ช่วยด้วย!!ขอเข้าชื่อในทะเบียนบ้าน
คุณอัญชลี ศรีเมือง นักศึกษามหาวิทยาลัยพิษณุโลก ถนนเลี่ยงเมืองตอนใต้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ขอความช่วยเหลือคนพิการและแม่คนพิการที่ป่วยเป็นโรคไต เบาหวาน ตามองไม่ค่อยเห็น ชื่อ นางวาสนา เสมาทอง อายุ 54 ปี และนายสุเชษฐ์ เสมาทอง อายุ 17 ปี ซึ่งนายสุเชษฐ์พิการเดินไม่ได้ตั้งแต่เกิด ฐานะยากจนมาก ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยอาศัยที่ดินคนอื่นสร้างเป็นกระท่อมอยู่ที่ ม.20 บ้านน้ำริน ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก อาชีพที่ทำอยู่คือก่อสร้าง โดยนายสุเชษฐ์จะช่วยแม่มัดเหล็ก ทำงานหนักไม่ได้ เสื้อผ้าก็ไม่มีใส่ ส่วนคุณวาสนาไม่ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล 3 เดือนแล้ว เพราะมาทำงานเป็นคนงานก่อสร้างในเมืองพิษณุโลก คุณสุเชษฐ์ไม่มีบัตรคนพิการเลยไม่ได้รับสิทธิการช่วยเหลืออะไร ไม่ได้รับเบี้ยคนพิการ แต่ปัจจุบันคุณวาสนาและคุณสุเชษฐ์ 2 แม่ลูก มาเป็นคนงานให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารของมหาวิทยาลัยพิษณุโลกส่วนสี่แยก อินโดจีน ใกล้ขนส่งใหม่ ถนนเลี่ยงเมืองตอนใต้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก อยู่ที่พักคนงานซึ่งไม่ต่างกับบ้านที่อยู่ที่บ้านน้ำริน
ณ ตอนนี้มีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลกเข้ามา ช่วยดำเนินเรื่อง และทราบว่าจะหารถเข็นให้ แต่อยากขอความช่วยเหลือเบื้องต้นคือ ข้าวสารอาหารแห้งและเสื้อผ้า โดยเบื้องต้นได้นำข้าวสารและผ้าห่มไปมอบให้ 2 แม่ลูก และรายการร่วมด้วยช่วยกัน จ.พิษณุโลก ประสานขอคำปรึกษาและพา 2 แม่ลูกเข้าพบนายพยุง คุ้มสุพรรณ ปลัดอาวุโส อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เรื่องการทำบัตรประชาชนให้กับนายสุเชษฐ์ เสมาทอง ซึ่งไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผู้ใหญ่บ้าน ม.20 แจ้งว่าเมื่อหลายปีก่อน ได้มีการทำประชาคมหมู่บ้านว่าลูกชายนางวาสนา เสมาทอง เกิดที่ตำบลบ้านกลางที่อาศัยอยู่ แต่นางวาสนา ผู้เป็นแม่บอกทางอำเภอว่าไม่ใช่เกิดที่บ้านกลาง แต่เกิดที่โรงพยาบาลบางเลน จังหวัดนครปฐม จึงไม่สามารถมีชื่อของนายสุเชษฐ์ ในทะเบียนบ้านได้ ปัจจุบันจะออกให้ก็จะผิดการทำประชาคมไว้ ซึ่งกรณีนี้ทางนายชวลิต เหมือนภักตร์ และนางสมพิศ ชัยพร ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน จะทำหนังสือไปที่โรงพยาบาลบางเลน จังหวัดนครปฐม เพื่อขอหลักฐานการเกิดของนายสุเชษฐ์ หากมีจะมีการสอบพยาน 3-4 ปาก นายสุเชษฐ์สามารถเข้าชื่อในทะเบียนบ้านและทำบัตรประชาชนได้ อาจใช้เวลา 2-3 เดือน หากกรณีไม่มีเอกสารก็ต้องพิสูจน์หลักฐาน คือ การตรวจ DNA ว่าเป็นแม่ลูกกัน จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000 บาท
ต่อมาวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา คุณอัญชลี แจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัว ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เข้ามาเยี่ยม 2 แม่ลูก และกำลังจะเดินทางไปพบผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 20 ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก หาทางช่วยเหลือเรื่องบัตรเพื่อจะได้รับการช่วยเหลือจากทางรัฐได้
