จอช ซีล ผู้พิการหูหนวก หนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงที่รัฐเมน
ขณะที่ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่จากเหตุกราดยิงในเมืองลูอิสตัน รัฐเมน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันพุธที่ 25 ตุลาคม ต่างวิ่งหนีเมื่อได้ยินเสียงปืน แต่ ‘จอช ซีล’ ล่ามภาษามือชาวรัฐเมน คุณพ่อลูก 4 ไม่ได้ยินเสียงปืน เพราะเป็นผู้พิการทางการได้ยิน และเป็น 1 ในผู้เสียชีวิต 18 คนจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้
ในวันเกิดเหตุ จอช ซีล ล่ามภาษามือวัย 36 อยู่ที่งานแข่งขันคอร์นโฮล ที่เชอเมงกีส์ บาร์ แอนด์ กริลล์ หนึ่งในสถานที่ที่ โรเบิร์ต คาร์ด ทหารกองหนุนสหรัฐ วัย 40 ปี บุกเข้ากราดยิง โดยภายในงานมีผู้พิการทางการได้ยินอยู่ 9 คน มี 4 คนได้รับบาดเจ็บ อีก 4 คนเสียชีวิต มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย
เอลิซาเบธ หรือลิซ ซีล ภรรยาของจอชซึ่งเป็นผู้พิการทางการได้ยินเช่นกัน ให้สัมภาษณ์เอพีผ่านล่ามภาษามือว่า หลังรู้ข่าวว่าเกิดเหตุการณ์กราดยิง เธอใช้เวลาตลอดเย็นวันนั้นพยายามหาคำตอบว่าสามีเธอเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเธอรู้ว่าสามีและเพื่อนๆ อยู่ที่การแข่งขัน
ลิซเล่าว่า ต่อมามีเพื่อนเล่าให้เธอฟังว่า ผู้พิการทางหูที่รอดชีวิตมาได้เล่าว่าแม้ไม่ได้ยินเสียง แต่พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกระสุน ทำให้รู้ว่ามีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น และมีผู้พิการทางหูคนหนึ่งแกล้งนอนตายจึงรอดชีวิตมาได้
จอช และ ลิซ มีลูกด้วยกัน 4 คนได้แก่ เจย์สัน วัย 12 ปี, เซฟีน วัย 9 ขวบ, จาร์ร็อด วัย 6 ขวบ และแจ็กซ์ตัน วัย 3 ขวบ ลูกทุกคนต่างเป็นผู้พิการทางการได้ยิน แต่ถึงกระนั้นลิซเล่าว่า ครอบครัวเธอไม่เคยเงียบเหงา เพราะจอชชอบหากิจกรรมให้ลูกๆ ครอบครัวได้ทำกันทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปตั้งแคมป์ ขี่สโนว์โมบิล “บ้านเราไม่เคยมีช่วงเวลาที่น่าเบื่อ และเงียบงัน”
นอกจากเป็นคุณพ่อ เป็นสามีที่น่ารัก จอชยังเป็นคนทำงานเก่ง เคยทำงานเป็นล่ามภาษามือในการแถลงข่าวประจำวันเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่มีการระบาดหนัก และยังเป็นผู้อำนวยการล่ามภาษามือให้สมาคมไพน์ ทรี องค์กรช่วยเหลือผู้พิการ และยังเป็นผู้ริเริ่มทำค่ายให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีความพิการทางการได้ยิน
“ฉันอยากให้โลกจดจำเขา และความมีน้ำใจ ความรัก ความอดทน ความมีเมตตา แรงบันดาลใจ ความกระตือรือร้นในชีวิต ความสามารถทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ และอารมณ์ขันของเขา” ลิซบอกกับเอพี ในวันที่เธอและลูกๆ สามารถสัมผัส รับรู้ถึงสามีและพ่อผู้แสนดีได้เพียงในความทรงจำเท่านั้น
ขอบคุณ... https://www.matichon.co.th/lifestyle/social-women/news_4266617
ที่มา: matichon.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 พ.ย.66
วันที่โพสต์: 7/11/2566 เวลา 10:04:58 
