ญาติรับศพหนุ่มพิการผู้ดูแลศาลพระพรหม เผย เป็นเสาหลัก-เพิ่งสร้างบ้านให้แม่เสร็จ
(18 ส.ค. 58) เมื่อเวลา 11.00 น. บ้านเลขที่ 90/3 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญส่ง และนางสายทอง สัตย์มั่น บิดามารดาของนายสุวรรณ สัตย์มั่น หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิด บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงหัวค่ำคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
โดยช่วงบ่ายวันนี้ ทางครอบครัวและญาติ ๆ ภายหลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตได้จัดเตรียมโต๊ะ เก้าอี้ พร้อมสถานที่ในการเตรียมนำศพมาบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านของนายสุวรรณ สัตย์มั่น เองที่สร้างไว้เพิ่งเสร็จใหม่ ๆ ราคากว่า 8 แสนบาท ซึ่งขณะนี้นายบุญส่งและนางสายทอง บิดาและมารดาพร้อมญาติได้เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 5 คัน เพื่อไปรอรับศพนายสุวรรณ สัตย์มั่น อยู่ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ ยังคงอยู่ระหว่างการติดต่อนำศพออกมาจากโรงพยาบาลกลับมาที่บ้านในอำเภอสวนผึ้ง
นาย พิเชษ สาครสิทธิ์ ญาติผู้พี่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องเปิดเผยว่า นิสัยของนายสุวรรณ หรืออ๊อด จะเป็นคนร่าเริง รักพี่รักน้อง ซึ่งครอบครัวมีพี่น้อง 3 คน นายสุวรรณเป็นลูกคนโต มีน้องชาย 2 คน เป็นคนที่รักพ่อรักแม่ โดยที่บ้านมีหลานชายอายุประมาณ 3 ขวบ และแม่ที่ต้องคอยเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วย ซึ่งผู้ตายเพิ่งกลับมาบ้านเมื่อวันที่ 15 - 16 สิงหาคมที่ผ่านมา และพาพ่อซึ่งมีอาชีพเป็นยามรักษาความปลอดภัยในบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ที่ กรุงเทพฯ กลับมาเยี่ยมบ้านด้วย
นาย พิเชษ กล่าวว่า นายสุวรรณไปทำงานที่ศาลพระพรหมแยกราชประสงค์ อยู่กับพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมาหลายปีแล้ว ส่วนเรื่องศพจะมาถึงบ้านเวลาไหนนั้น ต้องดูจากที่โรงพยาบาลว่าจะสามารถนำศพออกได้กี่โมง เพราะว่าขณะนี้พ่อกับแม่นายสุวรรณกำลังเดินทางไปติดต่อขอรับศพออกมาเพื่อนำ กลับมาไว้ที่บ้าน โดยครั้งสุดท้ายที่นายสุวรรณผู้ตายกลับมาที่บ้านก็ไม่ได้พูดคุยอะไรเป็น พิเศษ แต่จะชอบพูดคุยถึงแต่เรื่องไก่ชนที่เขาเลี้ยงไว้และรักมาก บอกให้ฝากดูแลไก่ที่เลี้ยงไว้ด้วย ไม่ได้พูดคุยถึงลางสังหรณ์อะไรที่เป็นพิเศษ เหตุที่นำศพมาไว้ที่บ้านหลังนี้ เพราะเป็นบ้านที่เขาเก็บเงินสร้างมาให้พ่อกับแม่เองทุกอย่างจนปลูกสร้างสำเร็จเป็นความตั้งใจของแม่เขาที่ต้องการนำศพลูกชายมาไว้ที่บ้านเพื่ออยากให้ลูกได้อยู่บ้านของตัวเอง
สำหรับนายสุวรรณนั้น เป็นผู้พิการช่วงข้อต่อกระดูกหัวไหล่และข้อศอกมาแต่กำเนิด ยกแขนได้บ้างนิดหน่อยเท่านั้น เป็นคนทำความสะอาดที่ศาลพระพรหม เวลามีประชาชนมาไหว้สักการะหรือมาแก้บน ก็จะคอยบริการความสะดวกให้ทุกอย่างทั้งปักธูป ปักเทียนให้
