สุดเจ๋ง! 'นศ.รังสิต'เผยชีวิตเพื่อสังคม ผ่าน'หนังสารคดีดริฟท์รถ'
นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ถ่ายทอดเรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัยผ่าน "ภาพยนตร์สารคดี" นำความรู้และความถนัดที่มี ไปสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม โดยการนำทักษะการขับรถแข่งมาสอนให้แก่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษชุดคอมมานโด หรือเชียร์ลีดเดอร์สอนคนตาบอด...
ผศ.สมเกียรติ รุ่งเรืองวิริยะ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงที่มาของภาพยนตร์สารคดีครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้นำเรื่องราวที่ดีมาส่งต่อผ่านภาพยนตร์สารคดีด้วยการ หยิบยกเรื่องราวชีวิตจริง และโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมมานำเสนอ ซึ่งตรงนั้นทำให้มองเห็นถึงภาพใหญ่ในแง่ของการให้ความร่วมมือทั้งองค์กร แต่ในปีนี้อยากจะทำเป็นภาพยนตร์สารคดี เกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้รู้สึกถึงการสื่อสารได้ง่ายขึ้นใกล้ชิดขึ้น
ทั้งนี้ แม้ว่าเรื่องราวจะเล็กลง แต่คนดูจะได้สัมผัสถึงเรื่องของการให้โอกาสอย่างชัดเจน โดยเลือกเรื่องนำเสนอบุคคล ที่เรียกว่า วีรบุรุษตัวเล็กๆ โดยสิ่งที่เขาทำนั้น ไม่จำเป็นต้องใหญ่โต เพียงแค่ตัวเองมีความถนัดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และนำเรื่องนั้นไปแบ่งปันให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ซึ่งเรื่องราวเล็กๆ เหล่านี้ ถือเป็นความภูมิใจของมหาวิทยาลัย ก็คือ การใช้โอกาสนำความสามารถที่มีไปทำอะไรดีๆ เพื่อสังคม
“จุดสำคัญของเรื่องที่ยกมานำเสนอครั้งนี้ คือ เรื่องโอกาสและเป็นจังหวะเดียวกับที่มีนักศึกษา 2 กลุ่มได้รับโอกาสจากมหาวิทยาลัย เรื่องแรก คือ นักศึกษาทุนรถดริฟท์ ทุนแบบนี้ใครจะคิดว่าสถาบันไหนมาให้ความสำคัญ มหาวิทยาลัยเพียงแต่นึกถึงเรื่องที่พวกเขามีความตั้งใจจริง ก็สมควรที่จะได้รับโอกาส ซึ่งภายหลังพวกเขาเหล่านี้ได้นำความรู้ที่มีจากการดริฟท์รถไปสอนเทคนิควิธี การขับให้แก่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษชุดคอมมานโด
ส่วนอีกเรื่อง คือ นายอัษฎายุทธ คุณวิเศษพงษ์ นักศึกษาทุนเชียร์ลีดเดอร์ ผู้ที่นำความรู้ด้านนี้ไปฝึกทีมเชียร์ลีดเดอร์ผู้พิการหูหนวก โรงเรียนโสตศึกษานนทบุรี ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ คือ ความภูมิใจของมหาวิทยาลัยรังสิต ตรงที่หลังจากพวกเขาได้รับโอกาส ก็นำโอกาสนั้นไปทำอะไรดีๆ เพื่อสังคม ตรงนี้เองที่ทำให้ภาพของเรื่องการให้และการแบ่งปันชัดเจนขึ้น และที่แตกต่างกว่าปีอื่นคือ หนังสั้นเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดผ่านทาง Social Network” ผอ.สำนักงานประชาสัมพันธ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
ทางด้าน พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ นามวัน ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 4 กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทราบว่าเรื่องราวของนักศึกษาทุนรถดริฟท์ ซึ่งเคยมาให้ความรู้แก่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ชุดคอมมานโด ได้ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์สารคดีของมหาวิทยาลัย เชื่อว่าเรื่องราวของพวกเขาจะทำให้หลายคนในสังคมเปลี่ยนมุมมอง นักศึกษากลุ่มนี้ไม่ใช่แค่ซิ่งรถไปวันๆ แต่สิ่งที่พวกเขาชอบและถนัด สามารถสร้างประโยชน์แก่สังคมได้ ซึ่งหลังจากโครงการอบรมสอนเทคนิควิธีดริฟท์รถ เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน หรือต้องรักษาความปลอดภัยให้บุคคลสำคัญ
