ชีวิตต้องสู้! ลูกสาวคนโตวัย 61 ปีรับจ้างตัดอ้อยเลี้ยงแม่ชรา-น้องอีก 2 ตาบอด

แสดงความคิดเห็น

แม่เฒ่าวัย 89 ปี นั่งเฝ้าดูอาการลูกชายสุดท้องนอนป่วยบนแคร่ไม้

เลย - รันทด! พบครอบครัวหนึ่งใน อ.เอราวัณ จ.เลย ทุกข์ยาก พี่สาวคนโตวัย 61 ปีแบกภาระเลี้ยงดูแม่ชราอายุ 89 ปี น้องคนรองอายุ 58 ตาบอด ส่วนน้องคนสุดท้องป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ทุกวันนี้อาศัยเบี้ยผู้สูงอายุ และรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการรับจ้างทั่วไป บางวันแทบไม่มีข้าวกรอกหม้อ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีครอบครัวหนึ่งใน ต.ทรัพย์ไพวัลย์ อ.เอราวัณ จ.เลย กำลังประสบปัญหาความทุกข์ยากลำบากเป็นอย่างมาก ครอบครัวนี้มีด้วยกัน 4 คนพักอาศัยในเพิงพักที่ใกล้ทรุดพัง ผู้เป็นแม่แก่ชราอายุ 89 ปี มีลูก 3 คน ลูกคนรองพิการตาบอด ลูกคนสุดท้องป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เหลือแต่ลูกสาวคนโตอายุ 61 ปีที่แบกรับภาระเลี้ยงดูคนในบ้าน มีรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการรับจ้างทั่วไปตามแต่จะมีใครจ้างและเงินส่วนหนึ่งจากเบี้ยยังชีพคนชราบ่อยครั้งที่ต้องอดข้าวเพราะไม่มีเงินเหลือติดบ้าน

หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบ พบนางสาวนาง ศรีวงแม้ อายุ 61 ปี พี่สาวคนโตของครอบครัว กำลังรับจ้างตัดอ้อยให้เพื่อนบ้าน และได้พาผู้สื่อข่าวไปยังบ้านพัก เลขที่ 77 หมู่ที่ 2 ต.ทรัพย์ไพวัลย์ บ้านที่เห็นมีสภาพเป็นกระต๊อบฝาบ้านทำจากฟากไม้ไผ่ที่เต็มไปด้วยรูโบ๋

หลังคามุงสังกะสีเก่าๆ มีรอยรั่วพรุนตลอดทั้งหลัง ภายในบ้านพบแม่ที่มีอายุมาก นั่งเฝ้าดูอาการลูกชายสุดท้องนอนป่วยบนแคร่ไม้ นางสาวนาง ลูกสาวคนโต เล่าว่า พวกตนอาศัยซุกหัวนอนในบ้านนี้ด้วยกัน 4 ชีวิต มีแม่ อายุ 89 ปี ตนอายุ 61 ปี มีน้องคนถัดจากตนพิการตาบอด อายุ 58 ปี และน้องชายคนสุดท้อง อายุ 48 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย โรงพยาบาลเลยไม่รับการรักษาแล้ว ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานีแทน ไปพบหมอ รับยาแต่ละครั้งยากลำบากเพราะระยะทางไกลและมีค่าใช้จ่ายค่ารถค่าอาหารการกิน

ทุกวันนี้ ตนต้องออกไปหางานรับจ้างเพียงคนเดียว เพื่อแลกเงินค่าแรงมาซื้อข้าวเลี้ยงแม่และน้องๆ บ้านที่อาศัยอยู่ก็เป็นที่ดินของลูกพี่ลูกน้องกัน ตนรับทำงานรับจ้างทั่วไป ฤดูตัดอ้อยก็ไปรับจ้างตัดอ้อยกับเขา ตัดอ้อย 75 ต้น ได้เงิน 5 บาท ตัดอ้อยแต่ละวันจะได้เงินมากที่สุดประมาณ 200-250 บาท แต่หากไม่ใช่หน้าตัดอ้อยก็ไปรับจ้างตัดหญ้า ขุดมัน ได้วันละ 100 กว่าบาท แต่งานรับจ้างก็ไม่ได้มีให้ทำทุกวัน บ่อยครั้งที่ตนต้องยอมอดข้าวเพื่อให้แม่และน้องได้อิ่มกัน

ด้านนางเพ็ง ศรีวงแม้ ผู้เป็นแม่เล่าต่อว่า ทุกวันก็ได้พึ่งพาเบี้ยผู้สูงอายุ มีตนและลูกสาวคนโตที่ได้คนละ 500 บาท และได้อาศัยลูกคนโตทำงานรับจ้างหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว น้องๆ ก็ป่วยหมดบ้าน ตนก็ทำงานไม่ไหวแล้ว อายุก็ 89 ปี สงสารลูกสาวที่ต้องรับเลี้ยงทุกๆ คนในบ้าน สภาพบ้านก็อยู่ลำบาก เวลาฝนตกทั้งบ้านก็ไม่ได้นอนกัน เพราะบ้านรั่วทั้งหลังบางวันฝนตกหนักทั้งลมแรงก็ต้องนั่งร้องไห้ด้วยกันทั้งแม่และลูก

