HD คมชัดจนตาบอด….กับสถานการณ์บ้านเมือง
การโยนความผิด ไม่ต่างจากการโยนระเบิดใส่กัน อานุภาพความรุนแรงพอ ๆ กัน แบบเดียวกับสงครามคลิปในโลกออนไลน์ ที่ดึงเอาเหตุการณ์จริงในโลกออฟไลน์ไปปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างงัดคลิปที่โปรยหัวไว้อย่างน่าสนใจ
"คลิปชัด ๆ" ไม่ได้หมายถึงความคมชัดระดับไฮเดฟแต่อย่างใด หากหมายถึงภาพเหตุการณ์ที่มีช่างภาพอิสระจับความเคลื่อนไหวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอัพโหลดขึ้นในโลกโซเชียล โดยคลิปเดียวกันถูกตีความหมายออกได้สารพัดมุมที่นำมากล่าวอ้างเพื่อหนุนความคิดความเชื่อของตนเอง
ดูเหมือนว่าการโปรยหัวคลิปชัด ๆ ไม่ได้ทำให้คนชมคลิปมองเห็นอะไรเลย นอกจากมีคลิปไว้โยนความผิดให้อีกฝ่าย (ระดับความคมชัดจัดจนตาบอด) ปรากฏการณ์นี้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมได้เป็นอย่างดี เพราะคนไทยไม่เคยกลับไปทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเลยว่า เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร เหตุการณ์เลือดนองพื้นไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก วนเวียนอยู่ในประเทศที่หลายคนเชื่อว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
เมื่อมีการใช้ระเบิดจริงกระสุนจริงทีไรก็เห็นเลือดนองพื้นทุกที แม้จะพยายามเก็บกวาดเช็ดถูอย่างไร ยิ่งดูสกปรกเลอะเทอะขึ้นทุกที บทเรียนการสูญเสียที่คนไทยไม่เคยจดและจำ กลับทำตัวเหมือนอยู่ในศึกบางระจัน ต้องจับอาวุธรบราฆ่าฟันห้ำหั่นอริศัตรูให้มอดม้วยมรณา สิ้นยุคข้าศึกรุกราน ก็กลับมาทะเลาะกันเอง บ่มเพาะความเคียดแค้นชิงชัง ปลุกเร้าให้คนเกลียดชังกัน แบบที่พร้อมจะฆ่ากันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก โดยมองว่าอีกฝ่ายคือศัตรูคู่อาฆาต
"ทางตัน" กลายเป็นเส้นทางที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างความชอบธรรมในการดำเนินการเคลื่อนไหวของทุกฝ่าย ทั้งที่มีทางเลือกอีกมากมายให้ก้าวข้ามไป อาจจะต้องป่ายปีน เดินอ้อมบ้าง เจออุปสรรคบ้าง และสำคัญที่สุดคือ อดทนและรอคอยแต่ไม่ใช่เดินเข้าสู่สมรภูมิรบอย่างที่เป็นอยู่ น่าเสียดายคนที่คิดจะเป็นผู้เดินนำหน้าแต่ไม่รู้จักแผ้วถางทางให้ลูกหลานได้เดินสบาย ๆ กลับเลือกทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ซากศพ และระเบิดเวลาที่ฝังอยู่ตลอดเส้นทางเดิน ราวกับว่าระเบิดหลายลูกฝังอยู่ในความคิดและจิตใจคนอีกมากมายหลายกลุ่ม จึงยากที่จะกู้กลับคืนได้ เช่นเดียวกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ กลายเป็นพื้นที่แบ่งแยกคนบ่มเพาะความเกลียดชัง การกดทับ สั่งสมมานานหลายทศวรรษ จนสุดท้ายก็ปะทุเดือดอย่างทุกวันนี้