รวมทั้งการใช้รถยนต์ในภาวะ ต่างๆ หรือใช้ในภาวะฉุกเฉินที่จะเอาตัวรอดได้ ซึ่งเทคนิควิธีเหล่านี้สามารถทำให้การปฏิบัติหน้าที่ลุล่วงไปได้ โดยพวกเขาทั้ง 3 คน ได้สาธิตทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเต็มที่ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ คือ โอกาสที่ดีที่พวกเขาได้พิสูจน์ตนเอง และทำให้สังคมรับรู้ว่า การเป็นนักแข่งดริฟท์รถ ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ หากเราสามารถใช้ในทางที่ถูกต้อง กลับเป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ เมื่อเรานำความสามารถที่มีตรงนั้น มาสร้างประโยชน์ให้หน่วยงานและสังคมต่อไป
ขณะที่ นายภูวเดช นิลพฤกษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ตัวแทนกลุ่มนักศึกษาทุนรถดริฟท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนและเพื่อนอีก 2 คน คือ นายณัฐพล เขียวบุญปลูก และนายหัสวีร์ พิบูลศุภพิสิฐ รู้สึกภูมิใจที่มหาวิทยาลัยรังสิต นำเรื่องราวของพวกเรามาทำเป็นภาพยนตร์สารคดีของมหาวิทยาลัย และพวกเราทั้งสามได้มีโอกาสแสดงเองด้วย
อย่างไรก็ตาม เป็นหนังจากเรื่องจริงของพวกเรา ที่ผ่านมาสถาบันการศึกษาแห่งนี้ไม่เพียงให้โอกาสเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนให้พวกเราได้นำความสามารถที่มีไปทำประโยชน์ให้สังคมอีกด้วย จากเดิมซึ่งใครๆ มองว่าพวกเราเป็นแค่นักซิ่งรถเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นป่วนเมือง โดนตำรวจตามจับบนท้องถนน วันนี้สิ่งที่เราทำจะเป็นตัวพิสูจน์ว่า เราไม่ได้ไร้สาระต่อไป และขอขอบคุณมหาวิทยาลัยที่ให้ทุนการศึกษานี้แก่พวกเราทั้ง 3 คน และพวกเราก็เชื่อเสมอว่า โอกาสจะไม่มาหาเราหากเราไม่รู้จักที่จะไขว่คว้าและทำให้เป็นจริง เมื่อ “เห็น เชื่อ ทำได้” เราก็จะทำมันออกมาได้ดี
ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/edu/406155
ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 1 มี.ค.57
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ภาพบางส่วนจาก หนังสารคดีดริฟท์รถ นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ถ่ายทอดเรื่องราวในรั้วมหาวิทยาลัยผ่าน "ภาพยนตร์สารคดี" นำความรู้และความถนัดที่มี ไปสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม โดยการนำทักษะการขับรถแข่งมาสอนให้แก่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษชุดคอมมานโด หรือเชียร์ลีดเดอร์สอนคนตาบอด... ผศ.สมเกียรติ รุ่งเรืองวิริยะ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงที่มาของภาพยนตร์สารคดีครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้นำเรื่องราวที่ดีมาส่งต่อผ่านภาพยนตร์สารคดีด้วยการ หยิบยกเรื่องราวชีวิตจริง และโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมมานำเสนอ ซึ่งตรงนั้นทำให้มองเห็นถึงภาพใหญ่ในแง่ของการให้ความร่วมมือทั้งองค์กร แต่ในปีนี้อยากจะทำเป็นภาพยนตร์สารคดี เกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้รู้สึกถึงการสื่อสารได้ง่ายขึ้นใกล้ชิดขึ้น ทั้งนี้ แม้ว่าเรื่องราวจะเล็กลง แต่คนดูจะได้สัมผัสถึงเรื่องของการให้โอกาสอย่างชัดเจน โดยเลือกเรื่องนำเสนอบุคคล ที่เรียกว่า วีรบุรุษตัวเล็กๆ โดยสิ่งที่เขาทำนั้น ไม่จำเป็นต้องใหญ่โต เพียงแค่ตัวเองมีความถนัดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และนำเรื่องนั้นไปแบ่งปันให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ซึ่งเรื่องราวเล็กๆ เหล่านี้ ถือเป็นความภูมิใจของมหาวิทยาลัย ก็คือ การใช้โอกาสนำความสามารถที่มีไปทำอะไรดีๆ เพื่อสังคม ภาพบางส่วนจาก หนังสารคดีดริฟท์รถ “จุดสำคัญของเรื่องที่ยกมานำเสนอครั้งนี้ คือ เรื่องโอกาสและเป็นจังหวะเดียวกับที่มีนักศึกษา 2 กลุ่มได้รับโอกาสจากมหาวิทยาลัย เรื่องแรก คือ นักศึกษาทุนรถดริฟท์ ทุนแบบนี้ใครจะคิดว่าสถาบันไหนมาให้ความสำคัญ มหาวิทยาลัยเพียงแต่นึกถึงเรื่องที่พวกเขามีความตั้งใจจริง