วอนผู้ใจบุญช่วยน้องเมย์ เด็กกตัญญูวัย 13 ปีดูแลแม่พิการนาน 10 ปี
สุโขทัย - พบเด็กหญิงยอดกตัญญูใน อ.กงไกรลาศ ดูแลแม่พิการกว่า 10 ปี เผยบ้านที่อยู่วัดให้อาศัยส่วนแม่ต้องอยู่โรงพยาบาลเพราะป่วยหนักวอนผู้ใจบุญช่วย
วันที่ 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 9809 หมู่ 1 ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ตรงข้ามวัดท่าฉนวน มีแม่พิการป่วยหนักอาศัยอยู่กับลูกสาววัย 13 ปี ฐานะยากจน และต้องการความช่วยเหลือจึงไปตรวจสอบแต่ไม่พบมีใคร
สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า แม่ที่พิการชื่อนางแพรวนภา สิงห์โต อายุ 46 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาตท่อนล่างมานาน 13 ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านกับลูกสาวคนเดียว ชื่อ ด.ญ.พรทิพย์ หรือน้องเมย์ พ่วงเชียง อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนยางซ้ายพิทยาคม ขณะนี้น้องเมย์ไม่อยู่บ้านเพราะต้องไปนอนเฝ้าแม่ที่กำลังป่วยหนักจากอาการ ปอดติดเชื้อ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุโขทัย นานเกือบ1เดือนแล้ว
นางบุญสิตา ศรีนุช อายุ 42 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า นางแพรวนภาล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาตั้งแต่คลอดน้องเมย์เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังมีสามีเขาคอยดูแลอยู่ จนน้องเมย์อายุได้ 3 ขวบก็เริ่มฝึกทำงานบ้านช่วยพ่อและช่วยดูแลแม่ ต่อมาเมื่อต้นปี 2553 พ่อของน้องเมย์เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทำให้น้องเมย์ต้องอยู่กับแม่เพียงลำพังโดยมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว
"ที่ดินปลูกบ้านก็เป็นที่ของวัด ส่วนบ้านน้องเมย์นั้นได้เงินช่วยเหลือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุโขทัย รวมกับเงินเรี่ยไรของชาวบ้านช่วยกันสร้างให้ พ่อเขามีอาชีพรับจ้างทั่วไปและเก็บของเก่าขาย หลังพ่อตายน้องเมย์กับแม่ลำบากมากตลอด ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ต้องอาศัยข้าวจากวัดบ้าง จากโรงเรียนบ้าง"
นางบุญสิตากล่าวว่า น้องเมย์เป็นเด็กดี มีความรับผิดชอบตั้งแต่อายุแค่ 3 ขวบ กตัญญูต่อพ่อแม่อย่างมาก ตอนจบ ป.6 สอบได้ที่ 3 ของห้อง ล่าสุดก็เรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.80 เห็นชีวิตน้องเมย์มาตั้งแต่เกิด เขาไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหนกับเพื่อน นอกจากอยู่กับแม่ คอยดูแลไม่ห่าง เวลาว่างก็จะออกไปช่วยพ่อเดินเก็บขวด เก็บของเก่ามาขาย
"ชีวิตประจำวันของน้องเมย์เกือบ 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากเรียนหนังสือแล้ว ยังต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ตื่นตี 5 หุงข้าว ทำกับข้าว ป้อนข้าว อาบน้ำให้แม่ก่อนเตรียมตัวไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนก็ต้องมาทำเหมือนเดิม และที่น่าเห็นใจอย่างมาก ตรงที่น้องต้องตื่นกลางดึกบ่อยๆ มาช่วยพยุงแม่ซึ่งพอนอนนานๆ แล้วจะหายใจไม่ออกแต่ก็นั่งนานไม่ได้อีกเพราะจะปวดตามตัวไปหมดทุกข์ทรมานทั้งแม่และลูก"
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสุโขทัย พบน้องเมย์กำลังนั่งรอเฝ้าแม่อยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วย ซึ่งทางโรงพยาบาลให้เข้าเยี่ยมได้เป็นเวลาเท่านั้น โดยน้องเมย์บอกว่ามาเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลนานเกือบ 1 เดือนแล้ว เพราะแม่ป่วยหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว หมอกำลังฝึกให้หายใจด้วยตัวเองก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
