สุดยอดแม่!! หาเลี้ยงลูก-หลานพิการ 7 ชีวิต กัดฟันสู้แม้เดินแทบไม่ไหวด้วยวัยชรา
แม่ทุ่มเททั้งกายและใจทั้งชีวิต ดูแลลูกชายที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง มากว่า 20 ปี มิหนำซ้ำ ลูกของลูกสาว เอาหลานมาทิ้งให้เลี้ยงอีก 5 ชีวิต ฐานะยากจน เผยได้รับความกรุณาฯจากมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้การช่วยเงิน ปีละ 10,000 บาท แต่ไม่เพียงพอ ต้องออกรับจ้างทั่วไปและเก็บผักไปให้หลานสาวขายเพื่อนำเงินมาประทังชีวิตในครอบครัว
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายพิธ วิริยะอารีธรรม สจ. อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตรว่า นางประมวล นวลจันทร์ อายุ 65 ปี อยู่ตำบลคลองทราย อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตรว่า เป็นสุดยอดแม่ เอาใจใส่ ดูแลลูกชายพิการ 1 คน และหลานสาว 1 คน แขนขาลีบ เดินไม่ได้ต้องคลาน นอกจากนี้ยังเลี้ยงหลานสาวหลานชายเล็กๆ อีก 4 ชีวิต รวมทั้งหมด 7 ชีวิต
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวดังกล่าว พบนางประมวล กำลังหาข้าวให้กับนายทองสุข จันทร์ศรี อายุ 42 ปี ลูกชาย และ น.ส.วิไลวรรณ ไชโย อายุ 21 ปี หลานสาว ซึ่งทั้ง 2 คน พิการแขนขาลีบ ไม่มีแรง เดินไม่ได้ พร้อมกับหลานชายหญิงเล็กๆ อีก 4 คน เป็นเด็กชายอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านหนองจั๋ว เด็กหญิงอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านหนองจั๋ว เด็กชายอายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้นชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านหนองจั๋ว และ เด็กหญิงอายุ 7 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านหนองจั๋ว โดยนางประมวล นั่งดูลูกหลานกินข้าว
โดยนางประมวล กล่าวว่า ตนเองและลูกชาย หลานสาว รวม 7 ชีวิต อาศัยอยู่บ้านหลังนี้มานานแล้ว บ้านหลังนี้ ภาครัฐ ชาวบ้าน อบต. ช่วยซ่อมแซมให้ ส่วนสามีเสียชีวิตมานานแล้ว ตนเองต้องดูแลลูกชาย หลานสาวพิการและหลานๆ อีก 4 ชีวิต เนื่องจากลูกของลูกสาว นำหลานมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงไม่ยอมส่งเสีย ทุกวันนี้ตนเองแบกภาระไว้คนเดียว ถามว่าทุกวันนี้เหนื่อยและท้อไหม ตนเองยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่ไม่ยอมท้อ หากท้อคนเดียว ลูกหลานจะอยู่อย่างไร ก็ต้องสู้ชีวิตต่อไป จนกว่าจะหมดลมหายใจ เพราะเรารักเขา
ทุกวันนี้ เงินที่มีใช้ในครอบครัว ได้รับการดูแลจากทางภาครัฐคือ เบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ ลูกชายหลานสาว พร้อมกับเงินที่ได้รับความกรุณาฯ จากมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปีละ 10,000 บาท แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะบ้านเรามีสมาชิกมาก แต่ก็ต้องอดทน
ทุกวันนี้ ได้หลานสาว หลานชาย 3 คน ที่ช่วยเก็บผักข้างรั้วบ้าน นำไปขายตลาดนัดนี้เพื่อน้อง ทุกวันเสาร์ ได้เงินครั้งละ 200-300 บาท มาซื้อกับข้าว และเงินไปโรงเรียน รายได้ไม่พอรายจ่าย บางวันไม่มีข้าวหุงกิน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เป็นคนเอากับข้าวมาให้ ทุกวันนี้ตนเองแทบเดินไม่ไหว ปวดหัวเข่า เพราะชราแล้ว
