นร.หญิงอัฟกัน‘โวย’ถูกบังคับให้แต่งเครื่องแบบสีดำ

แสดงความคิดเห็น

พวกเด็กนักเรียนหญิงกำลังร้องขอให้ รัฐบาลอัฟกานิสถานเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับซึ่งกำหนดให้พวกนักเรียนหญิงต้องสวม เครื่องแบบที่ประกอบด้วยเสื้อสีดำ, กางเกงดำ, และผ้าคลุมศีรษะสีขาว แต่ก็มีบางคนที่เย้ยเยาะไม่เชื่อถือในคำมั่นสัญญาของทางกระทรวงศึกษาธิการ ที่ว่า จะมีการปรึกษาหารือรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ ว่าควรหรือไม่ที่จะเปลี่ยนสีสันของเครื่องแต่งกายซึ่งทั้งดูดความร้อนอบอ้าว ถึงขนาดทำให้เป็นลมได้ และทั้งคล้องจองกับชุดไว้ทุกข์ที่ชวนให้จิตใจหดหู่ท้อแท้ พร้อมๆ กับที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่ไหลย้อยออกจากใบหน้าของเธอ มารจัน (Marjan) เด็กสาวชาวอัฟกันที่ปัจจุบันอายุ 16 ปีก็กล่าวว่า ชุดเครื่องแบบนักเรียนสีดำของเธอ ทำให้ความร้อนของอากาศฤดูร้อนในกรุงคาบูลอยู่ในขั้นที่ทนไม่ไหวทีเดียว

“ท่านรัฐมนตรีศึกษาธิการนั้น ท่านกำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศติดแอร์ แล้วท่านจะรู้อะไรเกี่ยวกับสภาพที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ หรือว่ามันร้อนขนาดไหนเมื่อต้องใส่เสื้อผ้าสีดำพวกนี้” นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากโรงเรียนมัธยมศึกษาอาเรียนา (Ariana High School) บ่นอุบอิบ “พวกเราได้เห็นนักเรียนหญิงเป็นลมกันอยู่ทุกวันเลยในช่วงฤดูร้อน เหตุผลก็มีอยู่อย่างเดียวคือสีดำทำให้อุณหภูมิในร่างกายของคุณเพิ่มสูงขึ้นอย่างชนิดควบคุมไม่ได้”

ทั้งเด็กนักเรียนหญิงและคุณครูจำนวนมาก ต่างกำลังร้องขอให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับซึ่งกำหนดให้นักเรียน หญิงต้องสวมชุดเครื่องแบบที่ประกอบด้วยเสื้อสีดำ, กางเกงดำ, และผ้าคลุมศีรษะสีขาว แม้กระทั่งในจังหวัดต่างๆ ซึ่งอุณหภูมิตอนฤดูร้อนอาจจะพุ่งปริ๊ดไปถึงระดับ 50 องศาเซลเซียสทีเดียว

ชิริน (Shirin) อาจารย์ของโรงเรียนมัธยมศึกษาอาเลมฟาอิซซาดา (Alem Faizzada High School) ให้ความเห็นว่า สีน้ำเงินหรือสีเทาน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสีดำมาก ระหว่างที่ทำงานเป็นครูอาจารย์สอนหนังสือเป็นเวลา 12 ปีแล้ว เธอได้เห็นกรณีจำนวนมากที่เด็กนักเรียนหญิงถึงกับเป็นลมเนื่องจากอากาศร้อน

อบอ้าว

“ดิฉันเองก็เคยเป็นนักเรียนมาก่อน ดิฉันก็เคยผ่านประสบการณ์แบบเดียวกันนี้มาแล้ว ดิฉันจึงทราบดีว่าการสวมชุดสีดำนั้นมีผลกระทบกระเทือนที่เลวร้ายขนาดไหนต่อ ตัวนักเรียน ไม่ว่าจะในทางร่างกายหรือในทางจิตใจ” เธอกล่าว