“หน้าหนาวช่วงนี้มีลมหนาวพัดเข้าตามรอยข้างฟากไม้จะหนาวเย็นมาก และที่เดือดร้อนหนักสุดคือที่บ้านไม่มีห้องส้วม ทุกวันต้องอาศัยข้างบ้านบ้าง ตามป่าหลังบ้านบ้าง” นางเพ็งกล่าว ในขณะที่เพื่อนบ้านนางเพ็งได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า น่าสงสารครอบครัวนี้มาก เพื่อนบ้านมีข้าวหรือกับข้าวอะไรก็จะแบ่งปันมาให้ แต่พวกตนก็ยากจนเหมือนกัน ช่วยกันได้ตามมีตามเกิด ที่น่าสงสารคือลูกสาวคนโต ขาก็เดินไม่ปกติ แต่ต้องออกไปทำงานรับจ้างทุกวัน วันไหนป่วยคนในบ้านก็ไม่ได้กินข้าวแต่แกเป็นคนเหมือนร่าเริงยิ้มสู้ชีวิตตลอด

“บางวันเขาก็แอบร้องไห้บ่อยๆ ไม่มีคนจ้างทำงาน กลัวแม่และน้องๆ ไม่มีจะกิน และยอมอดข้าวขอให้แม่และน้องได้อิ่มท้อง” เพื่อนบ้านบอก อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าอยากให้สังคมช่วยเหลืออย่างไรบ้าง นางสาวนาง ลูกสาวคนโตของบ้าน บอกเพียงแต่ว่า อยากซ่อมบ้าน และในชีวิตของตนอยากมีห้องน้ำห้องส้วมเหมือนเขาบ้างและเงินค่ารถส่งน้องชายไปรักษาที่โรงพยาบาลที่อุดรธานี

ผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว สามารถบริจาคได้ที่บัญชี นางสาวนาง ศรีวงแม้ เลขที่บัญชี 015332169193 ออมทรัพย์ ธ.ก.ส. สาขาเอราวัณ จ.เลย

บ้านพักอาศัยของ 4 ชีวิต อาศัยในเพิงพักที่สภาพเก่าและโทรม

นางสาวนาง ศรีวงแม้ อายุ 61 ปี พี่สาวคนโตของครอบครัว กำลังรับจ้างตัดอ้อยให้เพื่อนบ้าน

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000013064 (ขนาดไฟล์: 166)

ที่มา: manager.co.thออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 ก.พ.60
วันที่โพสต์: 8/02/2560 เวลา 10:13:41 ดูภาพสไลด์โชว์ ชีวิตต้องสู้! ลูกสาวคนโตวัย 61 ปีรับจ้างตัดอ้อยเลี้ยงแม่ชรา-น้องอีก 2 ตาบอด

