จับหนุ่มใหญ่ชาวร้อยเอ็ดตุ๋นคนพิการไป"ขอทาน"

แสดงความคิดเห็น

แถลงผลการจับกุม นายบุญโฮม หรือโม่ง ลินทอง อายุ 39 ปี

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พร้อมด้วย นางขวัญวงศ์ พิกุลทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ประชาบดี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมแถลงผลการจับกุม นายบุญโฮม หรือโม่ง ลินทอง อายุ 39 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาค้ามนุษย์ และ หน่วงเหนี่ยวกักขัง โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนครราชสีมา

ด้าน พล.ต.ต.กรไชย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกลางเดือน พ.ย. 58 ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จ.นครราชสีมา และหน่วยงานต่างๆจัดระเบียบขอทาน หลังได้รับแจ้งว่ามีการนำคนมาขอทานในลักษณะของการค้ามนุษย์ จึงทำการสืบสวนจับกุมตัว นายบุญโฮม ผู้ต้องหา ที่ใช้ผู้ที่มีความทุพลภาพทางร่างกายเพื่อหาประโยชน์เอาไว้ได้เมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ช่วยเหลือขอทานตาบอดที่ถูก นายบุญโฮม กักขังไว้ จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน จากการสอบถามเหยื่อที่ช่วยเหลืออกมาได้ ทราบว่ามีความเป็นอยู่แย่มาก โดยผู้ต้องหาจะบอกกับครอบครัวเหยื่อหรือตัวเหยื่อว่า จะให้ไปทำงานที่มีรายได้ดี เช่น หากสามารถเล่นดนตรีได้ ก็จะนำไปเล่นดนตรี เป็นต้น เมื่อครอบครัวเหยื่อและเหยื่อหลงเชื่อมาด้วย ก็กลับพามาเป็นการขอทาน มีการเอารัดเอาเปรียบแบ่งเงินให้เพียงเล็กน้อย และยังข่มขู่ว่าหากหนีไปขอทานที่อื่นจะแจ้งตำรวจจับหรือขู่ว่าจะทำร้าย อีกทั้งยังมีการกักขังเหยื่อไว้ นอกจากนี้จากข้อมูลที่ได้มา พบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีการกระทำความผิดลักษณะเดียวกันมาตั้งแต่ปี53ในหลายจังหวัด

ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้เสียหาย ทราบว่า ได้รู้จักกับ นายบุญโฮม ในชื่อ "โม่ง" และเริ่มทำงานเป็นขอทานตั้งแต่ปี 2553 โดย นายบุญโฮม อ้างว่าจะพามาทำงาน ซึ่งการทำงานจะแบ่งเป็น 2 เวลา คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น โดยมีรายได้ 1,500-2,000 บาทต่อวัน ในการทำงานแต่ละครั้ง นายบุญโฮม จะไม่เคยให้เงินติดตัวเลย และสั่งห้ามพูดคุยกับคนอื่น หากไม่ทำตามคำสั่ง นายบุญโฮมก็จะพูดจากข่มขู่ จากการทำงานครั้งล่าสุด นายบุญโฮม อ้างว่าจะให้เงิน 7,000 บาท แต่กลับได้รับเงินเพียง 3,500 บาทเท่านั้น ขณะที่ นายบุญโฮม ให้การอ้างว่า เคยทำงานเป็นคนขับรถทัวร์มาก่อน และไม่ได้เจตนาที่จะหลอกลวงคนพิการมาเป็นขอทาน แต่เป็นเพราะผู้พิการเหล่านั้นได้โทรศัพท์มาหา บอกว่าไม่มีงานทำลูกเมียเดือดร้อน จึงช่วยเหลือหางานให้ทำ ซึ่งตนทำมาเพียงแค่ 2 ปี

อีกทั้งคนพิการเหล่านี้ก็ทราบดีและยินยอมที่จะมาเป็นขอทาน ไม่มีการบังคับ สำหรับรายได้ที่ได้จากการนั่งขอทาน ตนจะแบ่งให้เขาพอกินพอใช้ เพราะตนจะเป็นคนซื้ออาหารมาเลี้ยงเขาด้วย และทำเพียงคนเดียวไม่มีคนอื่นร่วม ส่วนที่มีการล็อกกุญแจกักขังตัว 2 ขอทานตาบอดเอาไว้ในห้องพักโรงแรมนั้น ยอมรับว่าได้กระทำจริง เนื่องจาก ขอทานตาบอดที่เป็นผู้ชายชอบดื่มสุรา พอเมาแล้วก็ออกไปอาละวาดนอกโรงแรม ส่วนที่มีการระบุว่าหากเหยื่อไม่ยินยอมไปขอทาน ตนจะไปแจ้งความจับนั้นก็ไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายบุญโฮม ส่งพนักงานสอบสวนบก.ปคม.ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/crime/389249