ตามขนบประเพณีแล้ว ชุดสีดำกับสีเขียวอ่อนคือสีหลักๆ ที่นักเรียนหญิงสามารถเลือกใช้ได้ ทว่าในเวลานี้สีดำกลายเป็นสีที่ถูกบังคับให้ใช้ไปแล้ว โดยเหตุผลที่เลือกสีนี้ก็ดูจะมาจากอิทธิพลของความคิดความเข้าใจที่ว่ามันทำ ให้เกิดความรู้สึกเคร่งขรึมเรียบร้อย ตามคำอธิบายของ อับดอล โมนีร์ เนกาห์ (Abdol Monir Negah) ผู้เป็นสมาชิกคนหนึ่งในคณะกรรมการวิชาการ (academic council) ของกระทรวงศึกษาธิการอัฟกานิสถาน การกำหนดให้นักเรียนหญิงต้องสวมเครื่องแบบที่ประกอบด้วยเสื้อดำ กางเกงดำ และผ้าคลุมศีรษะสีขาว ก็เพราะ “ประการแรก นักเรียนหญิงต้องมีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากคนอื่นๆ ประการที่สอง สีดำนั้นปกปิดความงามตลอดจนลักษณะต่างๆ ของเด็กผู้หญิงและผู้หญิงจากสายตาของพวกผู้ชาย มันไม่ดึงดูดความสนใจ” เขากล่าวเตือนว่า การเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงใดๆ ควรที่จะต้องคำนึงถึงค่านิยมแบบอนุรักษนิยมซึ่งยังเป็นที่เคารพยกย่องของ สังคมชาวอัฟกันด้วย ทางด้าน โกลาไล (Golalai) แพทย์โรคผิวหนังแห่งโรงพยาบาลกลาง (Central Hospital) ของกรุงคาบูล กล่าวอธิบายว่าเป็นข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่ว่าเสื้อผ้าสีดำนั้นสามารถดูด ซับแสงและความร้อนได้มากกว่าสีที่อ่อนลงมา “มีคนไข้จำนวนมากที่มาหาดิฉันด้วยอาการโรคผิวหนัง ซึ่งมีสาเหตุจากเสื้อผ้าสีดำ” เธอบอก พร้อมกับเสริมด้วยว่า ถึงแม้การใช้ยาจะสามารถบรรเทาอาการเหล่านั้นได้ แต่วิธีแก้ไขอันแท้จริงก็คือการหันไปสวมใส่เสื้อผ้าที่สีอ่อนลง สำหรับเครื่องแบบนักเรียนนั้น เธอให้ความเห็นว่า “ดิฉันเชื่อว่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าหากเปลี่ยนจากสีดำให้เป็นสีอื่นๆ แทน”

ส่วน ฮิไล (Hilay) นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาอาเรียนา มีความมั่นอกมั่นใจมากว่า สีที่มืดมัวมีผลกระทบกระเทือนต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนเราอย่างแน่นอน

“สีดำนอกจากทำให้พวกเรารู้สึกร้อนมากขึ้นในเวลาที่อากาศร้อนแล้ว มันยังเป็นสีที่ไม่สดชื่น ผู้หญิงจะสวมชุดสีดำกันเมื่อพวกเธอจะไปงานพิธีไว้อาลัยต่างๆ เมื่อหนูต้องสวมเครื่องแบบนักเรียน หนูก็คิดไปโดยจิตใต้สำนึกถึงเรื่องงานศพและความเศร้าโศก และนั่นทำให้คิดไปในเรื่องความตายของตัวหนูเองด้วย”

เตมอร์ (Temor) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต แห่งโรงพยาบาลจิตเวชของกรุงคาบูล เห็นด้วยกับเรื่องที่ว่าสีดำมีความหมายทางวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง “เป็นเรื่องทั่วไปเลยที่คิดกันว่าสีดำเป็นสัญลักษณ์ของความโศกเศร้า, ความผิดหวัง, และความหายนะเมื่อนักเรียนหญิงสวมใส่ชุดเครื่องแบบสีดำ ความรับรู้ความเข้าใจเหล่านี้ก็ย่อมได้รับการแฝงฝังแบบอยู่ในจิตใต้สำนึก และมันก็จะมีผลกระทบในทางลบต่อการศึกษาเล่าเรียนของนักเรียนหญิงเหล่านี้” เขากล่าว

ด้านพวกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการบอกว่า นักเรียนควรต้องยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการถ้าหากต้องการเปลี่ยนเครื่องแบบนักเรียนกันจริงๆ แต่พวกเขาก็เตือนว่าคงจะต้องใช้เวลานานทีเดียวก่อนที่กระบวนการปรึกษาหารือ กันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างจริงจัง โมฮัมหมัด อาซิม คาร์บาไล (Mohammad Azim Karbalai) ประธานคณะกรรมการวิชาการของกระทรวง กล่าวว่ากำลังมีการพิจารณาเกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่ โดยที่อาจจะอนุญาตให้มีความยืดหยุ่นได้มากขึ้นในเรื่องสีและเรื่องการออกแบบ ทั้งนี้ให้พิจารณากันเป็นแต่ละภาคไป