ก็สมควรที่จะได้รับโอกาส ซึ่งภายหลังพวกเขาเหล่านี้ได้นำความรู้ที่มีจากการดริฟท์รถไปสอนเทคนิควิธี การขับให้แก่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษชุดคอมมานโด ส่วนอีกเรื่อง คือ นายอัษฎายุทธ คุณวิเศษพงษ์ นักศึกษาทุนเชียร์ลีดเดอร์ ผู้ที่นำความรู้ด้านนี้ไปฝึกทีมเชียร์ลีดเดอร์ผู้พิการหูหนวก โรงเรียนโสตศึกษานนทบุรี ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ คือ ความภูมิใจของมหาวิทยาลัยรังสิต ตรงที่หลังจากพวกเขาได้รับโอกาส ก็นำโอกาสนั้นไปทำอะไรดีๆ เพื่อสังคม ตรงนี้เองที่ทำให้ภาพของเรื่องการให้และการแบ่งปันชัดเจนขึ้น และที่แตกต่างกว่าปีอื่นคือ หนังสั้นเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดผ่านทาง Social Network” ผอ.สำนักงานประชาสัมพันธ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม ทางด้าน พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ นามวัน ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 4 กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทราบว่าเรื่องราวของนักศึกษาทุนรถดริฟท์ ซึ่งเคยมาให้ความรู้แก่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ชุดคอมมานโด ได้ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์สารคดีของมหาวิทยาลัย เชื่อว่าเรื่องราวของพวกเขาจะทำให้หลายคนในสังคมเปลี่ยนมุมมอง นักศึกษากลุ่มนี้ไม่ใช่แค่ซิ่งรถไปวันๆ แต่สิ่งที่พวกเขาชอบและถนัด สามารถสร้างประโยชน์แก่สังคมได้ ซึ่งหลังจากโครงการอบรมสอนเทคนิควิธีดริฟท์รถ เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน หรือต้องรักษาความปลอดภัยให้บุคคลสำคัญ รวมทั้งการใช้รถยนต์ในภาวะ ต่างๆ หรือใช้ในภาวะฉุกเฉินที่จะเอาตัวรอดได้ ซึ่งเทคนิควิธีเหล่านี้สามารถทำให้การปฏิบัติหน้าที่ลุล่วงไปได้ โดยพวกเขาทั้ง 3 คน ได้สาธิตทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเต็มที่ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ คือ โอกาสที่ดีที่พวกเขาได้พิสูจน์ตนเอง และทำให้สังคมรับรู้ว่า การเป็นนักแข่งดริฟท์รถ ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ หากเราสามารถใช้ในทางที่ถูกต้อง กลับเป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ เมื่อเรานำความสามารถที่มีตรงนั้น มาสร้างประโยชน์ให้หน่วยงานและสังคมต่อไป ภาพบางส่วนจาก หนังสารคดีดริฟท์รถ ขณะที่ นายภูวเดช นิลพฤกษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ตัวแทนกลุ่มนักศึกษาทุนรถดริฟท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนและเพื่อนอีก 2 คน คือ นายณัฐพล เขียวบุญปลูก และนายหัสวีร์ พิบูลศุภพิสิฐ รู้สึกภูมิใจที่มหาวิทยาลัยรังสิต นำเรื่องราวของพวกเรามาทำเป็นภาพยนตร์สารคดีของมหาวิทยาลัย และพวกเราทั้งสามได้มีโอกาสแสดงเองด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นหนังจากเรื่องจริงของพวกเรา ที่ผ่านมาสถาบันการศึกษาแห่งนี้ไม่เพียงให้โอกาสเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนให้พวกเราได้นำความสามารถที่มีไปทำประโยชน์ให้สังคมอีกด้วย จากเดิมซึ่งใครๆ มองว่าพวกเราเป็นแค่นักซิ่งรถเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นป่วนเมือง โดนตำรวจตามจับบนท้องถนน วันนี้สิ่งที่เราทำจะเป็นตัวพิสูจน์ว่า เราไม่ได้ไร้สาระต่อไป และขอขอบคุณมหาวิทยาลัยที่ให้ทุนการศึกษานี้แก่พวกเราทั้ง 3 คน และพวกเราก็เชื่อเสมอว่า โอกาสจะไม่มาหาเราหากเราไม่รู้จักที่จะไขว่คว้าและทำให้เป็นจริง เมื่อ “เห็น เชื่อ ทำได้” เราก็จะทำมันออกมาได้ดี ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/edu/406155 ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 1 มี.ค.57
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)