น้องเมย์กล่าวว่า ตั้งแต่มานอนเฝ้าแม่อยู่โรงพยาบาล 2-3 วันจึงจะกลับบ้านครั้งหนึ่งเพื่อเอาเสื้อผ้าไปซัก และตอนแรกที่เห็นแม่ป่วยหนักก็ตั้งใจว่าจะขอครูหยุดพักการเรียนชั่วคราว เพื่อมาดูแลแม่อย่างเต็มที่เพราะเรียนเมื่อไหร่ก็เรียนได้แต่เป็นห่วงแม่มากกว่าที่ไม่มีใครช่วยดูแล
"พ่อสั่งหนูว่าถ้าพ่อไม่อยู่แล้วอย่าเกเร ให้ตั้งใจเรียนและอย่าทิ้งแม่ ต้องคอยดูแลแม่ให้ดี เมื่อก่อนหนูเคยคิดว่าแม่ป่วยเป็นโรคนี้เพราะหนูเกิดมา แต่แม่บอกว่าไม่ใช่ มันคงเป็นเพราะกรรมเก่าของแม่ หนูรักพ่อแม่มากไม่อยากเสียแม่ไปอีกคนอยากให้แม่อยู่เห็นหนูจนเรียนจบครูซึ่งเป็นความฝันของหนูและพ่อแม่ด้วย" น้องเมย์กล่าวอย่างมุ่งมั่นว่า พ่อแม่สอนมาตลอดชีวิตให้รักในหลวง เพราะพระองค์ท่านเป็นคนดี และให้เราพอใจในสิ่งที่มี แม้ลำบากแค่ไหนก็ต้องทน อย่าท้อ และให้ตั้งใจเรียนจะได้มีอนาคตที่ดี ซึ่งหนูไม่เคยลืมไม่เคยท้อไม่เคยรู้สึกอายใครและดีใจที่เป็นลูกของพ่อแม่
อย่างไรก็ตาม น้องเมย์กับแม่ที่พิการมีความเป็นอยู่ยากลำบากมาตลอด 3 ปีหลังพ่อเสียชีวิต เพราะมีรายได้จากเบี้ยคนพิการเพียง 500 บาทต่อเดือน ขณะที่ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าๆ ล้วนได้รับบริจาคจากเพื่อนบ้านทั้งนั้น หากผู้มีจิตศรัทธาต้องการช่วยเหลือเด็กหญิงยอดกตัญญูรายนี้ สามารถโอนเงินได้ทางธนาคารออมสิน สาขากงไกรลาศ ชื่อบัญชี ด.ญ.พรทิพย์ พ่วงเชียง ประเภทเผื่อเรียก บัญชีเลขที่ 020082159003
ขอบคุณ... http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000134531 (ขนาดไฟล์: 166)
ASTV ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ต.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
สุโขทัย - พบเด็กหญิงยอดกตัญญูใน อ.กงไกรลาศ ดูแลแม่พิการกว่า 10 ปี เผยบ้านที่อยู่วัดให้อาศัยส่วนแม่ต้องอยู่โรงพยาบาลเพราะป่วยหนักวอนผู้ใจบุญช่วย วันที่ 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 9809 หมู่ 1 ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ตรงข้ามวัดท่าฉนวน มีแม่พิการป่วยหนักอาศัยอยู่กับลูกสาววัย 13 ปี ฐานะยากจน และต้องการความช่วยเหลือจึงไปตรวจสอบแต่ไม่พบมีใคร ด.ญ.พรทิพย์ หรือน้องเมย์ พ่วงเชียง อายุ 13 ปี กำลังเยี่ยมไข้นางแพรวนภา สิงห์โต อายุ 46 ปี ผู้เป็นแม่ สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า แม่ที่พิการชื่อนางแพรวนภา สิงห์โต อายุ 46 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาตท่อนล่างมานาน 13 ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านกับลูกสาวคนเดียว ชื่อ ด.ญ.พรทิพย์ หรือน้องเมย์ พ่วงเชียง อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนยางซ้ายพิทยาคม ขณะนี้น้องเมย์ไม่อยู่บ้านเพราะต้องไปนอนเฝ้าแม่ที่กำลังป่วยหนักจากอาการ ปอดติดเชื้อ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุโขทัย นานเกือบ1เดือนแล้ว นางบุญสิตา ศรีนุช อายุ 42 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า นางแพรวนภาล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาตั้งแต่คลอดน้องเมย์เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังมีสามีเขาคอยดูแลอยู่ จนน้องเมย์อายุได้ 3 ขวบก็เริ่มฝึกทำงานบ้านช่วยพ่อและช่วยดูแลแม่ ต่อมาเมื่อต้นปี 2553 พ่อของน้องเมย์เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งทำให้น้องเมย์ต้องอยู่กับแม่เพียงลำพังโดยมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราว "ที่ดินปลูกบ้านก็เป็นที่ของวัด