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 1 เม.ย.59
วันที่โพสต์: 4/04/2559 เวลา 09:50:56 ดูภาพสไลด์โชว์ จับหนุ่มใหญ่ชาวร้อยเอ็ดตุ๋นคนพิการไป"ขอทาน"

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

แถลงผลการจับกุม นายบุญโฮม หรือโม่ง ลินทอง อายุ 39 ปี เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พร้อมด้วย นางขวัญวงศ์ พิกุลทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ประชาบดี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมแถลงผลการจับกุม นายบุญโฮม หรือโม่ง ลินทอง อายุ 39 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาค้ามนุษย์ และ หน่วงเหนี่ยวกักขัง โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองนครราชสีมา ด้าน พล.ต.ต.กรไชย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกลางเดือน พ.ย. 58 ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จ.นครราชสีมา และหน่วยงานต่างๆจัดระเบียบขอทาน หลังได้รับแจ้งว่ามีการนำคนมาขอทานในลักษณะของการค้ามนุษย์ จึงทำการสืบสวนจับกุมตัว นายบุญโฮม ผู้ต้องหา ที่ใช้ผู้ที่มีความทุพลภาพทางร่างกายเพื่อหาประโยชน์เอาไว้ได้เมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ช่วยเหลือขอทานตาบอดที่ถูก นายบุญโฮม กักขังไว้ จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน จากการสอบถามเหยื่อที่ช่วยเหลืออกมาได้ ทราบว่ามีความเป็นอยู่แย่มาก โดยผู้ต้องหาจะบอกกับครอบครัวเหยื่อหรือตัวเหยื่อว่า จะให้ไปทำงานที่มีรายได้ดี เช่น หากสามารถเล่นดนตรีได้ ก็จะนำไปเล่นดนตรี เป็นต้น เมื่อครอบครัวเหยื่อและเหยื่อหลงเชื่อมาด้วย ก็กลับพามาเป็นการขอทาน มีการเอารัดเอาเปรียบแบ่งเงินให้เพียงเล็กน้อย และยังข่มขู่ว่าหากหนีไปขอทานที่อื่นจะแจ้งตำรวจจับหรือขู่ว่าจะทำร้าย อีกทั้งยังมีการกักขังเหยื่อไว้ นอกจากนี้จากข้อมูลที่ได้มา พบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีการกระทำความผิดลักษณะเดียวกันมาตั้งแต่ปี53ในหลายจังหวัด ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้เสียหาย ทราบว่า ได้รู้จักกับ นายบุญโฮม ในชื่อ "โม่ง" และเริ่มทำงานเป็นขอทานตั้งแต่ปี 2553 โดย นายบุญโฮม อ้างว่าจะพามาทำงาน ซึ่งการทำงานจะแบ่งเป็น 2 เวลา คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น โดยมีรายได้ 1,500-2,000 บาทต่อวัน ในการทำงานแต่ละครั้ง นายบุญโฮม จะไม่เคยให้เงินติดตัวเลย และสั่งห้ามพูดคุยกับคนอื่น หากไม่ทำตามคำสั่ง นายบุญโฮมก็จะพูดจากข่มขู่ จากการทำงานครั้งล่าสุด นายบุญโฮม อ้างว่าจะให้เงิน 7,000 บาท แต่กลับได้รับเงินเพียง 3,500 บาทเท่านั้น ขณะที่ นายบุญโฮม ให้การอ้างว่า เคยทำงานเป็นคนขับรถทัวร์มาก่อน และไม่ได้เจตนาที่จะหลอกลวงคนพิการมาเป็นขอทาน แต่เป็นเพราะผู้พิการเหล่านั้นได้โทรศัพท์มาหา บอกว่าไม่มีงานทำลูกเมียเดือดร้อน จึงช่วยเหลือหางานให้ทำ ซึ่งตนทำมาเพียงแค่ 2 ปี อีกทั้งคนพิการเหล่านี้ก็ทราบดีและยินยอมที่จะมาเป็นขอทาน ไม่มีการบังคับ สำหรับรายได้ที่ได้จากการนั่งขอทาน ตนจะแบ่งให้เขาพอกินพอใช้ เพราะตนจะเป็นคนซื้ออาหารมาเลี้ยงเขาด้วย และทำเพียงคนเดียวไม่มีคนอื่นร่วม ส่วนที่มีการล็อกกุญแจกักขังตัว 2 ขอทานตาบอดเอาไว้ในห้องพักโรงแรมนั้น ยอมรับว่าได้กระทำจริง เนื่องจาก ขอทานตาบอดที่เป็นผู้ชายชอบดื่มสุรา พอเมาแล้วก็ออกไปอาละวาดนอกโรงแรม ส่วนที่มีการระบุว่าหากเหยื่อไม่ยินยอมไปขอทาน ตนจะไปแจ้งความจับนั้นก็ไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายบุญโฮม ส่งพนักงานสอบสวนบก.ปคม.ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/crime/389249

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...