ด้านนางจันทร์วลัย สัตย์มั่น อายุ 69 ปี ผู้เป็นป้าของนายสุวรรณกล่าวว่า ครอบครัวนายสุวรรณมีพี่น้อง 3 คน โดยนายสุวรรณ เป็นหลานชายคนโต คนที่ 2 ชื่อ กิตติศักดิ์ สัตย์มั่น คนที่ 3 ชื่อ สุนทร สัตย์มั่น สมัยตอนเป็นเด็กนายสุวรรณผู้ตาย ได้มาอยู่กับป้าที่บ้าน เพื่อเรียนหนังสือตอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ถึง ปีที่ 6 พอจบก็ไปทำงานดูแลทำความสะอาดอยู่ในมูลนิธิคนพิการโดยมีนายประพันธ์ บุญเกิด ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ชักชวนไปทำงานที่ศาลพระพรหมแยกราชประสงค์กรุงเทพฯมาหลายปีแล้ว
โดยเมื่อคืน นายประพันธ์ บุญเกิด ญาติผู้พี่นายสุวรรณได้โทรศัพท์มาหาบอกว่า นายสุวรรณถูกระเบิดบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ต่อมาอีก 10 นาที ก็โทรมาอีกบอกว่าอาการสาหัสต้องปั๊มหัวใจ จึงรู้สึกเป็นห่วง ต่อมาอีก 10 นาทีคล้อยหลัง ก็โทรศัพท์มาบอกว่านายสุวรรณเสียชีวิตแล้ว จึงแทบล้มทั้งยืนทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าหลานชายที่เลี้ยงดูมาจะมาเสียชีวิตกะทันหัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ญาติๆได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับศพนำมาตั้งไว้ที่บ้านในตำบลสวนผึ้ง ยังไม่มีกำหนดวันฌาปนกิจศพ
ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439887962 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายสุวรรณ สัตย์มั่น หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิด บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร (18 ส.ค. 58) เมื่อเวลา 11.00 น. บ้านเลขที่ 90/3 หมู่ 1 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญส่ง และนางสายทอง สัตย์มั่น บิดามารดาของนายสุวรรณ สัตย์มั่น หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิด บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงหัวค่ำคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยช่วงบ่ายวันนี้ ทางครอบครัวและญาติ ๆ ภายหลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตได้จัดเตรียมโต๊ะ เก้าอี้ พร้อมสถานที่ในการเตรียมนำศพมาบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านของนายสุวรรณ สัตย์มั่น เองที่สร้างไว้เพิ่งเสร็จใหม่ ๆ ราคากว่า 8 แสนบาท ซึ่งขณะนี้นายบุญส่งและนางสายทอง บิดาและมารดาพร้อมญาติได้เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 5 คัน เพื่อไปรอรับศพนายสุวรรณ สัตย์มั่น อยู่ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ ยังคงอยู่ระหว่างการติดต่อนำศพออกมาจากโรงพยาบาลกลับมาที่บ้านในอำเภอสวนผึ้ง นาย พิเชษ สาครสิทธิ์ ญาติผู้พี่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องเปิดเผยว่า นิสัยของนายสุวรรณ หรืออ๊อด จะเป็นคนร่าเริง รักพี่รักน้อง ซึ่งครอบครัวมีพี่น้อง 3 คน นายสุวรรณเป็นลูกคนโต มีน้องชาย 2 คน