“เราอาจจะส่งประเด็นนี้ไปขอความเห็นของผู้ปกครองและชาวบ้านท้องถิ่น เพื่อให้พวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับชุดเครื่องแบบของนักเรียนหญิงใน พื้นที่ภาคของพวกเขาเอง โดยให้สอดคล้องกับเงื่อนไขทางภูมิอากาศและบรรทัดฐานทางสังคมของแต่ละภาค” เขาบอก ก่อนที่จะเตือนสำทับว่า “ยังมีร่างกฎหมายและระเบียบข้อบังคับฉบับอื่นๆ ที่สำคัญกว่าเรื่องนี้ ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยและตัดสินใจกันก่อน”

นักเรียนหญิงคนหนึ่งของโรงเรียนมัธยมศึกษาไอชาดูร์รานี (Aisha Durrani High School) ซึ่งขอให้สงวนนามของเธอ กล่าวเยาะเย้ยแนวความคิดในเรื่องการปรึกษาหารือกับผู้ปกครองและชาวบ้าน เธอบอกว่า ในทางเป็นจริงแล้ว “กระทรวงศึกษาธิการก็เที่ยวตัดสินใจอะไรต่างๆ ไปตามแต่ที่ตัวเองจะพอใจเท่านั้นแหละ” เธอกล่าวต่อไปว่า “พวกเขาเคยมาถามนักเรียนว่ามีความคิดเห็นยังไงกันเมื่อไหร่ล่ะ? ท่านรัฐมนตรีน่ะมองไม่เห็นปัญหาที่พวกเรากำลังเจอกันอยู่หรือยังไง?”

มีนา ฮาบิบ เป็นผู้สื่อข่าวในกรุงคาบูล ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจาก IWPR ทั้งนี้สถาบันเพื่อการรายงานข่าวสงครามและสันติภาพ (Institute for War and Peace Reporting ใช้อักษรย่อว่า IWPR) เป็นองค์การไม่แสวงกำไรที่มุ่งพัฒนาสื่อมวลชนในดินแดนที่เป็นแนวหน้าของความขัดแย้ง,วิกฤต, และความเปลี่ยนแปลง...โดย มีนา ฮาบิบ

ขอบคุณ... http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000102359 (ขนาดไฟล์: 167)

ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 17 ส.ค.56

ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 17 ส.ค.56
วันที่โพสต์: 17/08/2556 เวลา 03:39:38

