“สาวใหญ่-หนุ่มพิการ” บังเอิญพบจับคู่มุ่งสู่กรุงเทพฯ แสดงความอาลัยพระบรมศพ
นครศรีธรรมราช - สาวใหญ่ปั่นจักรยานเจอหนุ่มพิการขับ จยย.พ่วงข้างด้วยความบังเอิญ พร้อมใจร่วมกันเดินทางไปแสดงความอาลัย และเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ (25 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารถนนเอเชีย 41 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นางอมลวรรณ มณีภาค อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264/1 ม.13 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ปั่นรถจักรยานไปเจอกับ นายสนิท คงแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บานเลขที่ 503/1 ม.1 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง หนุ่มพิการทั้งมือและเท้า ขับรถ จยย.พ่วงข้างโดยบังเอิญ ขณะทั้งสองกำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและต้องการเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้าย
โดย นายสนิท ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองลงจากรถ จยย.พ่วงข้างเพื่อหยุดพักผ่อนขณะเดินทาง ในขณะที่ นางอมลวรรณ ถีบรถจักรยานผ่านมาแล้วแวะพักผ่อนที่ศาลาที่พักผู้โดยสารเช่นกัน ก่อนจะมีการพูดคุยกัน โดยพบว่า ทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแสดงความอาลัย และเคารพพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในขณะที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งสง มาให้ความสะดวกทั้งสองในการเดินทางจากอ.ทุ่งสงจ.นครศรีธรรมราชไปยังจ.สุราษฎร์ธานี
โดย นายสนิท หนุ่มพิการทั้งมือและเท้า ได้กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ โดยขับรถ จยย.พ่วงข้างออกจากบ้าน จ.พัทลุง ตั้งแต่วานนี้ (24 ต.ค.) ซึ่งไม่ได้กำหนดว่าจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ วันไหน แต่จุดมุ่งหมายคือ ต้องการกราบไหว้พระบรมศพพระองค์ท่านด้วยความจริงใจ ขณะที่ นางอมลวรรณ กล่าวว่า มาจาก จ.สงขลา ตั้งแต่เช้าตรู่ และได้มาเจอ นายสนิท หนุ่มพิการโดยบังเอิญ และรู้สึกประทับใจ หลังพูดคุยกันก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ร่วมแสดงความอาลัยพ่อหลวงครั้งหนึ่งในชีวิตจึงได้เดินทางไปพร้อมกัน
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9590000106955 (ขนาดไฟล์: 166)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นางอมลวรรณ มณีภาค อายุ 57 ปี เดินทางไปแสดงความอาลัย และเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพฯ นครศรีธรรมราช - สาวใหญ่ปั่นจักรยานเจอหนุ่มพิการขับ จยย.พ่วงข้างด้วยความบังเอิญ พร้อมใจร่วมกันเดินทางไปแสดงความอาลัย และเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ (25 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารถนนเอเชีย 41 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นางอมลวรรณ มณีภาค อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264/1 ม.13 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้ปั่นรถจักรยานไปเจอกับ นายสนิท คงแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บานเลขที่ 503/1 ม.1 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง หนุ่มพิการทั้งมือและเท้า ขับรถ จยย.พ่วงข้างโดยบังเอิญ ขณะทั้งสองกำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและต้องการเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพเป็นครั้งสุดท้าย โดย นายสนิท ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองลงจากรถ จยย.พ่วงข้างเพื่อหยุดพักผ่อนขณะเดินทาง ในขณะที่ นางอมลวรรณ ถีบรถจักรยานผ่านมาแล้วแวะพักผ่อนที่ศาลาที่พักผู้โดยสารเช่นกัน ก่อนจะมีการพูดคุยกัน โดยพบว่า ทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแสดงความอาลัย และเคารพพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในขณะที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งสง มาให้ความสะดวกทั้งสองในการเดินทางจากอ.ทุ่งสงจ.นครศรีธรรมราชไปยังจ.สุราษฎร์ธานี โดย นายสนิท หนุ่มพิการทั้งมือและเท้า ได้กล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ โดยขับรถ จยย.พ่วงข้างออกจากบ้าน จ.พัทลุง ตั้งแต่วานนี้ (24 ต.ค.) ซึ่งไม่ได้กำหนดว่าจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ วันไหน แต่จุดมุ่งหมายคือ ต้องการกราบไหว้พระบรมศพพระองค์ท่านด้วยความจริงใจ ขณะที่ นางอมลวรรณ กล่าวว่า มาจาก จ.สงขลา ตั้งแต่เช้าตรู่ และได้มาเจอ นายสนิท หนุ่มพิการโดยบังเอิญ และรู้สึกประทับใจ หลังพูดคุยกันก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ร่วมแสดงความอาลัยพ่อหลวงครั้งหนึ่งในชีวิตจึงได้เดินทางไปพร้อมกัน ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9590000106955
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)



