ปฏิรูป สธ. เร่งเดินหน้าระบบสุขภาพอำเภอ-ธรรมาภิบาล จะได้เลิกโกงกิน!
สธ.เดินหน้าปฏิรูป เน้น 12 เขตบริการสุขภาพ พัฒนาระบบสุขภาพอำเภอเพื่อบริการได้อย่างไร้รอยต่อ เตรียมประเมินเพื่อพัฒนาต่อทั้งด้านบริหาร และวิชาการสนับสนุนบริการ เร่งฉีดวัคซีนเรื่องธรรมาภิบาลด้วย
วันนี้ (4 ก.พ.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ว่า สธ.เร่งปฏิรูปโดยเดินหน้าเรื่องเขตบริการสุขภาพ และการบูรณาการทำงานร่วมกันกับกรมต่างๆ และองค์กรสุขภาพ ทั้งการพัฒนาระบบสุขภาพระดับอำเภอ การบริหารงบประมาณ การทำให้เกิดธรรมาภิบาล ทั้งนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในเรื่องการบริหารงานจะต้องมีคุณธรรม มีระบบการแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นธรรม มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ต้องพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็ง และเป็นแนวปฏิบัติทั้งกระทรวง มีการจัดกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลโดยประชาคมสาธารณสุข ในการรักษาระบบคุณธรรมซึ่งจะมีการจัดเวทีร่วมแสดงความคิดเห็นและกำหนดกลไกขึ้น
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. กล่าวว่า เรื่องเขตบริการสุขภาพขณะนี้จัดตั้งแล้ว 12 เขต ต่อไปจะดำเนินการขับเคลื่อนการจัดบริการร่วมของเขต และภายในจังหวัดของแต่ละเครือข่ายแบบไร้รอยต่อไม่แยกบริการ ประชาชนได้รับการดูแลตั้งแต่เจ็บป่วยเล็กน้อยจนถึงป่วยขั้นรุนแรง ที่ต้องใช้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาเชื่อมโยงกันเบ็ดเสร็จ โดยใช้เครื่องมือสำคัญ คือ แผนจัดบริการเดียวกันและเครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอซึ่งจะเชื่อมโยงบริการของ โรงพยาบาลชุมชนทั้งหมดกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เริ่มต้นจัดบริการใน 10 สาขาด้านสุขภาพที่เป็นปัญหา เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ อุบัติเหตุ ทารกแรกเกิด สุขภาพจิตและจิตเวช ตาและไต เป็นต้น เน้น 5 กลุ่มวัย ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุโดยกลไกการทำงานจะตั้งคณะกรรมการดูแลทั้งระดับเขตจังหวัด
“สธ.จะประเมินความก้าวหน้าของการขับ เคลื่อนเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขต ใน 2 เรื่องคือ 1.ด้านการบริหาร และ 2.ด้านวิชาการสนับสนุนงานบริการ เพื่อหาโอกาสพัฒนาในช่วง 6 เดือน หรือปีต่อไป ซึ่งผลการประเมินดังกล่าวเป็นการเตรียมพร้อมเสนอเป็นทางเลือกที่เหมาะสมหาก มีการกระจายอำนาจในอนาคต โดยจะมีทีมวิชาการประเมินผล 1 ชุด ประกอบด้วยบุคลากรภายใน และภายนอกกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะทำหน้าที่วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพในแต่ละเขตบริการ แบ่งเป็น 4 ทีม โดยมีสาธารณสุขนิเทศเป็นหัวหน้าทีม คาดแล้วเสร็จภายใน มี.ค.2557 นี้” รองปลัด สธ. กล่าว
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/QOL/viewnews.aspx?NewsID=9570000013764 (ขนาดไฟล์: 164)
ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ก.พ.57
ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ก.พ.57
วันที่โพสต์: 27/02/2557 เวลา 03:18:10 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
สธ.เดินหน้าปฏิรูป เน้น 12 เขตบริการสุขภาพ พัฒนาระบบสุขภาพอำเภอเพื่อบริการได้อย่างไร้รอยต่อ เตรียมประเมินเพื่อพัฒนาต่อทั้งด้านบริหาร และวิชาการสนับสนุนบริการ เร่งฉีดวัคซีนเรื่องธรรมาภิบาลด้วย วันนี้ (4 ก.พ.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ว่า สธ.เร่งปฏิรูปโดยเดินหน้าเรื่องเขตบริการสุขภาพ และการบูรณาการทำงานร่วมกันกับกรมต่างๆ และองค์กรสุขภาพ ทั้งการพัฒนาระบบสุขภาพระดับอำเภอ การบริหารงบประมาณ การทำให้เกิดธรรมาภิบาล ทั้งนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในเรื่องการบริหารงานจะต้องมีคุณธรรม มีระบบการแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นธรรม มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ต้องพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็ง และเป็นแนวปฏิบัติทั้งกระทรวง มีการจัดกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลโดยประชาคมสาธารณสุข ในการรักษาระบบคุณธรรมซึ่งจะมีการจัดเวทีร่วมแสดงความคิดเห็นและกำหนดกลไกขึ้น ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. กล่าวว่า เรื่องเขตบริการสุขภาพขณะนี้จัดตั้งแล้ว 12 เขต ต่อไปจะดำเนินการขับเคลื่อนการจัดบริการร่วมของเขต และภายในจังหวัดของแต่ละเครือข่ายแบบไร้รอยต่อไม่แยกบริการ ประชาชนได้รับการดูแลตั้งแต่เจ็บป่วยเล็กน้อยจนถึงป่วยขั้นรุนแรง ที่ต้องใช้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาเชื่อมโยงกันเบ็ดเสร็จ โดยใช้เครื่องมือสำคัญ คือ แผนจัดบริการเดียวกันและเครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอซึ่งจะเชื่อมโยงบริการของ โรงพยาบาลชุมชนทั้งหมดกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เริ่มต้นจัดบริการใน 10 สาขาด้านสุขภาพที่เป็นปัญหา เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ อุบัติเหตุ ทารกแรกเกิด สุขภาพจิตและจิตเวช ตาและไต เป็นต้น เน้น 5 กลุ่มวัย ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุโดยกลไกการทำงานจะตั้งคณะกรรมการดูแลทั้งระดับเขตจังหวัด “สธ.จะประเมินความก้าวหน้าของการขับ เคลื่อนเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขต ใน 2 เรื่องคือ 1.ด้านการบริหาร และ 2.ด้านวิชาการสนับสนุนงานบริการ เพื่อหาโอกาสพัฒนาในช่วง 6 เดือน หรือปีต่อไป ซึ่งผลการประเมินดังกล่าวเป็นการเตรียมพร้อมเสนอเป็นทางเลือกที่เหมาะสมหาก มีการกระจายอำนาจในอนาคต โดยจะมีทีมวิชาการประเมินผล 1 ชุด ประกอบด้วยบุคลากรภายใน และภายนอกกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะทำหน้าที่วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพในแต่ละเขตบริการ แบ่งเป็น 4 ทีม โดยมีสาธารณสุขนิเทศเป็นหัวหน้าทีม คาดแล้วเสร็จภายใน มี.ค.2557 นี้” รองปลัด สธ. กล่าว ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/QOL/viewnews.aspx?NewsID=9570000013764 ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ก.พ.57
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
