"วสันต์ แสนเวียน" พ่อใหญ่ใจดีแห่งบ้านสายรุ้ง
โดย... ปวีณรัตน์ เฟื่องสีไหม : ผมทำแล้วมีความสุข ผมเห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มันเปรียบเสมือนชีวิตของผมไปแล้ว ตื่นมาทุกครั้งก็ต้องเจอพวกเขา มันทำให้เรามีพลังเมื่อเห็นเขาเติบโตออกไปใช้ชีวิตในโลกกว้างได้” นายวสันต์ แสนเวียน ผู้อำนวยการมูลนิธิบ้านสายรุ้ง ปากเกร็ด ที่ดูแลเด็กออทิสติก กว่า 45 ชีวิต จากบุรุษพยาบาลที่ทำงานอยู่ทางภาคเหนือ หันเหชีวิตมาดูแลเด็กๆ กว่า 20 ปี
นายวสันต์ เล่าว่า หลังกลับจากอังกฤษ เริ่มรู้สึกว่าชอบงานเกี่ยวกับเด็ก โดยแรกเริ่มได้เข้าไปทำงานที่บ้านเฟื่องฟ้าก่อน จนปัจจุบันก่อตั้งมูลนิธิบ้านสายรุ้งขึ้นมาเพื่อฟื้นฟู สภาพจิตใจ ร่างกาย ของเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง ร่างกาย และจิตใจ ตนและพยาบาลช่วยกันดูแลเด็กๆทุกคนโดยการสอนให้เด็กช่วยเหลือตนเองได้ เพราะเมื่อเขาออกไปอยู่ข้างนอกจะได้สามารถช่วยเหลือตัวเองและเข้ากับสังคมได้ บ้านสายรุ้งจะแตกต่างจากที่อื่นตรงที่จะไม่ทำอะไรแทนเด็กๆ ทุกครั้งที่มีเด็กเข้ามาใหม่จะมีพยาบาลคอยช่วยสอนให้อาบน้ำ ทานข้าวเอง ตนเชื่อว่าเด็กเหล่านี้มีศักยภาพอยู่แล้ว ดังที่เรียกว่า “differentially able person” หรือกลุ่มคนที่มีความสามารถแตกต่างกัน
คือไม่ได้มองที่ข้อบกพร่องแต่เป็นการมองหาสิ่งดีที่มีอยู่ในตัวเด็กและนำมาพัฒนาให้ดีขึ้น การพัฒนาศักยภาพของเด็ก โดยจะให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นมายากล การรำไทย มีการเรียนการสอนเหมือนโรงเรียนทั่วไป และบางคนก็กลับไปทำงานได้อย่างคนปกติแม้อวัยวะบางส่วนจะขาด บางคนสามารถเล่นกลได้อย่างมืออาชีพ และบางคนถูกส่งไปเรียนตามโรงเรียนเหมือนเด็กปกติ
อีกทั้ง มูลนิธิบ้านสายรุ้งยังออกนอกพื้นที่เพื่อไปสอนผู้ปกครองที่มีลูกพิการทั้งทางด้านร่างกายและสมองถึงนอกประตูบ้านด้วย จะให้ผู้ปกครองดูแลลูกของตัวเองเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เอาเด็กมาทิ้ง ขณะเดียวกันก็สอนอาชีพเสริมให้กับพ่อแม่ของเด็กๆ เพื่อเป็นรายได้เสริม เพราะมีแนวคิดว่าพ่อแม่ของเด็กกลุ่มนี้ไม่มีเวลาออกไปทำงานนอกบ้านต้องคอย ดูแลลูก
“ผมย้ำเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแล เด็กๆเสมอว่า ต้องใจเย็น และรักเด็ก เพราะเด็กแต่ละคนจะมีลักษณะเฉพาะ ค่อนข้างดูแลอยาก อย่างไรก็ดี ปัญหาที่มูลนิธิกำลังเผชิญอยู่ก็คือ ยังขาดบุคลกรที่จะเข้ามาทำงานตรงนี้อย่างจริงจัง ส่วนมากจะทำได้แค่แป็ปเดียวก็ไป” ผ.อ.วสันต์ กล่าว