วันที่ 16 ตุลาคม 2556 รายการร่วมด้วยช่วยกัน จังหวัดพิษณุโลก ประสานนายสุเวคี ศรีวันทนาสกุล เจ้าหน้าที่บ้านเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แจ้งว่า เมื่อวานได้เข้าไปพบนายสุเรนท์ พรมศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 20 บ้านร้ำริน ตำบลบ้านกลาง แล้วและผู้ใหญ่ได้เซ็นต์รับรองว่านายสุเชษฐ์ เสมาทอง ได้อาศัยในหมู่บ้านนี้จริง วันนี้ช่วงเย็นจะเข้าไปช่วยเหลือ 2 แม่ลูก ที่อาศัยอยู่ที่พักคนงาน เบื้องต้นจะมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ส่วนการช่วยเหลือเรื่องเบี้ยยังชีพต้องรอทางอำเภอดำเนินการขอประวัตินายสุ เชษฐ์ไปที่โรงพยาบาลบางเลน จังหวัดนครปฐม หากมีประวัติสามารถทำบัตรได้แล้ว จะได้เบี้ยคนพิการและเข้าไปเยี่ยมบ้านและดูว่า 2 แม่ลูกต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไร เช่น การรักษาพยาบาลก็จะมีการประสานทางหน่วยพยาบาล และนำมาประชุมเพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป
ขอบคุณ… http://www.rd1677.com/reshow.php?trnumber=201310161208251381896505
( ร่วมด้วยช่วยกันออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ต.ค.56 )
ที่มา: ร่วมด้วยช่วยกันออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ต.ค.56
วันที่โพสต์: 17/10/2556 เวลา 03:56:11 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
คุณอัญชลี ศรีเมือง นักศึกษามหาวิทยาลัยพิษณุโลก ถนนเลี่ยงเมืองตอนใต้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ขอความช่วยเหลือคนพิการและแม่คนพิการที่ป่วยเป็นโรคไต เบาหวาน ตามองไม่ค่อยเห็น ชื่อ นางวาสนา เสมาทอง อายุ 54 ปี และนายสุเชษฐ์ เสมาทอง อายุ 17 ปี ซึ่งนายสุเชษฐ์พิการเดินไม่ได้ตั้งแต่เกิด ฐานะยากจนมาก ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยอาศัยที่ดินคนอื่นสร้างเป็นกระท่อมอยู่ที่ ม.20 บ้านน้ำริน ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก อาชีพที่ทำอยู่คือก่อสร้าง โดยนายสุเชษฐ์จะช่วยแม่มัดเหล็ก ทำงานหนักไม่ได้ เสื้อผ้าก็ไม่มีใส่ ส่วนคุณวาสนาไม่ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล 3 เดือนแล้ว เพราะมาทำงานเป็นคนงานก่อสร้างในเมืองพิษณุโลก คุณสุเชษฐ์ไม่มีบัตรคนพิการเลยไม่ได้รับสิทธิการช่วยเหลืออะไร ไม่ได้รับเบี้ยคนพิการ แต่ปัจจุบันคุณวาสนาและคุณสุเชษฐ์ 2 แม่ลูก มาเป็นคนงานให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารของมหาวิทยาลัยพิษณุโลกส่วนสี่แยก อินโดจีน ใกล้ขนส่งใหม่ ถนนเลี่ยงเมืองตอนใต้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก อยู่ที่พักคนงานซึ่งไม่ต่างกับบ้านที่อยู่ที่บ้านน้ำริน ณ ตอนนี้มีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลกเข้ามา ช่วยดำเนินเรื่อง และทราบว่าจะหารถเข็นให้ แต่อยากขอความช่วยเหลือเบื้องต้นคือ ข้าวสารอาหารแห้งและเสื้อผ้า โดยเบื้องต้นได้นำข้าวสารและผ้าห่มไปมอบให้ 2 แม่ลูก และรายการร่วมด้วยช่วยกัน จ.