“แม่รักและห่วงลูกชายหลานสาวเป็นอย่างมาก แต่ต้องตั้งสติบอกแก่ตัวเองเสมอมาว่า จะต้องเป็นแม่ที่เข้มแข็ง ยายที่เข้มแข็ง อ่อนแอไม่ได้ และจะคอยอยู่ดูแลลูกชาย หลานสาว ถึงล้มก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ใหม่ จะไม่ยอมแพ้ท้อแท้เด็ดขาด” นางประมวลพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1439118013 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นางประมวล นวลจันทร์ อายุ 65 ปี และครอบครัว แม่ทุ่มเททั้งกายและใจทั้งชีวิต ดูแลลูกชายที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง มากว่า 20 ปี มิหนำซ้ำ ลูกของลูกสาว เอาหลานมาทิ้งให้เลี้ยงอีก 5 ชีวิต ฐานะยากจน เผยได้รับความกรุณาฯจากมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้การช่วยเงิน ปีละ 10,000 บาท แต่ไม่เพียงพอ ต้องออกรับจ้างทั่วไปและเก็บผักไปให้หลานสาวขายเพื่อนำเงินมาประทังชีวิตในครอบครัว เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายพิธ วิริยะอารีธรรม สจ. อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตรว่า นางประมวล นวลจันทร์ อายุ 65 ปี อยู่ตำบลคลองทราย อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตรว่า เป็นสุดยอดแม่ เอาใจใส่ ดูแลลูกชายพิการ 1 คน และหลานสาว 1 คน แขนขาลีบ เดินไม่ได้ต้องคลาน นอกจากนี้ยังเลี้ยงหลานสาวหลานชายเล็กๆ อีก 4 ชีวิต รวมทั้งหมด 7 ชีวิต ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวดังกล่าว พบนางประมวล กำลังหาข้าวให้กับนายทองสุข จันทร์ศรี อายุ 42 ปี ลูกชาย และ น.ส.วิไลวรรณ ไชโย อายุ 21 ปี หลานสาว ซึ่งทั้ง 2 คน พิการแขนขาลีบ ไม่มีแรง เดินไม่ได้ พร้อมกับหลานชายหญิงเล็กๆ อีก 4 คน เป็นเด็กชายอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านหนองจั๋ว เด็กหญิงอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านหนองจั๋ว เด็กชายอายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้นชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านหนองจั๋ว และ เด็กหญิงอายุ 7 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านหนองจั๋ว โดยนางประมวล นั่งดูลูกหลานกินข้าว โดยนางประมวล กล่าวว่า ตนเองและลูกชาย หลานสาว รวม 7 ชีวิต อาศัยอยู่บ้านหลังนี้มานานแล้ว บ้านหลังนี้ ภาครัฐ ชาวบ้าน อบต. ช่วยซ่อมแซมให้ ส่วนสามีเสียชีวิตมานานแล้ว ตนเองต้องดูแลลูกชาย หลานสาวพิการและหลานๆ อีก 4 ชีวิต เนื่องจากลูกของลูกสาว นำหลานมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงไม่ยอมส่งเสีย ทุกวันนี้ตนเองแบกภาระไว้คนเดียว ถามว่าทุกวันนี้เหนื่อยและท้อไหม ตนเองยอมรับว่าเหนื่อยมาก แต่ไม่ยอมท้อ หากท้อคนเดียว ลูกหลานจะอยู่อย่างไร ก็ต้องสู้ชีวิตต่อไป จนกว่าจะหมดลมหายใจ เพราะเรารักเขา ทุกวันนี้ เงินที่มีใช้ในครอบครัว ได้รับการดูแลจากทางภาครัฐคือ เบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ ลูกชายหลานสาว พร้อมกับเงินที่ได้รับความกรุณาฯ จากมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปีละ 10,000 บาท แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะบ้านเรามีสมาชิกมาก แต่ก็ต้องอดทน ทุกวันนี้ ได้หลานสาว หลานชาย 3 คน ที่ช่วยเก็บผักข้างรั้วบ้าน นำไปขายตลาดนัดนี้เพื่อน้อง ทุกวันเสาร์ ได้เงินครั้งละ 200-300 บาท มาซื้อกับข้าว และเงินไปโรงเรียน รายได้ไม่พอรายจ่าย บางวันไม่มีข้าวหุงกิน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เป็นคนเอากับข้าวมาให้ ทุกวันนี้ตนเองแทบเดินไม่ไหว ปวดหัวเข่า เพราะชราแล้ว “แม่รักและห่วงลูกชายหลานสาวเป็นอย่างมาก แต่ต้องตั้งสติบอกแก่ตัวเองเสมอมาว่า จะต้องเป็นแม่ที่เข้มแข็ง ยายที่เข้มแข็ง อ่อนแอไม่ได้ และจะคอยอยู่ดูแลลูกชาย หลานสาว ถึงล้มก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ใหม่ จะไม่ยอมแพ้ท้อแท้เด็ดขาด” นางประมวลพูดด้วยเสียงสั่นเครือ ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1439118013
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)