แน่นอนว่าการดูแลเด็กออทิสติก ต้องมีความยากมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเอาใจใส่ การมอบความรัก วสันต์ บอกว่า เด็กแต่ละคนจะใช้เวลาการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจต่างกัน บางคนอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะปรับตัวและช่วยเหลือตนเองได้ เพราะฉะนั้นคนที่จะมาดูแลเด็กๆเหล่านี้ ต้องมีนิสัยอ่อนโยน จิตใจเมตตา ใช้ความรักดูแล อย่างตอนนี้ทุกคนในบ้านของผมเองก็เอาเวลามาช่วยกันดูแลพวกเขา บางคนมาแบบขาดความรัก ขาดพ่อแม่ ผมและภรรยาก็ให้เขาเรียกว่าพ่อแม่ เพื่อเป็นการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป และสิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กๆมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น พร้อมทังยังเป็นการลบปมด้อยในใจเด็กอีกด้วย
“สิ่งที่เห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเด็กอย่างชัดเจนก็คือพัฒนาการที่ดีขึ้น เมื่อเด็กออกไปข้างนอกกับผมพวกเขามีมารยาท อยู่ในสังคมได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป หลายคนชื่นชมในตัวเด็ก และผมเชื่อว่าเด็กเหล่านี้มีความสามารถไม่แพ้กลุ่มเด็กปกติ “ ผ.อ.วสันต์ บอก
อยากให้สังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น และร่วมกันแบ่งปัน ความรัก พื้นที่เล็กๆให้เด็กๆได้มีที่ยืนและแสดงความสามารถที่เขามีอยู่ออกมาได้ อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งมอบโอกาสดีๆให้แกเด็กๆ เพียงเท่านี้เด็กๆที่เติบโตออกไปก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วไปแล้ว
ขอบคุณ... http://manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9560000106180 (ขนาดไฟล์: 164)
ASTV ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ส.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ผ.อ.วสันต์ แสนเวียน และเด็กๆ โดย... ปวีณรัตน์ เฟื่องสีไหม : ผมทำแล้วมีความสุข ผมเห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มันเปรียบเสมือนชีวิตของผมไปแล้ว ตื่นมาทุกครั้งก็ต้องเจอพวกเขา มันทำให้เรามีพลังเมื่อเห็นเขาเติบโตออกไปใช้ชีวิตในโลกกว้างได้” นายวสันต์ แสนเวียน ผู้อำนวยการมูลนิธิบ้านสายรุ้ง ปากเกร็ด ที่ดูแลเด็กออทิสติก กว่า 45 ชีวิต จากบุรุษพยาบาลที่ทำงานอยู่ทางภาคเหนือ หันเหชีวิตมาดูแลเด็กๆ กว่า 20 ปี นายวสันต์ เล่าว่า หลังกลับจากอังกฤษ เริ่มรู้สึกว่าชอบงานเกี่ยวกับเด็ก โดยแรกเริ่มได้เข้าไปทำงานที่บ้านเฟื่องฟ้าก่อน จนปัจจุบันก่อตั้งมูลนิธิบ้านสายรุ้งขึ้นมาเพื่อฟื้นฟู สภาพจิตใจ ร่างกาย ของเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง ร่างกาย และจิตใจ ตนและพยาบาลช่วยกันดูแลเด็กๆทุกคนโดยการสอนให้เด็กช่วยเหลือตนเองได้ เพราะเมื่อเขาออกไปอยู่ข้างนอกจะได้สามารถช่วยเหลือตัวเองและเข้ากับสังคมได้ บ้านสายรุ้งจะแตกต่างจากที่อื่นตรงที่จะไม่ทำอะไรแทนเด็กๆ ทุกครั้งที่มีเด็กเข้ามาใหม่จะมีพยาบาลคอยช่วยสอนให้อาบน้ำ ทานข้าวเอง ตนเชื่อว่าเด็กเหล่านี้มีศักยภาพอยู่แล้ว ดังที่เรียกว่า “differentially able person” หรือกลุ่มคนที่มีความสามารถแตกต่างกัน คือไม่ได้มองที่ข้อบกพร่องแต่เป็นการมองหาสิ่งดีที่มีอยู่ในตัวเด็กและนำมาพัฒนาให้ดีขึ้น การพัฒนาศักยภาพของเด็ก