วอนช่วยคุณยายกัดฟันสู้โรคมะเร็งเลี้ยงดูหลานพิการซ้ำซ้อน
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมสื่อมวลชน เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 203 หมู่ 7 ต.ปากโทก เพื่อนำเครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมเงินสด มอบช่วยเหลือครอบครัวนางระยับ อ่อนศรี อายุ 63 ปี สาวใหญ่สู้ชีวิตที่เคยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมจนต้องตัดทิ้ง ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลาน 3 คน เหลนอีก 1 คน โดยในจำนวนนี้คือน้องไข่หวาน หรือ ด.ช.ธนดล พระรินรัมย์ อายุ 12 ปี ป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
นางระยับ เปิดเผยเรื่องราวชีวิตจริงว่า ตนเลี้ยงดูน้องไข่หวาน มาตั้งแต่ลูกสาวซึ่งเป็นแม่น้องไข่หวานเลิกรากับสามี และไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ นานๆ จึงส่งเสียเงินมาบ้าง โดยเด็กป่วยเป็นโรคโปลิโอ ลมชัก สมองอักเสบตั้งแต่กำเนิด ต้องให้ยารักษาอย่างต่อเนื่อง แต่เคราะห์กรรมก็กระหน่ำซ้ำเติมไม่หยุดเมื่อปี 54 ตนตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมจนต้องตัดเนื้อร้ายทิ้ง และรักษาตัวต่อเนื่องจนปัจจุบันยังไม่หายขาด และไม่สามารถทำงานหนักได้ ซ้ำเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานายสนาม กรุณี อายุ 65 ปี สามีซึ่งเคยเป็นเสาหลักของครอบครัวก็มาล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งลำคอ และเสียชีวิตลง ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการเดือนละ 2,200 บาท ซึ่งไม่เพียงพอดูแล 5 ชีวิต ไหนจะต้องเลี้ยงดูหลานชายซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 2 และหลานสาว ซึ่งมีลูกวัย 10 เดือนอีก และค่าใช้จ่ายในการซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้หลานชาย ซึ่งไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ ทำให้ตนรู้สึกท้อใจในโชคชะตาชีวิต ว่าทำไมถึงต้องมาพบเจอเรื่องราวซ้ำร้ายเช่นนี้
สาวใหญ่สู้ชีวิต กล่าวต่อว่า ในเวลานั้นชีวิตไร้ซึ่งทางออกไม่รู้จะทำอย่างไร เคยคิดสั้นจนถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย แต่พอเห็นหน้าหลานก็ทำไม่ลง เพราะเกรงจะไม่มีใครดูแลหลาน จึงต้องกัดฟันทนสู้โรคร้ายจนอาการเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถทำงานได้ และได้รับความช่วยเหลือจาก รพ.สต.ปากโทก และผู้ใหญ่ใจดีที่มีจิตอาสาคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือเข้ามาให้ และคอยส่งทีมเจ้าหน้าที่มาคอยทำกายภาพบำบัดให้กับน้องไข่หวาน จนปัจจุบันสามารถขยับตัว เหยียดขาได้มากขึ้น
ด้านนายยงยุทธ พ่วงพัด ประธานชมรมจิตอาสา รพ.สต.ปากโทก กล่าวว่า ได้นำคณะ อสม.มาตรวจเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านพบว่าคุณยายระยับมีภาวะเครียด ไม่มีรายได้ซ้ำร้ายยังต้องดูแลหลาน และเหลน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือน้องไข่หวานหลานชายที่ป่วยเป็นหลายโรค และพิการ ทำให้ต้องดูแลตลอดเวลา ขณะที่บ้านพักอาศัยในปัจจุบันอาจถูกขับไล่ เนื่องจากเป็นที่ดินไม่มีโฉนด อีกทั้งบ้านยังสร้างปิดขวางที่ดินมีโฉนด แต่โชคยังดีที่เจ้าของที่ดินยังไม่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ทำให้คุณยาย และหลาน ๆยังมีที่พักอาศัย แต่ปัญหาคือทั้ง 5 คนไม่มีรายได้อะไรเลย นอกจากเบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการเท่านั้น สำหรับผู้มีจิตศรัทธาท่านใดที่ต้องการให้ความช่วยเหลือครอบครัวน้องไข่หวานสามารถโอนเงินผ่านทางธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทสโก้ โลตัส ท็อปแลนด์ พิษณุโลก ชื่อบัญชีนายละมัย น้อยบัว และ/หรือนางฐาณวีร์ มีอุดร และ/หรือนางสาวระยับ อ่อนศรี เลขที่บัญชี937-220947-3 หรือติดต่อได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 080-9409260ได้ตลอดเวลา.