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

พวกเด็กนักเรียนหญิงกำลังร้องขอให้ รัฐบาลอัฟกานิสถานเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับซึ่งกำหนดให้พวกนักเรียนหญิงต้องสวม เครื่องแบบที่ประกอบด้วยเสื้อสีดำ, กางเกงดำ, และผ้าคลุมศีรษะสีขาว แต่ก็มีบางคนที่เย้ยเยาะไม่เชื่อถือในคำมั่นสัญญาของทางกระทรวงศึกษาธิการ ที่ว่า จะมีการปรึกษาหารือรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ ว่าควรหรือไม่ที่จะเปลี่ยนสีสันของเครื่องแต่งกายซึ่งทั้งดูดความร้อนอบอ้าว ถึงขนาดทำให้เป็นลมได้ และทั้งคล้องจองกับชุดไว้ทุกข์ที่ชวนให้จิตใจหดหู่ท้อแท้ พร้อมๆ กับที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่ไหลย้อยออกจากใบหน้าของเธอ มารจัน (Marjan) เด็กสาวชาวอัฟกันที่ปัจจุบันอายุ 16 ปีก็กล่าวว่า ชุดเครื่องแบบนักเรียนสีดำของเธอ ทำให้ความร้อนของอากาศฤดูร้อนในกรุงคาบูลอยู่ในขั้นที่ทนไม่ไหวทีเดียว “ท่านรัฐมนตรีศึกษาธิการนั้น ท่านกำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศติดแอร์ แล้วท่านจะรู้อะไรเกี่ยวกับสภาพที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ หรือว่ามันร้อนขนาดไหนเมื่อต้องใส่เสื้อผ้าสีดำพวกนี้” นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากโรงเรียนมัธยมศึกษาอาเรียนา (Ariana High School) บ่นอุบอิบ “พวกเราได้เห็นนักเรียนหญิงเป็นลมกันอยู่ทุกวันเลยในช่วงฤดูร้อน เหตุผลก็มีอยู่อย่างเดียวคือสีดำทำให้อุณหภูมิในร่างกายของคุณเพิ่มสูงขึ้นอย่างชนิดควบคุมไม่ได้” ทั้งเด็กนักเรียนหญิงและคุณครูจำนวนมาก ต่างกำลังร้องขอให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับซึ่งกำหนดให้นักเรียน หญิงต้องสวมชุดเครื่องแบบที่ประกอบด้วยเสื้อสีดำ, กางเกงดำ, และผ้าคลุมศีรษะสีขาว แม้กระทั่งในจังหวัดต่างๆ ซึ่งอุณหภูมิตอนฤดูร้อนอาจจะพุ่งปริ๊ดไปถึงระดับ 50 องศาเซลเซียสทีเดียว ชิริน (Shirin) อาจารย์ของโรงเรียนมัธยมศึกษาอาเลมฟาอิซซาดา (Alem Faizzada High School) ให้ความเห็นว่า สีน้ำเงินหรือสีเทาน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสีดำมาก ระหว่างที่ทำงานเป็นครูอาจารย์สอนหนังสือเป็นเวลา 12 ปีแล้ว เธอได้เห็นกรณีจำนวนมากที่เด็กนักเรียนหญิงถึงกับเป็นลมเนื่องจากอากาศร้อน อบอ้าว “ดิฉันเองก็เคยเป็นนักเรียนมาก่อน ดิฉันก็เคยผ่านประสบการณ์แบบเดียวกันนี้มาแล้ว ดิฉันจึงทราบดีว่าการสวมชุดสีดำนั้นมีผลกระทบกระเทือนที่เลวร้ายขนาดไหนต่อ ตัวนักเรียน ไม่ว่าจะในทางร่างกายหรือในทางจิตใจ” เธอกล่าว ตามขนบประเพณีแล้ว ชุดสีดำกับสีเขียวอ่อนคือสีหลักๆ ที่นักเรียนหญิงสามารถเลือกใช้ได้ ทว่าในเวลานี้สีดำกลายเป็นสีที่ถูกบังคับให้ใช้ไปแล้ว โดยเหตุผลที่เลือกสีนี้ก็ดูจะมาจากอิทธิพลของความคิดความเข้าใจที่ว่ามันทำ ให้เกิดความรู้สึกเคร่งขรึมเรียบร้อย ตามคำอธิบายของ อับดอล โมนีร์ เนกาห์ (Abdol Monir Negah) ผู้เป็นสมาชิกคนหนึ่งในคณะกรรมการวิชาการ (academic council) ของกระทรวงศึกษาธิการอัฟกานิสถาน การกำหนดให้นักเรียนหญิงต้องสวมเครื่องแบบที่ประกอบด้วยเสื้อดำ กางเกงดำ และผ้าคลุมศีรษะสีขาว ก็เพราะ “ประการแรก นักเรียนหญิงต้องมีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากคนอื่นๆ ประการที่สอง สีดำนั้นปกปิดความงามตลอดจนลักษณะต่างๆ ของเด็กผู้หญิงและผู้หญิงจากสายตาของพวกผู้ชาย มันไม่ดึงดูดความสนใจ” เขากล่าวเตือนว่า การเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงใดๆ ควรที่จะต้องคำนึงถึงค่านิยมแบบอนุรักษนิยมซึ่งยังเป็นที่เคารพยกย่องของ สังคมชาวอัฟกันด้วย ทางด้าน โกลาไล (Golalai) แพทย์โรคผิวหนังแห่งโรงพยาบาลกลาง (Central Hospital) ของกรุงคาบูล กล่าวอธิบายว่าเป็นข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่ว่าเสื้อผ้าสีดำนั้นสามารถดูด ซับแสงและความร้อนได้มากกว่าสีที่อ่อนลงมา “มีคนไข้จำนวนมากที่มาหาดิฉันด้วยอาการโรคผิวหนัง