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น ซึ่งจากผลสำรวจทางประชากรล่าสุด พบว่า มีประชากรกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 10 และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และช่องว่างระหว่างวัยของผู้สูงอายุกับเด็กและวัยรุ่นก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้คนสองวัยขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน เด็กและวัยรุ่นจึงห่างเหินและไม่รู้สึกผูกพันกับปู่ย่าตายายจนเกิดเป็นปัญหาช่องว่างระหว่างวัย" "ทั้งนี้ การที่คนรุ่นปู่ย่าตายายมีโอกาสได้เลี้ยงดูรุ่นหลานที่อยู่ในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจากการศึกษาพบว่า การที่เด็กหรือวัยรุ่นได้รับการขัดเกลาเลี้ยงดูจากปู่ย่าตายาย จะช่วยลดความเสี่ยงต่อพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น แนวทางที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในครอบครัว ต้องเริ่มจากการสร้างความเข้าใจในพฤติกรรมของคนแต่ละวัย สร้างความสัมพันธ์และความใกล้ชิดของสมาชิกในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วยการหาเวลาว่างทำกิจกรรมร่วมกัน หันมาใส่ใจและดูแลกันและกันมากขึ้น ทั้งในเรื่องของสุขภาพ ความรัก ความอบอุ่น รวมถึง หากมีปัญหาต้องกล้าที่จะเผชิญ และใช้เหตุผลในการแก้ไข มากกว่าอารมณ์" นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติม ทางด้าน เภสัชกรหญิง วิชชุลดา ผรณเกียรติ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์ ได้เผยถึงรายละเอียดของกิจกรรมว่า "ด้วยความมุ่งมั่นของเมก้า วีแคร์ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในสถาบันครอบครัวไทย เราจึงได้ริเริ่มกิจกรรม "แฮปปี้ แฟมิลี่ คอนเทสต์" เพื่อสร้างเสริมความรัก ความผูกพัน และการดูแลห่วงใยกันและกันของสมาชิกในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยการเชิญชวนให้ประชาชนที่สนใจ ร่วมส่งภาพถ่ายพร้อมบอกเล่าเรื่องราวการดูแลกันและกันของสมาชิกในครอบครัว 3 รุ่น 3 วัย ซึ่งต้องประกอบด้วย รุ่นปู่ย่าตายาย รุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด" ผู้เข้าประกวดสามารถส่งภาพถ่าย "แฮปปี้ แฟมิลี่" พร้อมคำบรรยายสั้นๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม - 8 กันยายน 2556 ผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1) อัพโหลดภาพถ่าย พร้อมคำบรรยายมาที่ URL: happyfamilycontest.megawecare.co.th หรือ 2) ที่ ตู้ ปณ.11 ปณจ. บางนา กรุงเทพฯ 10260 โดยทุกๆ ภาพและเรื่องราว "แฮปปี้ แฟมิลี่" ที่ส่งเข้ามา จะมีมูลค่าเท่ากับ 100 บาท ซึ่งทาง เมก้า วีแคร์ จะนำเงินที่ได้จากการที่ทุกครอบครัวส่งผลงานเข้าร่วมกิจกรรมไปบริจาคสมทบทุนให้กับ "โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ประชากรผู้เข้าสู่วัยสูงอายุ" ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินการของสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพกาย ใจและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้สามารถร่วมกิจกรรมได้ทั้งภายในครอบครัวและชุมชนได้ "กิจกรรมฯ ในครั้งนี้ เราได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ได้แก่ ตัวแทนสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ และนิตยสารรักลูก ที่ให้เกียรติมาร่วมเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นอกจากนี้ เรายังได้ทีมผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงจากเพลย์ จีทีเอช ออน แอร์ มาร่วมสร้างสรรค์เรื่องราวของครอบครัวที่ผ่านเข้ารอบ 3 ครอบครัวสุดท้ายเป็นวิดีโอคลิป เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้โหวตหาผู้ชนะผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจเมก้า วีแคร์ ซึ่งครอบครัวที่ชนะเลิศจะได้รับรางวัลเป็นแพ็คเกจท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน มูลค่ารวม 160,000 บาท และรองชนะเลิศ 2 ครอบครัว จะได้รับรางวัลแพ็คเกจท่องเที่ยวเมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย 4 วัน 3 คืน มูลค่ารวมรางวัลละ 100,000 บาท เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว" ภญ.วิชชุลดา กล่าวเสริม นอกจากนี้ ภายในงานยังมีครอบครัวทองเจือ นำโดย คุณพีท ทองเจือ ที่ควงคุณแม่นิธิกานต์ และลูกสาวคนสวย น้องเซย่า มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวสุดน่ารักในครอบครัวว่า "ตัวผม เป็นนักแข่งรถ จึงต้องดูแลตัวเองอยู่เสมอ และผมก็อยากให้คนในครอบครัวดูแลตัวเองเหมือนกัน ผมและลูกๆ มักจะชวนคุณแม่มาออกกำลังกายกันตอนเช้าเสมอๆ ในขณะเดียวกันคุณแม่ ก็จะดูแลพวกเราในเรื่องของอาหารการกิน ท่านจะเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญ ตั้งแต่ผมเด็กๆ คุณแม่จะให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารมื้อเช้ามาก เพราะมื้อเช้าถือเป็นมื้ออาหารที่สำคัญ จนถึงวันนี้คุณแม่ก็ยังฝึกให้น้องเซย่าเคยชินกับการรับประทานอาหารเช้าด้วยเช่นกัน นอกจากเราจะดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว เรายังดูแลสุขภาพใจ ด้วยการใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน และแสดงความห่วงใยกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะเราเชื่อว่าหากสุขภาพกายดี สุขภาพใจก็จะดีตามไปด้วยครับ"....ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม แฮปปี้ แฟมิลี่ คอนเทสต์ ได้ที่เมก้า วีแคร์ เฟซบุ๊ค แฟนเพจ www.facebook.com/MEGAWeCare หรือสอบถามได้ที่ call center 02-769-5444 ในระหว่างวันและเวลาทำการ ขอบคุณ... http://www.newswit.com/food/2013-08-14/93e45cee4a84d52c5b4eebd4b6f750da/ newswit.com ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ส.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)