สำหรับเมืองหลวงที่เรียกได้ว่าเป็นยุทธภูมิสำคัญใจกลางเมือง ไม่ใช่ชายขอบอย่างพื้นที่ชายแดน เมื่อเกิดอะไรขึ้นย่อมกระเทือนเป็นวงกว้างและภาพชัดเจนอย่างแน่นอนผลกระเทือน ก็ไม่ใช่ใครอื่น "ประชาชนทั้งนั้น" ที่เป็นเบี้ยเป็นเหยื่อในทุกเหตุการณ์ความรุนแรงไม่ว่าจะเจ็บจะตาย หรือตายทั้งเป็น ก็ประชาชนทั้งนั้นที่รับไป
เต็ม ๆ แถมประชาชนด้วยกันทั้งนั้น ที่ออกมาประณามหยามหมิ่นเหยียดกันเอง ไม่มีแม้แต่...ความเห็นอกเห็นใจกัน เมื่อสถานการณ์ถูกดึงเข้าสู่สมรภูมิทุกฝ่ายจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นล้มอีกฝ่ายให้ได้ ห้อยโหนมันทุกอย่างที่จะเป็นผลดีต่อตัวเอง ตัดทิ้งทุกอย่างที่จะเป็นผลดีต่อฝ่ายตรงข้ามยุทธวิธีการรบที่ไม่แฟร์อย่างยิ่ง ต่อคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะ "ชาวนา" กลุ่มอาชีพที่ถูกทุกฝ่ายรุมกันห้อยโหนแม้จะเป็นโอกาสดีที่เรื่องปากท้องกลุ่มคนรากหญ้าถูกนำขึ้นมาถกเถียงในสังคมไทย แต่ชาวนาก็ไม่ได้อยู่ในสถานะควบคุมเกมการเมือง เมื่ออำนาจตกไปอยู่ที่ "อำนาจทุน" ชาวนาก็เหมือนถูกลากให้เข้าไปอยู่ในสมรภูมิรบที่ทุกฝ่ายมีอาวุธอันทรงอานุภาพ แค่กระดิกนิ้วเกมก็เปลี่ยนยอดเงินฝากเงินถอน เหมือนตัวกำหนดลมหายใจเข้าหายใจออกของชาวนา ตอนนี้ชาวนาเหมือนคนที่หายใจเข้าได้อย่างเดียว ระบบทางเดินหายใจเริ่มติดขัดเต็มทีตัวเลขการแห่ฝาก-ถอนเงินในบัญชีธนาคารออมสิน เป็นตัวชี้วัดการต่อสู้ครั้งนี้ชัดเจนที่สุด การต่อสู้ที่ว่าด้วยเรื่อง "อำนาจเงิน" แน่นอนว่างานนี้คนมีเงินมากกว่าชนะใส ๆ แม้คนรวยจะมีไม่มากแต่ทรัพย์มากกว่าเห็น ๆส่วนคนจนมีจำนวนมากแต่เงินน้อยกว่าย่อมแพ้เป็นธรรมดา นี่ก็เป็นอีกหนึ่งมุมที่สะท้อนให้เห็นว่า ทำไมคนกลุ่มหนึ่งถึงคิดว่า ตัวเองย่อมมีอำนาจต่อรองมากกว่าคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งด้อยกว่า อันนำมาสู่ความพยายามเพิ่มเสียงตัวเองให้มากกว่าคนอื่น
สิ่งนี้หรือเปล่าคือ จุดเริ่มต้นของชนวนความขัดแย้ง ใครกันที่ฉุดกระชากลากดึงสังคมไทยจมดิ่งอยู่กับความไม่เท่าเทียมกัน แบ่งแยก จนแตกแยกอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ถ้าทุกคนกลับเข้าสู่สนามแข่งขันที่มีกติกา ตามระบอบที่มอบอำนาจต่อรองให้ทุกคนเท่ากัน สู้กันแบบแฟร์ ๆ คนไทยคงไม่ต้องรบราฆ่าฟันกันให้เหนื่อย น่าจะดี ….โดย สุชาฎา ประพันธ์วงศ์
ขอบคุณ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393224344
( ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ก.พ.57 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ภาพ คนหลบหลังกำแพงโดยมีผู้ชายหนึ่งยืนคนถือปืน การโยนความผิด ไม่ต่างจากการโยนระเบิดใส่กัน อานุภาพความรุนแรงพอ ๆ กัน แบบเดียวกับสงครามคลิปในโลกออนไลน์ ที่ดึงเอาเหตุการณ์จริงในโลกออฟไลน์ไปปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างงัดคลิปที่โปรยหัวไว้อย่างน่าสนใจ "คลิปชัด ๆ" ไม่ได้หมายถึงความคมชัดระดับไฮเดฟแต่อย่างใด หากหมายถึงภาพเหตุการณ์ที่มีช่างภาพอิสระจับความเคลื่อนไหวต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอัพโหลดขึ้นในโลกโซเชียล โดยคลิปเดียวกันถูกตีความหมายออกได้สารพัดมุมที่นำมากล่าวอ้างเพื่อหนุนความคิดความเชื่อของตนเอง ดูเหมือนว่าการโปรยหัวคลิปชัด ๆ ไม่ได้ทำให้คนชมคลิปมองเห็นอะไรเลย นอกจากมีคลิปไว้โยนความผิดให้อีกฝ่าย (ระดับความคมชัดจัดจนตาบอด) ปรากฏการณ์นี้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมได้เป็นอย่างดี เพราะคนไทยไม่เคยกลับไปทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเลยว่า เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร เหตุการณ์เลือดนองพื้นไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก วนเวียนอยู่ในประเทศที่หลายคนเชื่อว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เมื่อมีการใช้ระเบิดจริงกระสุนจริงทีไรก็เห็นเลือดนองพื้นทุกที แม้จะพยายามเก็บกวาดเช็ดถูอย่างไร ยิ่งดูสกปรกเลอะเทอะขึ้นทุกที บทเรียนการสูญเสียที่คนไทยไม่เคยจดและจำ กลับทำตัวเหมือนอยู่ในศึกบางระจัน ต้องจับอาวุธรบราฆ่าฟันห้ำหั่นอริศัตรูให้มอดม้วยมรณา สิ้นยุคข้าศึกรุกราน ก็กลับมาทะเลาะกันเอง บ่มเพาะความเคียดแค้นชิงชัง ปลุกเร้าให้คนเกลียดชังกัน แบบที่พร้อมจะฆ่ากันแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก โดยมองว่าอีกฝ่ายคือศัตรูคู่อาฆาต "ทางตัน" กลายเป็นเส้นทางที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างความชอบธรรมในการดำเนินการเคลื่อนไหวของทุกฝ่าย ทั้งที่มีทางเลือกอีกมากมายให้ก้าวข้ามไป อาจจะต้องป่ายปีน เดินอ้อมบ้าง เจออุปสรรคบ้าง และสำคัญที่สุดคือ อดทนและรอคอยแต่ไม่ใช่เดินเข้าสู่สมรภูมิรบอย่างที่เป็นอยู่ น่าเสียดายคนที่คิดจะเป็นผู้เดินนำหน้าแต่ไม่รู้จักแผ้วถางทางให้ลูกหลานได้เดินสบาย ๆ กลับเลือกทางที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ซากศพ และระเบิดเวลาที่ฝังอยู่ตลอดเส้นทางเดิน ราวกับว่าระเบิดหลายลูกฝังอยู่ในความคิดและจิตใจคนอีกมากมายหลายกลุ่ม จึงยากที่จะกู้กลับคืนได้ เช่นเดียวกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ กลายเป็นพื้นที่แบ่งแยกคนบ่มเพาะความเกลียดชัง