พี่น้องในอินเดียป่วยแปลก แก่เร็วกว่าคนปกติ 8 เท่า ทยอยตายทีละคน

แสดงความคิดเห็น

อาลี ฮัสเซน ข่าน วัย 14 ปี  ป่วยโรคแก่ก่อนวัย

โรคประหลาดบนโลกของเรายังมีอีกมากมายที่ยังคงหาหนทางรักษาไม่ได้ และ "โรคแก่ก่อนวัย" (Progeria Syndrome หรือ Hutchinson-Gilford Progeria Syndrome) ก็เป็นหนึ่งในโรคประหลาดที่พบยาก เท่าที่ทราบทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคนี้อยู่เพียง 80 รายเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีหนทางรักษา แม้ทารกจะคลอดมาเหมือนเด็กปกติแต่ร่างกายจะทรุดโทรมเร็วกว่าคนอื่น ๆ ถึง 8 เท่า และน่าสลดใจที่โรคนี้เกิดขึ้นกับพี่น้องตระกูล ฮัสเซน ข่าน ครอบครัวจากรัฐพิหาร ซึ่งเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดในอินเดีย และตอนนี้ทุกคนทยอยเสียชีวิตกันไปหมดแล้ว เหลือเพียง อาลี ฮัสเซน ข่าน วัย 14 ปี เพียงคนเดียว ที่ยังคงมีชีวิตอยู่รอดมาได้

แม่อุ้ม อาลี ฮัสเซน ข่าน เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษ รายงานในวันที่ 25 สิงหาคม ว่า อาลี เป็นลูกคนที่ 6 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน เขาเติบโตมาในสภาพตัวเล็กแกร็น ผิวเหี่ยวย่น ซึ่งเป็นอาการของผู้ป่วยโรคแก่ก่อนวัย แต่ไม่เพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีอาการประหลาดนี้ อาลียังมีพี่น้องอีก 5 คนป่วยด้วยอาการเดียวกัน ทั้งหมดเติบโตด้วยกันมาอย่างกลมเกลียวและเข้าอกเข้าใจกันดี อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา ไม่มีใครอยากไปโรงเรียนเพราะถูกเพื่อน ๆ ล้อ ทว่าในตอนนี้พี่น้องทั้ง 5 ของอาลีเสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงเขาเท่านั้นที่รอให้ถึงเวลาของตนบ้าง แต่อาลีก็ยังคงหวังว่าสักวันจะมียาหรือวิธีที่รักษาอาการของเขาได้ และเขาจะได้ใช้ชีวิตปกติเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป

พี่น้องตระกูล ฮัสเซน ข่าน ขณะยังมีชีวิตครบทุกคน พ่อและ แม่ของอาลี มี รีฮาน่า ลูกคนแรกในปี 1983 เมื่อแรกเกิดนั้นเธอดูเหมือนเด็กปกติที่สมบูรณ์ดีทุกอย่าง จนย่างเข้าสองขวบทั้งคู่จึงเริ่มสังเกตเห็นว่าลูกคนแรกของตนไม่สามารถกิน หรือเดินได้ปกติเหมือนเด็กวัยเดียวกันคนอื่น ๆ เมื่อพาไปพบหมอก็ไม่ได้ความกระจ่างใด ๆ ได้เพียงยาชุดหนึ่งกลับมา และมันไม่ได้ทำให้อาการของเธอดีขึ้นเลย หลังจากนั้น อาการเช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับอิกคามุล ลูกชายคนถัดมา ก่อนจะเกิดขึ้นกับกูดิยา, รูบินา และตัวอาลีเอง ซึ่งเกิดในปี 1987, 1989, 1992 และ 1999 ตามลำดับ นอกจากนี้อาลียังมีน้องชายอีกหนึ่งคนที่เกิดมาด้วยโรคแก่ก่อนวัยเหมือนกัน และก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นทารก อย่างไรก็ดีอาลียังมีพี่น้องอีก2คนที่เกิดมาเป็นเด็กปกติคือซานจีดาวัย20ปีและจันดาวัย10ปี