ส่วนบ้านน้องเมย์นั้นได้เงินช่วยเหลือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุโขทัย รวมกับเงินเรี่ยไรของชาวบ้านช่วยกันสร้างให้ พ่อเขามีอาชีพรับจ้างทั่วไปและเก็บของเก่าขาย หลังพ่อตายน้องเมย์กับแม่ลำบากมากตลอด ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ต้องอาศัยข้าวจากวัดบ้าง จากโรงเรียนบ้าง" นางบุญสิตากล่าวว่า น้องเมย์เป็นเด็กดี มีความรับผิดชอบตั้งแต่อายุแค่ 3 ขวบ กตัญญูต่อพ่อแม่อย่างมาก ตอนจบ ป.6 สอบได้ที่ 3 ของห้อง ล่าสุดก็เรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.80 เห็นชีวิตน้องเมย์มาตั้งแต่เกิด เขาไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหนกับเพื่อน นอกจากอยู่กับแม่ คอยดูแลไม่ห่าง เวลาว่างก็จะออกไปช่วยพ่อเดินเก็บขวด เก็บของเก่ามาขาย "ชีวิตประจำวันของน้องเมย์เกือบ 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากเรียนหนังสือแล้ว ยังต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ตื่นตี 5 หุงข้าว ทำกับข้าว ป้อนข้าว อาบน้ำให้แม่ก่อนเตรียมตัวไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนก็ต้องมาทำเหมือนเดิม และที่น่าเห็นใจอย่างมาก ตรงที่น้องต้องตื่นกลางดึกบ่อยๆ มาช่วยพยุงแม่ซึ่งพอนอนนานๆ แล้วจะหายใจไม่ออกแต่ก็นั่งนานไม่ได้อีกเพราะจะปวดตามตัวไปหมดทุกข์ทรมานทั้งแม่และลูก" ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสุโขทัย พบน้องเมย์กำลังนั่งรอเฝ้าแม่อยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วย ซึ่งทางโรงพยาบาลให้เข้าเยี่ยมได้เป็นเวลาเท่านั้น โดยน้องเมย์บอกว่ามาเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลนานเกือบ 1 เดือนแล้ว เพราะแม่ป่วยหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว หมอกำลังฝึกให้หายใจด้วยตัวเองก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ บ้านพักอาศัยของสองแม่ลูก น้องเมย์กล่าวว่า ตั้งแต่มานอนเฝ้าแม่อยู่โรงพยาบาล 2-3 วันจึงจะกลับบ้านครั้งหนึ่งเพื่อเอาเสื้อผ้าไปซัก และตอนแรกที่เห็นแม่ป่วยหนักก็ตั้งใจว่าจะขอครูหยุดพักการเรียนชั่วคราว เพื่อมาดูแลแม่อย่างเต็มที่เพราะเรียนเมื่อไหร่ก็เรียนได้แต่เป็นห่วงแม่มากกว่าที่ไม่มีใครช่วยดูแล "พ่อสั่งหนูว่าถ้าพ่อไม่อยู่แล้วอย่าเกเร ให้ตั้งใจเรียนและอย่าทิ้งแม่ ต้องคอยดูแลแม่ให้ดี เมื่อก่อนหนูเคยคิดว่าแม่ป่วยเป็นโรคนี้เพราะหนูเกิดมา แต่แม่บอกว่าไม่ใช่ มันคงเป็นเพราะกรรมเก่าของแม่ หนูรักพ่อแม่มากไม่อยากเสียแม่ไปอีกคนอยากให้แม่อยู่เห็นหนูจนเรียนจบครูซึ่งเป็นความฝันของหนูและพ่อแม่ด้วย" น้องเมย์กล่าวอย่างมุ่งมั่นว่า พ่อแม่สอนมาตลอดชีวิตให้รักในหลวง เพราะพระองค์ท่านเป็นคนดี และให้เราพอใจในสิ่งที่มี แม้ลำบากแค่ไหนก็ต้องทน อย่าท้อ และให้ตั้งใจเรียนจะได้มีอนาคตที่ดี ซึ่งหนูไม่เคยลืมไม่เคยท้อไม่เคยรู้สึกอายใครและดีใจที่เป็นลูกของพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม น้องเมย์กับแม่ที่พิการมีความเป็นอยู่ยากลำบากมาตลอด 3 ปีหลังพ่อเสียชีวิต เพราะมีรายได้จากเบี้ยคนพิการเพียง 500 บาทต่อเดือน ขณะที่ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าๆ ล้วนได้รับบริจาคจากเพื่อนบ้านทั้งนั้น หากผู้มีจิตศรัทธาต้องการช่วยเหลือเด็กหญิงยอดกตัญญูรายนี้ สามารถโอนเงินได้ทางธนาคารออมสิน สาขากงไกรลาศ ชื่อบัญชี ด.ญ.พรทิพย์ พ่วงเชียง ประเภทเผื่อเรียก บัญชีเลขที่ 020082159003 ขอบคุณ... http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000134531 ASTV ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ต.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)