การกดทับ สั่งสมมานานหลายทศวรรษ จนสุดท้ายก็ปะทุเดือดอย่างทุกวันนี้ สำหรับเมืองหลวงที่เรียกได้ว่าเป็นยุทธภูมิสำคัญใจกลางเมือง ไม่ใช่ชายขอบอย่างพื้นที่ชายแดน เมื่อเกิดอะไรขึ้นย่อมกระเทือนเป็นวงกว้างและภาพชัดเจนอย่างแน่นอนผลกระเทือน ก็ไม่ใช่ใครอื่น "ประชาชนทั้งนั้น" ที่เป็นเบี้ยเป็นเหยื่อในทุกเหตุการณ์ความรุนแรงไม่ว่าจะเจ็บจะตาย หรือตายทั้งเป็น ก็ประชาชนทั้งนั้นที่รับไป เต็ม ๆ แถมประชาชนด้วยกันทั้งนั้น ที่ออกมาประณามหยามหมิ่นเหยียดกันเอง ไม่มีแม้แต่...ความเห็นอกเห็นใจกัน เมื่อสถานการณ์ถูกดึงเข้าสู่สมรภูมิทุกฝ่ายจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นล้มอีกฝ่ายให้ได้ ห้อยโหนมันทุกอย่างที่จะเป็นผลดีต่อตัวเอง ตัดทิ้งทุกอย่างที่จะเป็นผลดีต่อฝ่ายตรงข้ามยุทธวิธีการรบที่ไม่แฟร์อย่างยิ่ง ต่อคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ "ชาวนา" กลุ่มอาชีพที่ถูกทุกฝ่ายรุมกันห้อยโหนแม้จะเป็นโอกาสดีที่เรื่องปากท้องกลุ่มคนรากหญ้าถูกนำขึ้นมาถกเถียงในสังคมไทย แต่ชาวนาก็ไม่ได้อยู่ในสถานะควบคุมเกมการเมือง เมื่ออำนาจตกไปอยู่ที่ "อำนาจทุน" ชาวนาก็เหมือนถูกลากให้เข้าไปอยู่ในสมรภูมิรบที่ทุกฝ่ายมีอาวุธอันทรงอานุภาพ แค่กระดิกนิ้วเกมก็เปลี่ยนยอดเงินฝากเงินถอน เหมือนตัวกำหนดลมหายใจเข้าหายใจออกของชาวนา ตอนนี้ชาวนาเหมือนคนที่หายใจเข้าได้อย่างเดียว ระบบทางเดินหายใจเริ่มติดขัดเต็มทีตัวเลขการแห่ฝาก-ถอนเงินในบัญชีธนาคารออมสิน เป็นตัวชี้วัดการต่อสู้ครั้งนี้ชัดเจนที่สุด การต่อสู้ที่ว่าด้วยเรื่อง "อำนาจเงิน" แน่นอนว่างานนี้คนมีเงินมากกว่าชนะใส ๆ แม้คนรวยจะมีไม่มากแต่ทรัพย์มากกว่าเห็น ๆส่วนคนจนมีจำนวนมากแต่เงินน้อยกว่าย่อมแพ้เป็นธรรมดา นี่ก็เป็นอีกหนึ่งมุมที่สะท้อนให้เห็นว่า ทำไมคนกลุ่มหนึ่งถึงคิดว่า ตัวเองย่อมมีอำนาจต่อรองมากกว่าคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งด้อยกว่า อันนำมาสู่ความพยายามเพิ่มเสียงตัวเองให้มากกว่าคนอื่น สิ่งนี้หรือเปล่าคือ จุดเริ่มต้นของชนวนความขัดแย้ง ใครกันที่ฉุดกระชากลากดึงสังคมไทยจมดิ่งอยู่กับความไม่เท่าเทียมกัน แบ่งแยก จนแตกแยกอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ถ้าทุกคนกลับเข้าสู่สนามแข่งขันที่มีกติกา ตามระบอบที่มอบอำนาจต่อรองให้ทุกคนเท่ากัน สู้กันแบบแฟร์ ๆ คนไทยคงไม่ต้องรบราฆ่าฟันกันให้เหนื่อย น่าจะดี ….โดย สุชาฎา ประพันธ์วงศ์ ขอบคุณ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1393224344 ( ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ก.พ.57 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)