"หากเราทั้งคู่รู้ว่าโรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ก็คงจะหยุดมีลูกไปนานแล้ว" คู่สามีภรรยาฮัสเซน ข่าน กล่าวอย่างขมขื่น เพราะทั้งคู่เพิ่งจะรู้อาการแก่เร็วผิดปกติของลูก ๆ นั้นเป็นอาการของโรคแก่ก่อนวัยและไม่มีทางรักษาเมื่อตอนปี1995 เท่านั้นเอง เพราะความไม่รู้ ของทั้งคู่ จึงทำให้ต้องเห็นลูก ๆ จากไปทีละคน กูดิยาและรูดินาจากไปในปี 2004 เมื่อมีอายุ 15 และ 12 ปี รีฮาน่าเสียชีวิตในอีก 3 ปีต่อมาด้วยวัย 24 และพี่ชายที่อาลีรักที่สุดอิกคามุลเสียชีวิตไปในปี2009ด้วยอายุ22ปี

ในตอนนี้เหลืออาลีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่มีชีวิตรอดจากโรคแก่ก่อนวัยมาได้ แน่นอนว่าเขารู้สึกเหงาที่ไม่มีใครที่เข้าใจหัวอกคนเป็นโรคเดียวกันอยู่เป็นเพื่อน แต่เขาก็เข้มแข็งพอที่จะลุกขึ้นสู้และมีชีวิตอยู่ต่อไป ส่วนหนึ่งก็เพื่อตัวเองที่อยากจะได้ใช้ชีวิตปกติเหมือนเด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ บ้าง อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อพ่อและแม่ที่เขาไม่อยากเห็นทั้งคู่ต้องมาเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะต้องเห็นเขาตายจากไปอีกคน

ปัจจุบันอาลีอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ แม้จะยังไม่มีหนทางรักษา แต่ดอกเตอร์เชคการ์ก็กล่าวว่า เขาจะพยายามดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของอาลีให้ดีที่สุด แม้ว่าผู้ป่วยโรคนี้โดยทั่วไปมักเสียชีวิตในระหว่างอายุ 13-15 ปี ด้วยอาการหัวใจล้มเหลวหรือเป็นปอดบวม แต่ก็แอบตั้งความหวังไว้ว่าอย่างน้อยให้อาลีอยู่ได้ถึง 24 ปี เหมือนอย่างพี่สาวคนโตของเขาก็ยังดี : เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Mạng Việt Nam

ขอบคุณ... http://hilight.kapook.com/view/90301 (ขนาดไฟล์: 175)

กระปุกดอทคอมออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ส.ค.56

ที่มา: กระปุกดอทคอมออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ส.ค.56
วันที่โพสต์: 28/08/2556 เวลา 03:06:39 ดูภาพสไลด์โชว์ พี่น้องในอินเดียป่วยแปลก แก่เร็วกว่าคนปกติ 8 เท่า ทยอยตายทีละคน

