วอนผู้ใจบุญช่วย เด็กพิการทางสมอง ร่างกายทรงตัวไม่ได้

แสดงความคิดเห็น

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ก.ค.58 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 199/5 ม.6 หลังโรงเรียนบ้านหนองบัว ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังได้รับแจ้งพบเด็กชายพิการทางสมอง อยู่กับครอบครัวฐานะยากจน ต้องการความช่วยเหลือ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวใกล้ๆ กันมีเพิงมุงหญ้าคาปลูกอยู่ ด้านในเพิงพบ นางอาริสา ถี่ถ้วน อายุ 30 ปี และนายวิชิต ทองจุล อายุ 38 ปี สามีภรรยา และตายาย กำลังดูแลประคบประหงม ด.ช.สวิตต์ ทองจุล หรือน้องแชมป์ อายุ 7 ขวบ มีอาการพิการทางสมอง ร่างกายไม่มีแรง คอพับคออ่อน ทรงตัวไม่ได้ แขนขายกไม่ได้ ต้องคอยพยุงตัวเวลานั่ง หน้าท้องเจาะสายยางไว้สำหรับให้อาหารปั่นและน้ำ ที่เท้าสวมรองเท้าเฝือก

นางอาริสา เปิดเผยว่า ตนอยู่กินกับนายวิชิตมา 13 ปี ประกอบอาชีพค้าขายผลไม้ส่งตลาดไท มีลูก 1 คน คือน้องแชมป์ เมื่อแรกคลอด ลูกออกมาตัวเขียว แพทย์บอกว่ารกพันคอ ขาดอากาศหายใจ รักษาตัวอยู่ 23 วัน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ต่อมาพบว่าลูกไม่มีพัฒนาการ จึงพามาพบแพทย์ แพทย์ตรวจแล้วแจ้งว่าลูกพิการทางสมอง แนะให้ทำกายภาพบำบัด จึงพามาพบแพทย์ด้านกายภาพบำบัด ส่วนที่บ้านสามีและญาติจึงหาเศษวัสดุที่พอหาได้มาทำเครื่องมือเพื่อให้ลูกหัดทรงตัว ลุกนั่ง แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล ต่อมาแพทย์แนะนำให้พาไปฝังเข็มกระตุ้นสมองที่สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้ผลดีขึ้น แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง

"ฉันและสามีจึงพาลูกไปฝังเข็มจนหมดเงิน เพราะค่าใช้จ่ายสูง ครั้งละ 15,000 บาท ไปครั้งหนึ่งใช้เวลานาน 17 วัน สามีจึงต้องเลิกขายผลไม้ มาทำงานรับจ้าง บางวันไม่มีใครจ้างก็ไม่มีเงิน พ่อแม่ตนต้องขายที่ดิน 17 ไร่ เอาเงินมารักษาหลานจนหมด รู้สึกสงสารลูกมาก กลืนอาหาร ดื่มน้ำก็ไม่ได้ ต้องเจาะหน้าท้องต่อสายยางไว้แล้วเอาวุ้นเส้น ไข่ ผัก เนื้อสัตว์ นม เกลือ น้ำตาล ปั่นรวมกัน แล้วฉีดเข้าทางสายยาง ที่เท้าต้องสวมรองเท้าเฝือกไว้เวลาทำกายภาพบำบัด เพราะขาจะพลิก ตลอดเวลา ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือเลย" นางอาริสากล่าว

นางอาริสา กล่าวด้วยว่า จนต้องเขียนจดหมายถวายฎีกาขอพระบารมีจากสมเด็จพระเทพฯ เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือจากพระองค์ท่านเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ต่อมาได้รับหนังสือตอบจากสำนักราชเลขาฯ ว่าได้รับเรื่องราวความเดือดร้อนของตนแล้ว จากนั้นจึงเริ่มมีหน่วยงานในพื้นที่เข้ามาสอบถามข้อมูลครอบครัวตน ตนไม่หวังอะไรมากเพียงแค่อยากให้ลูกได้รับการฝังเข็มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อาการดีขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้บ้างก็เพียงพอแล้ว และถึงลูกจะมีสภาพเป็นอย่างไรก็จะเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุดตลอดไป

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถติดต่อช่วยเหลือได้โดยตรงที่ เบอร์โทร. 082-1782802 หรือที่บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชื่อบัญชี “เพื่อ ด.ช.สวิตต์ ทองจุล” สาขาท่าชัย หมายเลขบัญชี 01779-2-84527-4.