เป็นคนที่รักพ่อรักแม่ โดยที่บ้านมีหลานชายอายุประมาณ 3 ขวบ และแม่ที่ต้องคอยเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วย ซึ่งผู้ตายเพิ่งกลับมาบ้านเมื่อวันที่ 15 - 16 สิงหาคมที่ผ่านมา และพาพ่อซึ่งมีอาชีพเป็นยามรักษาความปลอดภัยในบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ที่ กรุงเทพฯ กลับมาเยี่ยมบ้านด้วย นาย พิเชษ กล่าวว่า นายสุวรรณไปทำงานที่ศาลพระพรหมแยกราชประสงค์ อยู่กับพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมาหลายปีแล้ว ส่วนเรื่องศพจะมาถึงบ้านเวลาไหนนั้น ต้องดูจากที่โรงพยาบาลว่าจะสามารถนำศพออกได้กี่โมง เพราะว่าขณะนี้พ่อกับแม่นายสุวรรณกำลังเดินทางไปติดต่อขอรับศพออกมาเพื่อนำ กลับมาไว้ที่บ้าน โดยครั้งสุดท้ายที่นายสุวรรณผู้ตายกลับมาที่บ้านก็ไม่ได้พูดคุยอะไรเป็น พิเศษ แต่จะชอบพูดคุยถึงแต่เรื่องไก่ชนที่เขาเลี้ยงไว้และรักมาก บอกให้ฝากดูแลไก่ที่เลี้ยงไว้ด้วย ไม่ได้พูดคุยถึงลางสังหรณ์อะไรที่เป็นพิเศษ เหตุที่นำศพมาไว้ที่บ้านหลังนี้ เพราะเป็นบ้านที่เขาเก็บเงินสร้างมาให้พ่อกับแม่เองทุกอย่างจนปลูกสร้างสำเร็จเป็นความตั้งใจของแม่เขาที่ต้องการนำศพลูกชายมาไว้ที่บ้านเพื่ออยากให้ลูกได้อยู่บ้านของตัวเอง สำหรับนายสุวรรณนั้น เป็นผู้พิการช่วงข้อต่อกระดูกหัวไหล่และข้อศอกมาแต่กำเนิด ยกแขนได้บ้างนิดหน่อยเท่านั้น เป็นคนทำความสะอาดที่ศาลพระพรหม เวลามีประชาชนมาไหว้สักการะหรือมาแก้บน ก็จะคอยบริการความสะดวกให้ทุกอย่างทั้งปักธูป ปักเทียนให้ ด้านนางจันทร์วลัย สัตย์มั่น อายุ 69 ปี ผู้เป็นป้าของนายสุวรรณกล่าวว่า ครอบครัวนายสุวรรณมีพี่น้อง 3 คน โดยนายสุวรรณ เป็นหลานชายคนโต คนที่ 2 ชื่อ กิตติศักดิ์ สัตย์มั่น คนที่ 3 ชื่อ สุนทร สัตย์มั่น สมัยตอนเป็นเด็กนายสุวรรณผู้ตาย ได้มาอยู่กับป้าที่บ้าน เพื่อเรียนหนังสือตอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ถึง ปีที่ 6 พอจบก็ไปทำงานดูแลทำความสะอาดอยู่ในมูลนิธิคนพิการโดยมีนายประพันธ์ บุญเกิด ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ชักชวนไปทำงานที่ศาลพระพรหมแยกราชประสงค์กรุงเทพฯมาหลายปีแล้ว โดยเมื่อคืน นายประพันธ์ บุญเกิด ญาติผู้พี่นายสุวรรณได้โทรศัพท์มาหาบอกว่า นายสุวรรณถูกระเบิดบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ต่อมาอีก 10 นาที ก็โทรมาอีกบอกว่าอาการสาหัสต้องปั๊มหัวใจ จึงรู้สึกเป็นห่วง ต่อมาอีก 10 นาทีคล้อยหลัง ก็โทรศัพท์มาบอกว่านายสุวรรณเสียชีวิตแล้ว จึงแทบล้มทั้งยืนทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าหลานชายที่เลี้ยงดูมาจะมาเสียชีวิตกะทันหัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ญาติๆได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับศพนำมาตั้งไว้ที่บ้านในตำบลสวนผึ้ง ยังไม่มีกำหนดวันฌาปนกิจศพ ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439887962
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)