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

อาลี ฮัสเซน ข่าน วัย 14 ปี ป่วยโรคแก่ก่อนวัย โรคประหลาดบนโลกของเรายังมีอีกมากมายที่ยังคงหาหนทางรักษาไม่ได้ และ "โรคแก่ก่อนวัย" (Progeria Syndrome หรือ Hutchinson-Gilford Progeria Syndrome) ก็เป็นหนึ่งในโรคประหลาดที่พบยาก เท่าที่ทราบทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคนี้อยู่เพียง 80 รายเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีหนทางรักษา แม้ทารกจะคลอดมาเหมือนเด็กปกติแต่ร่างกายจะทรุดโทรมเร็วกว่าคนอื่น ๆ ถึง 8 เท่า และน่าสลดใจที่โรคนี้เกิดขึ้นกับพี่น้องตระกูล ฮัสเซน ข่าน ครอบครัวจากรัฐพิหาร ซึ่งเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดในอินเดีย และตอนนี้ทุกคนทยอยเสียชีวิตกันไปหมดแล้ว เหลือเพียง อาลี ฮัสเซน ข่าน วัย 14 ปี เพียงคนเดียว ที่ยังคงมีชีวิตอยู่รอดมาได้ แม่อุ้ม อาลี ฮัสเซน ข่าน เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษ รายงานในวันที่ 25 สิงหาคม ว่า อาลี เป็นลูกคนที่ 6 จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน เขาเติบโตมาในสภาพตัวเล็กแกร็น ผิวเหี่ยวย่น ซึ่งเป็นอาการของผู้ป่วยโรคแก่ก่อนวัย แต่ไม่เพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีอาการประหลาดนี้ อาลียังมีพี่น้องอีก 5 คนป่วยด้วยอาการเดียวกัน ทั้งหมดเติบโตด้วยกันมาอย่างกลมเกลียวและเข้าอกเข้าใจกันดี อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา ไม่มีใครอยากไปโรงเรียนเพราะถูกเพื่อน ๆ ล้อ ทว่าในตอนนี้พี่น้องทั้ง 5 ของอาลีเสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียงเขาเท่านั้นที่รอให้ถึงเวลาของตนบ้าง แต่อาลีก็ยังคงหวังว่าสักวันจะมียาหรือวิธีที่รักษาอาการของเขาได้ และเขาจะได้ใช้ชีวิตปกติเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่ว ๆ ไป พี่น้องตระกูล ฮัสเซน ข่าน ขณะยังมีชีวิตครบทุกคน พ่อและ แม่ของอาลี มี รีฮาน่า ลูกคนแรกในปี 1983 เมื่อแรกเกิดนั้นเธอดูเหมือนเด็กปกติที่สมบูรณ์ดีทุกอย่าง จนย่างเข้าสองขวบทั้งคู่จึงเริ่มสังเกตเห็นว่าลูกคนแรกของตนไม่สามารถกิน หรือเดินได้ปกติเหมือนเด็กวัยเดียวกันคนอื่น ๆ เมื่อพาไปพบหมอก็ไม่ได้ความกระจ่างใด ๆ ได้เพียงยาชุดหนึ่งกลับมา และมันไม่ได้ทำให้อาการของเธอดีขึ้นเลย หลังจากนั้น อาการเช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับอิกคามุล ลูกชายคนถัดมา ก่อนจะเกิดขึ้นกับกูดิยา, รูบินา และตัวอาลีเอง ซึ่งเกิดในปี 1987, 1989, 1992 และ 1999 ตามลำดับ นอกจากนี้อาลียังมีน้องชายอีกหนึ่งคนที่เกิดมาด้วยโรคแก่ก่อนวัยเหมือนกัน และก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นทารก อย่างไรก็ดีอาลียังมีพี่น้องอีก2คนที่เกิดมาเป็นเด็กปกติคือซานจีดาวัย20ปีและจันดาวัย10ปี "หากเราทั้งคู่รู้ว่าโรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ก็คงจะหยุดมีลูกไปนานแล้ว" คู่สามีภรรยาฮัสเซน ข่าน กล่าวอย่างขมขื่น เพราะทั้งคู่เพิ่งจะรู้อาการแก่เร็วผิดปกติของลูก ๆ นั้นเป็นอาการของโรคแก่ก่อนวัยและไม่มีทางรักษาเมื่อตอนปี1995 เท่านั้นเอง เพราะความไม่รู้ ของทั้งคู่ จึงทำให้ต้องเห็นลูก ๆ จากไปทีละคน กูดิยาและรูดินาจากไปในปี 2004 เมื่อมีอายุ 15 และ 12 ปี รีฮาน่าเสียชีวิตในอีก 3 ปีต่อมาด้วยวัย 24 และพี่ชายที่อาลีรักที่สุดอิกคามุลเสียชีวิตไปในปี2009ด้วยอายุ22ปี ในตอนนี้เหลืออาลีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่มีชีวิตรอดจากโรคแก่ก่อนวัยมาได้ แน่นอนว่าเขารู้สึกเหงาที่ไม่มีใครที่เข้าใจหัวอกคนเป็นโรคเดียวกันอยู่เป็นเพื่อน แต่เขาก็เข้มแข็งพอที่จะลุกขึ้นสู้และมีชีวิตอยู่ต่อไป ส่วนหนึ่งก็เพื่อตัวเองที่อยากจะได้ใช้ชีวิตปกติเหมือนเด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ บ้าง อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อพ่อและแม่ที่เขาไม่อยากเห็นทั้งคู่ต้องมาเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะต้องเห็นเขาตายจากไปอีกคน ปัจจุบันอาลีอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ แม้จะยังไม่มีหนทางรักษา แต่ดอกเตอร์เชคการ์ก็กล่าวว่า เขาจะพยายามดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของอาลีให้ดีที่สุด แม้ว่าผู้ป่วยโรคนี้โดยทั่วไปมักเสียชีวิตในระหว่างอายุ 13-15 ปี ด้วยอาการหัวใจล้มเหลวหรือเป็นปอดบวม แต่ก็แอบตั้งความหวังไว้ว่าอย่างน้อยให้อาลีอยู่ได้ถึง 24 ปี เหมือนอย่างพี่สาวคนโตของเขาก็ยังดี : เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Mạng Việt Nam ขอบคุณ... http://hilight.kapook.com/view/90301 กระปุกดอทคอมออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ส.ค.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...