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ นำเครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมเงินสด มอบช่วยเหลือครอบครัวนางระยับ อ่อนศรี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมสื่อมวลชน เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 203 หมู่ 7 ต.ปากโทก เพื่อนำเครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมเงินสด มอบช่วยเหลือครอบครัวนางระยับ อ่อนศรี อายุ 63 ปี สาวใหญ่สู้ชีวิตที่เคยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมจนต้องตัดทิ้ง ต้องรับภาระเลี้ยงดูหลาน 3 คน เหลนอีก 1 คน โดยในจำนวนนี้คือน้องไข่หวาน หรือ ด.ช.ธนดล พระรินรัมย์ อายุ 12 ปี ป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นางระยับ เปิดเผยเรื่องราวชีวิตจริงว่า ตนเลี้ยงดูน้องไข่หวาน มาตั้งแต่ลูกสาวซึ่งเป็นแม่น้องไข่หวานเลิกรากับสามี และไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ นานๆ จึงส่งเสียเงินมาบ้าง โดยเด็กป่วยเป็นโรคโปลิโอ ลมชัก สมองอักเสบตั้งแต่กำเนิด ต้องให้ยารักษาอย่างต่อเนื่อง แต่เคราะห์กรรมก็กระหน่ำซ้ำเติมไม่หยุดเมื่อปี 54 ตนตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมจนต้องตัดเนื้อร้ายทิ้ง และรักษาตัวต่อเนื่องจนปัจจุบันยังไม่หายขาด และไม่สามารถทำงานหนักได้ ซ้ำเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานายสนาม กรุณี อายุ 65 ปี สามีซึ่งเคยเป็นเสาหลักของครอบครัวก็มาล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งลำคอ และเสียชีวิตลง ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการเดือนละ 2,200 บาท ซึ่งไม่เพียงพอดูแล 5 ชีวิต ไหนจะต้องเลี้ยงดูหลานชายซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 2 และหลานสาว ซึ่งมีลูกวัย 10 เดือนอีก และค่าใช้จ่ายในการซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้หลานชาย ซึ่งไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ ทำให้ตนรู้สึกท้อใจในโชคชะตาชีวิต ว่าทำไมถึงต้องมาพบเจอเรื่องราวซ้ำร้ายเช่นนี้ สื่อมวลชน นำเครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมเงินสด มอบช่วยเหลือครอบครัวนางระยับ อ่อนศรี อายุ 63 ปี สาวใหญ่สู้ชีวิต กล่าวต่อว่า ในเวลานั้นชีวิตไร้ซึ่งทางออกไม่รู้จะทำอย่างไร เคยคิดสั้นจนถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย แต่พอเห็นหน้าหลานก็ทำไม่ลง เพราะเกรงจะไม่มีใครดูแลหลาน จึงต้องกัดฟันทนสู้โรคร้ายจนอาการเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถทำงานได้ และได้รับความช่วยเหลือจาก รพ.สต.ปากโทก และผู้ใหญ่ใจดีที่มีจิตอาสาคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือเข้ามาให้ และคอยส่งทีมเจ้าหน้าที่มาคอยทำกายภาพบำบัดให้กับน้องไข่หวาน จนปัจจุบันสามารถขยับตัว เหยียดขาได้มากขึ้น ด้านนายยงยุทธ พ่วงพัด ประธานชมรมจิตอาสา รพ.สต.ปากโทก กล่าวว่า ได้นำคณะ อสม.มาตรวจเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้านพบว่าคุณยายระยับมีภาวะเครียด ไม่มีรายได้ซ้ำร้ายยังต้องดูแลหลาน และเหลน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือน้องไข่หวานหลานชายที่ป่วยเป็นหลายโรค และพิการ ทำให้ต้องดูแลตลอดเวลา ขณะที่บ้านพักอาศัยในปัจจุบันอาจถูกขับไล่ เนื่องจากเป็นที่ดินไม่มีโฉนด อีกทั้งบ้านยังสร้างปิดขวางที่ดินมีโฉนด แต่โชคยังดีที่เจ้าของที่ดินยังไม่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ทำให้คุณยาย และหลาน ๆยังมีที่พักอาศัย แต่ปัญหาคือทั้ง 5 คนไม่มีรายได้อะไรเลย นอกจากเบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการเท่านั้น สำหรับผู้มีจิตศรัทธาท่านใดที่ต้องการให้ความช่วยเหลือครอบครัวน้องไข่หวานสามารถโอนเงินผ่านทางธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทสโก้ โลตัส ท็อปแลนด์ พิษณุโลก ชื่อบัญชีนายละมัย น้อยบัว และ/หรือนางฐาณวีร์ มีอุดร และ/หรือนางสาวระยับ อ่อนศรี เลขที่บัญชี937-220947-3 หรือติดต่อได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 080-9409260ได้ตลอดเวลา. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/348141
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)