โดยจะให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นมายากล การรำไทย มีการเรียนการสอนเหมือนโรงเรียนทั่วไป และบางคนก็กลับไปทำงานได้อย่างคนปกติแม้อวัยวะบางส่วนจะขาด บางคนสามารถเล่นกลได้อย่างมืออาชีพ และบางคนถูกส่งไปเรียนตามโรงเรียนเหมือนเด็กปกติ อีกทั้ง มูลนิธิบ้านสายรุ้งยังออกนอกพื้นที่เพื่อไปสอนผู้ปกครองที่มีลูกพิการทั้งทางด้านร่างกายและสมองถึงนอกประตูบ้านด้วย จะให้ผู้ปกครองดูแลลูกของตัวเองเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เอาเด็กมาทิ้ง ขณะเดียวกันก็สอนอาชีพเสริมให้กับพ่อแม่ของเด็กๆ เพื่อเป็นรายได้เสริม เพราะมีแนวคิดว่าพ่อแม่ของเด็กกลุ่มนี้ไม่มีเวลาออกไปทำงานนอกบ้านต้องคอย ดูแลลูก “ผมย้ำเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแล เด็กๆเสมอว่า ต้องใจเย็น และรักเด็ก เพราะเด็กแต่ละคนจะมีลักษณะเฉพาะ ค่อนข้างดูแลอยาก อย่างไรก็ดี ปัญหาที่มูลนิธิกำลังเผชิญอยู่ก็คือ ยังขาดบุคลกรที่จะเข้ามาทำงานตรงนี้อย่างจริงจัง ส่วนมากจะทำได้แค่แป็ปเดียวก็ไป” ผ.อ.วสันต์ กล่าว แน่นอนว่าการดูแลเด็กออทิสติก ต้องมีความยากมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเอาใจใส่ การมอบความรัก วสันต์ บอกว่า เด็กแต่ละคนจะใช้เวลาการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจต่างกัน บางคนอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะปรับตัวและช่วยเหลือตนเองได้ เพราะฉะนั้นคนที่จะมาดูแลเด็กๆเหล่านี้ ต้องมีนิสัยอ่อนโยน จิตใจเมตตา ใช้ความรักดูแล อย่างตอนนี้ทุกคนในบ้านของผมเองก็เอาเวลามาช่วยกันดูแลพวกเขา บางคนมาแบบขาดความรัก ขาดพ่อแม่ ผมและภรรยาก็ให้เขาเรียกว่าพ่อแม่ เพื่อเป็นการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป และสิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กๆมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น พร้อมทังยังเป็นการลบปมด้อยในใจเด็กอีกด้วย “สิ่งที่เห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเด็กอย่างชัดเจนก็คือพัฒนาการที่ดีขึ้น เมื่อเด็กออกไปข้างนอกกับผมพวกเขามีมารยาท อยู่ในสังคมได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป หลายคนชื่นชมในตัวเด็ก และผมเชื่อว่าเด็กเหล่านี้มีความสามารถไม่แพ้กลุ่มเด็กปกติ “ ผ.อ.วสันต์ บอก อยากให้สังคมไทยเปิดกว้างมากขึ้น และร่วมกันแบ่งปัน ความรัก พื้นที่เล็กๆให้เด็กๆได้มีที่ยืนและแสดงความสามารถที่เขามีอยู่ออกมาได้ อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งมอบโอกาสดีๆให้แกเด็กๆ เพียงเท่านี้เด็กๆที่เติบโตออกไปก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วไปแล้ว ขอบคุณ... http://manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9560000106180 ASTV ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ส.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)