พิษณุโลก ประสานขอคำปรึกษาและพา 2 แม่ลูกเข้าพบนายพยุง คุ้มสุพรรณ ปลัดอาวุโส อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เรื่องการทำบัตรประชาชนให้กับนายสุเชษฐ์ เสมาทอง ซึ่งไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผู้ใหญ่บ้าน ม.20 แจ้งว่าเมื่อหลายปีก่อน ได้มีการทำประชาคมหมู่บ้านว่าลูกชายนางวาสนา เสมาทอง เกิดที่ตำบลบ้านกลางที่อาศัยอยู่ แต่นางวาสนา ผู้เป็นแม่บอกทางอำเภอว่าไม่ใช่เกิดที่บ้านกลาง แต่เกิดที่โรงพยาบาลบางเลน จังหวัดนครปฐม จึงไม่สามารถมีชื่อของนายสุเชษฐ์ ในทะเบียนบ้านได้ ปัจจุบันจะออกให้ก็จะผิดการทำประชาคมไว้ ซึ่งกรณีนี้ทางนายชวลิต เหมือนภักตร์ และนางสมพิศ ชัยพร ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน จะทำหนังสือไปที่โรงพยาบาลบางเลน จังหวัดนครปฐม เพื่อขอหลักฐานการเกิดของนายสุเชษฐ์ หากมีจะมีการสอบพยาน 3-4 ปาก นายสุเชษฐ์สามารถเข้าชื่อในทะเบียนบ้านและทำบัตรประชาชนได้ อาจใช้เวลา 2-3 เดือน หากกรณีไม่มีเอกสารก็ต้องพิสูจน์หลักฐาน คือ การตรวจ DNA ว่าเป็นแม่ลูกกัน จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000 บาท ต่อมาวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา คุณอัญชลี แจ้งว่า มีเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัว ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เข้ามาเยี่ยม 2 แม่ลูก และกำลังจะเดินทางไปพบผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 20 ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก หาทางช่วยเหลือเรื่องบัตรเพื่อจะได้รับการช่วยเหลือจากทางรัฐได้ วันที่ 16 ตุลาคม 2556 รายการร่วมด้วยช่วยกัน จังหวัดพิษณุโลก ประสานนายสุเวคี ศรีวันทนาสกุล เจ้าหน้าที่บ้านเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แจ้งว่า เมื่อวานได้เข้าไปพบนายสุเรนท์ พรมศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 20 บ้านร้ำริน ตำบลบ้านกลาง แล้วและผู้ใหญ่ได้เซ็นต์รับรองว่านายสุเชษฐ์ เสมาทอง ได้อาศัยในหมู่บ้านนี้จริง วันนี้ช่วงเย็นจะเข้าไปช่วยเหลือ 2 แม่ลูก ที่อาศัยอยู่ที่พักคนงาน เบื้องต้นจะมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ส่วนการช่วยเหลือเรื่องเบี้ยยังชีพต้องรอทางอำเภอดำเนินการขอประวัตินายสุ เชษฐ์ไปที่โรงพยาบาลบางเลน จังหวัดนครปฐม หากมีประวัติสามารถทำบัตรได้แล้ว จะได้เบี้ยคนพิการและเข้าไปเยี่ยมบ้านและดูว่า 2 แม่ลูกต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไร เช่น การรักษาพยาบาลก็จะมีการประสานทางหน่วยพยาบาล และนำมาประชุมเพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป ขอบคุณ… http://www.rd1677.com/reshow.php?trnumber=201310161208251381896505 ( ร่วมด้วยช่วยกันออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ต.ค.56 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