ซึ่งมีสาเหตุจากเสื้อผ้าสีดำ” เธอบอก พร้อมกับเสริมด้วยว่า ถึงแม้การใช้ยาจะสามารถบรรเทาอาการเหล่านั้นได้ แต่วิธีแก้ไขอันแท้จริงก็คือการหันไปสวมใส่เสื้อผ้าที่สีอ่อนลง สำหรับเครื่องแบบนักเรียนนั้น เธอให้ความเห็นว่า “ดิฉันเชื่อว่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าหากเปลี่ยนจากสีดำให้เป็นสีอื่นๆ แทน” ส่วน ฮิไล (Hilay) นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาอาเรียนา มีความมั่นอกมั่นใจมากว่า สีที่มืดมัวมีผลกระทบกระเทือนต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนเราอย่างแน่นอน “สีดำนอกจากทำให้พวกเรารู้สึกร้อนมากขึ้นในเวลาที่อากาศร้อนแล้ว มันยังเป็นสีที่ไม่สดชื่น ผู้หญิงจะสวมชุดสีดำกันเมื่อพวกเธอจะไปงานพิธีไว้อาลัยต่างๆ เมื่อหนูต้องสวมเครื่องแบบนักเรียน หนูก็คิดไปโดยจิตใต้สำนึกถึงเรื่องงานศพและความเศร้าโศก และนั่นทำให้คิดไปในเรื่องความตายของตัวหนูเองด้วย” เตมอร์ (Temor) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต แห่งโรงพยาบาลจิตเวชของกรุงคาบูล เห็นด้วยกับเรื่องที่ว่าสีดำมีความหมายทางวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง “เป็นเรื่องทั่วไปเลยที่คิดกันว่าสีดำเป็นสัญลักษณ์ของความโศกเศร้า, ความผิดหวัง, และความหายนะเมื่อนักเรียนหญิงสวมใส่ชุดเครื่องแบบสีดำ ความรับรู้ความเข้าใจเหล่านี้ก็ย่อมได้รับการแฝงฝังแบบอยู่ในจิตใต้สำนึก และมันก็จะมีผลกระทบในทางลบต่อการศึกษาเล่าเรียนของนักเรียนหญิงเหล่านี้” เขากล่าว ด้านพวกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการบอกว่า นักเรียนควรต้องยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการถ้าหากต้องการเปลี่ยนเครื่องแบบนักเรียนกันจริงๆ แต่พวกเขาก็เตือนว่าคงจะต้องใช้เวลานานทีเดียวก่อนที่กระบวนการปรึกษาหารือ กันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างจริงจัง โมฮัมหมัด อาซิม คาร์บาไล (Mohammad Azim Karbalai) ประธานคณะกรรมการวิชาการของกระทรวง กล่าวว่ากำลังมีการพิจารณาเกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่ โดยที่อาจจะอนุญาตให้มีความยืดหยุ่นได้มากขึ้นในเรื่องสีและเรื่องการออกแบบ ทั้งนี้ให้พิจารณากันเป็นแต่ละภาคไป “เราอาจจะส่งประเด็นนี้ไปขอความเห็นของผู้ปกครองและชาวบ้านท้องถิ่น เพื่อให้พวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับชุดเครื่องแบบของนักเรียนหญิงใน พื้นที่ภาคของพวกเขาเอง โดยให้สอดคล้องกับเงื่อนไขทางภูมิอากาศและบรรทัดฐานทางสังคมของแต่ละภาค” เขาบอก ก่อนที่จะเตือนสำทับว่า “ยังมีร่างกฎหมายและระเบียบข้อบังคับฉบับอื่นๆ ที่สำคัญกว่าเรื่องนี้ ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยและตัดสินใจกันก่อน” นักเรียนหญิงคนหนึ่งของโรงเรียนมัธยมศึกษาไอชาดูร์รานี (Aisha Durrani High School) ซึ่งขอให้สงวนนามของเธอ กล่าวเยาะเย้ยแนวความคิดในเรื่องการปรึกษาหารือกับผู้ปกครองและชาวบ้าน เธอบอกว่า ในทางเป็นจริงแล้ว “กระทรวงศึกษาธิการก็เที่ยวตัดสินใจอะไรต่างๆ ไปตามแต่ที่ตัวเองจะพอใจเท่านั้นแหละ” เธอกล่าวต่อไปว่า “พวกเขาเคยมาถามนักเรียนว่ามีความคิดเห็นยังไงกันเมื่อไหร่ล่ะ? ท่านรัฐมนตรีน่ะมองไม่เห็นปัญหาที่พวกเรากำลังเจอกันอยู่หรือยังไง?” มีนา ฮาบิบ เป็นผู้สื่อข่าวในกรุงคาบูล ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจาก IWPR ทั้งนี้สถาบันเพื่อการรายงานข่าวสงครามและสันติภาพ (Institute for War and Peace Reporting ใช้อักษรย่อว่า IWPR) เป็นองค์การไม่แสวงกำไรที่มุ่งพัฒนาสื่อมวลชนในดินแดนที่เป็นแนวหน้าของความขัดแย้ง,วิกฤต, และความเปลี่ยนแปลง...โดย มีนา ฮาบิบ ขอบคุณ... http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000102359 ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 17 ส.ค.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...