ขอบคุณ… http://www.thairath.co.th/content/510962 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 11 ก.ค.58
วันที่โพสต์: 13/07/2558 เวลา 11:27:56

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

ชีวิตรันทด!!! 2 ตา-ยาย วอนผู้ใจบุญช่วยเมตตา "น้องแชมป์" หลานที่พิการทางสมอง ร่างกายทรงตัวไม่ได้ ต้องเจาะสายยางสำหรับรับประทานอาหาร น้ำ ที่ผ่านมาหมดเงินกับการรักษาจนต้องขายที่ดิน สุดท้ายต้องเขียนจดหมายขอพระราชทานความช่วยเหลือจากพระเทพฯ จนเริ่มมีหน่วยงานเข้ามาสอบถาม จึงต้องขอความเมตตาจากผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือด้วย... นางอาริสา ถี่ถ้วน อายุ 30 ปี กำลังดุแลลูกชายที่นอนป่วยพิการอย่างใกล้ชิด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ก.ค.58 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 199/5 ม.6 หลังโรงเรียนบ้านหนองบัว ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังได้รับแจ้งพบเด็กชายพิการทางสมอง อยู่กับครอบครัวฐานะยากจน ต้องการความช่วยเหลือ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวใกล้ๆ กันมีเพิงมุงหญ้าคาปลูกอยู่ ด้านในเพิงพบ นางอาริสา ถี่ถ้วน อายุ 30 ปี และนายวิชิต ทองจุล อายุ 38 ปี สามีภรรยา และตายาย กำลังดูแลประคบประหงม ด.ช.สวิตต์ ทองจุล หรือน้องแชมป์ อายุ 7 ขวบ มีอาการพิการทางสมอง ร่างกายไม่มีแรง คอพับคออ่อน ทรงตัวไม่ได้ แขนขายกไม่ได้ ต้องคอยพยุงตัวเวลานั่ง หน้าท้องเจาะสายยางไว้สำหรับให้อาหารปั่นและน้ำ ที่เท้าสวมรองเท้าเฝือก นางอาริสา เปิดเผยว่า ตนอยู่กินกับนายวิชิตมา 13 ปี ประกอบอาชีพค้าขายผลไม้ส่งตลาดไท มีลูก 1 คน คือน้องแชมป์ เมื่อแรกคลอด ลูกออกมาตัวเขียว แพทย์บอกว่ารกพันคอ ขาดอากาศหายใจ รักษาตัวอยู่ 23 วัน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ต่อมาพบว่าลูกไม่มีพัฒนาการ จึงพามาพบแพทย์ แพทย์ตรวจแล้วแจ้งว่าลูกพิการทางสมอง แนะให้ทำกายภาพบำบัด จึงพามาพบแพทย์ด้านกายภาพบำบัด ส่วนที่บ้านสามีและญาติจึงหาเศษวัสดุที่พอหาได้มาทำเครื่องมือเพื่อให้ลูกหัดทรงตัว ลุกนั่ง แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล ต่อมาแพทย์แนะนำให้พาไปฝังเข็มกระตุ้นสมองที่สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้ผลดีขึ้น แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง "ฉันและสามีจึงพาลูกไปฝังเข็มจนหมดเงิน เพราะค่าใช้จ่ายสูง ครั้งละ 15,000 บาท ไปครั้งหนึ่งใช้เวลานาน 17 วัน สามีจึงต้องเลิกขายผลไม้ มาทำงานรับจ้าง บางวันไม่มีใครจ้างก็ไม่มีเงิน พ่อแม่ตนต้องขายที่ดิน 17 ไร่ เอาเงินมารักษาหลานจนหมด รู้สึกสงสารลูกมาก กลืนอาหาร ดื่มน้ำก็ไม่ได้ ต้องเจาะหน้าท้องต่อสายยางไว้แล้วเอาวุ้นเส้น ไข่ ผัก เนื้อสัตว์ นม เกลือ น้ำตาล ปั่นรวมกัน แล้วฉีดเข้าทางสายยาง ที่เท้าต้องสวมรองเท้าเฝือกไว้เวลาทำกายภาพบำบัด เพราะขาจะพลิก ตลอดเวลา ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือเลย" นางอาริสากล่าว นางอาริสา กล่าวด้วยว่า จนต้องเขียนจดหมายถวายฎีกาขอพระบารมีจากสมเด็จพระเทพฯ เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือจากพระองค์ท่านเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ต่อมาได้รับหนังสือตอบจากสำนักราชเลขาฯ ว่าได้รับเรื่องราวความเดือดร้อนของตนแล้ว จากนั้นจึงเริ่มมีหน่วยงานในพื้นที่เข้ามาสอบถามข้อมูลครอบครัวตน ตนไม่หวังอะไรมากเพียงแค่อยากให้ลูกได้รับการฝังเข็มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อาการดีขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้บ้างก็เพียงพอแล้ว และถึงลูกจะมีสภาพเป็นอย่างไรก็จะเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุดตลอดไป สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถติดต่อช่วยเหลือได้โดยตรงที่ เบอร์โทร. 082-1782802 หรือที่บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชื่อบัญชี “เพื่อ ด.ช.สวิตต์ ทองจุล” สาขาท่าชัย หมายเลขบัญชี 01779-2-84527-4. ขอบคุณ… http://www.thairath.co.th/content/510962