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

แม่เฒ่าวัย 89 ปี นั่งเฝ้าดูอาการลูกชายสุดท้องนอนป่วยบนแคร่ไม้ เลย - รันทด! พบครอบครัวหนึ่งใน อ.เอราวัณ จ.เลย ทุกข์ยาก พี่สาวคนโตวัย 61 ปีแบกภาระเลี้ยงดูแม่ชราอายุ 89 ปี น้องคนรองอายุ 58 ตาบอด ส่วนน้องคนสุดท้องป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ทุกวันนี้อาศัยเบี้ยผู้สูงอายุ และรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการรับจ้างทั่วไป บางวันแทบไม่มีข้าวกรอกหม้อ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีครอบครัวหนึ่งใน ต.ทรัพย์ไพวัลย์ อ.เอราวัณ จ.เลย กำลังประสบปัญหาความทุกข์ยากลำบากเป็นอย่างมาก ครอบครัวนี้มีด้วยกัน 4 คนพักอาศัยในเพิงพักที่ใกล้ทรุดพัง ผู้เป็นแม่แก่ชราอายุ 89 ปี มีลูก 3 คน ลูกคนรองพิการตาบอด ลูกคนสุดท้องป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เหลือแต่ลูกสาวคนโตอายุ 61 ปีที่แบกรับภาระเลี้ยงดูคนในบ้าน มีรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการรับจ้างทั่วไปตามแต่จะมีใครจ้างและเงินส่วนหนึ่งจากเบี้ยยังชีพคนชราบ่อยครั้งที่ต้องอดข้าวเพราะไม่มีเงินเหลือติดบ้าน หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบ พบนางสาวนาง ศรีวงแม้ อายุ 61 ปี พี่สาวคนโตของครอบครัว กำลังรับจ้างตัดอ้อยให้เพื่อนบ้าน และได้พาผู้สื่อข่าวไปยังบ้านพัก เลขที่ 77 หมู่ที่ 2 ต.ทรัพย์ไพวัลย์ บ้านที่เห็นมีสภาพเป็นกระต๊อบฝาบ้านทำจากฟากไม้ไผ่ที่เต็มไปด้วยรูโบ๋ หลังคามุงสังกะสีเก่าๆ มีรอยรั่วพรุนตลอดทั้งหลัง ภายในบ้านพบแม่ที่มีอายุมาก นั่งเฝ้าดูอาการลูกชายสุดท้องนอนป่วยบนแคร่ไม้ นางสาวนาง ลูกสาวคนโต เล่าว่า พวกตนอาศัยซุกหัวนอนในบ้านนี้ด้วยกัน 4 ชีวิต มีแม่ อายุ 89 ปี ตนอายุ 61 ปี มีน้องคนถัดจากตนพิการตาบอด อายุ 58 ปี และน้องชายคนสุดท้อง อายุ 48 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย โรงพยาบาลเลยไม่รับการรักษาแล้ว ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานีแทน ไปพบหมอ รับยาแต่ละครั้งยากลำบากเพราะระยะทางไกลและมีค่าใช้จ่ายค่ารถค่าอาหารการกิน ทุกวันนี้ ตนต้องออกไปหางานรับจ้างเพียงคนเดียว เพื่อแลกเงินค่าแรงมาซื้อข้าวเลี้ยงแม่และน้องๆ บ้านที่อาศัยอยู่ก็เป็นที่ดินของลูกพี่ลูกน้องกัน ตนรับทำงานรับจ้างทั่วไป ฤดูตัดอ้อยก็ไปรับจ้างตัดอ้อยกับเขา ตัดอ้อย 75 ต้น ได้เงิน 5 บาท ตัดอ้อยแต่ละวันจะได้เงินมากที่สุดประมาณ 200-250 บาท แต่หากไม่ใช่หน้าตัดอ้อยก็ไปรับจ้างตัดหญ้า ขุดมัน ได้วันละ 100 กว่าบาท แต่งานรับจ้างก็ไม่ได้มีให้ทำทุกวัน บ่อยครั้งที่ตนต้องยอมอดข้าวเพื่อให้แม่และน้องได้อิ่มกัน ด้านนางเพ็ง ศรีวงแม้ ผู้เป็นแม่เล่าต่อว่า ทุกวันก็ได้พึ่งพาเบี้ยผู้สูงอายุ มีตนและลูกสาวคนโตที่ได้คนละ 500 บาท และได้อาศัยลูกคนโตทำงานรับจ้างหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว น้องๆ ก็ป่วยหมดบ้าน ตนก็ทำงานไม่ไหวแล้ว อายุก็ 89 ปี สงสารลูกสาวที่ต้องรับเลี้ยงทุกๆ คนในบ้าน สภาพบ้านก็อยู่ลำบาก เวลาฝนตกทั้งบ้านก็ไม่ได้นอนกัน เพราะบ้านรั่วทั้งหลังบางวันฝนตกหนักทั้งลมแรงก็ต้องนั่งร้องไห้ด้วยกันทั้งแม่และลูก “หน้าหนาวช่วงนี้มีลมหนาวพัดเข้าตามรอยข้างฟากไม้จะหนาวเย็นมาก และที่เดือดร้อนหนักสุดคือที่บ้านไม่มีห้องส้วม ทุกวันต้องอาศัยข้างบ้านบ้าง ตามป่าหลังบ้านบ้าง” นางเพ็งกล่าว ในขณะที่เพื่อนบ้านนางเพ็งได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า น่าสงสารครอบครัวนี้มาก เพื่อนบ้านมีข้าวหรือกับข้าวอะไรก็จะแบ่งปันมาให้ แต่พวกตนก็ยากจนเหมือนกัน ช่วยกันได้ตามมีตามเกิด ที่น่าสงสารคือลูกสาวคนโต ขาก็เดินไม่ปกติ แต่ต้องออกไปทำงานรับจ้างทุกวัน วันไหนป่วยคนในบ้านก็ไม่ได้กินข้าวแต่แกเป็นคนเหมือนร่าเริงยิ้มสู้ชีวิตตลอด “บางวันเขาก็แอบร้องไห้บ่อยๆ ไม่มีคนจ้างทำงาน กลัวแม่และน้องๆ ไม่มีจะกิน และยอมอดข้าวขอให้แม่และน้องได้อิ่มท้อง” เพื่อนบ้านบอก อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าอยากให้สังคมช่วยเหลืออย่างไรบ้าง นางสาวนาง ลูกสาวคนโตของบ้าน บอกเพียงแต่ว่า อยากซ่อมบ้าน และในชีวิตของตนอยากมีห้องน้ำห้องส้วมเหมือนเขาบ้างและเงินค่ารถส่งน้องชายไปรักษาที่โรงพยาบาลที่อุดรธานี ผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว สามารถบริจาคได้ที่บัญชี นางสาวนาง ศรีวงแม้ เลขที่บัญชี 015332169193 ออมทรัพย์ ธ.ก.ส. สาขาเอราวัณ จ.เลย บ้านพักอาศัยของ 4 ชีวิต อาศัยในเพิงพักที่สภาพเก่าและโทรม นางสาวนาง ศรีวงแม้ อายุ 61 ปี พี่สาวคนโตของครอบครัว กำลังรับจ้างตัดอ้อยให้เพื่อนบ้าน ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000013064

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...