หนุ่มใหญ่ เตะก้านคอคนพิการดับสลด ข้างสนามกีฬาหมู่บ้าน หลังช่วยกันเก็บเต็นท์
สุรินทร์ – หนุ่มใหญ่ เตะก้านคอคนพิการดับ ตายข้างสนามกีฬาหมู่บ้าน หลังช่วยกันเก็บเต็นท์ เหตุเมาสุรา ตำรวจรวบทันควัน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ยุทธนา จาตุรัตน์ ผกก.สภ.ดม ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์,ร.ต.ท.อรัญ อนันต์ รอง สว.(ป)สภ.ดม และ ร.ต.อ.สามารถ คล่องดี รอง สว.(สอบสวน)สภ.ดมฯได้รับแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตที่บริเวณหลังศาลากลางประจำหมู่บ้านดาร์ ซึ่งอยู่ข้างสนามกีฬาของหมู่บ้านดาร์ ม.9 ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ จึงนำกำลังพร้อมประสานแพทย์เวรจาก รพ.สังขะ รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายอัน อายุ 52 ปี เป็นผู้พิการขาขาดข้างขวา ต้องใส่ขาเทียม นอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นดินข้างแคร่ติดกับตอไม้
จากการสอบสวนของ จนท.ตำรวจ ทราบว่า ผู้ตายถูก นายสมพงษ์ อายุ 47 ปี ทำร้ายร่างกาย เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา หลังจากผู้ตายและนายสมพงษ์ผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วยนายสมคิด อายุ 49 ปี เพื่อนบ้านมาช่วยกันเก็บเต็นท์ภายในสนามกีฬา หลังจากเมื่อวานนี้ชาวบ้านได้มีการจัดงาน “ตาตุมไลท์แอนด์ซาวน์ 2025” ขึ้น ซึ่งทั้งหมดก็มีการดื่มสุราระหว่างช่วยกันเก็บเต็นท์ หลังจากเก็บเต็นท์เสร็จก็พากันมานั่งพักผ่อน และดื่มสุราต่อที่แคร่ข้างสนามดังกล่าว
ก่อนที่ผู้ตายและผู้ก่อเหตุจะมีปากเสียงทะเลาะกัน และผู้ตายถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ซึ่งระหว่างเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ มีแต่คนเห็นว่ามีปากเสียงกัน ก่อนจะพบว่าผู้ตายนอนเป็นศพแน่นิ่งอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุได้หนีกลับบ้านที่อยู่ข้างสนามกีฬาไป อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ
จากนั้น ตำรวจได้ติดตามไปควบคุมตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า ระหว่างเกิดเหตุผู้ก่อเหตุและผู้ตายนั่งดื่มสุราด้วยกัน และได้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทย์กัน โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้เท้าเตะก้านคอผู้ตาย จำนวน 1 ครั้ง ทำให้ผู้ตายล้มลงศีรษะกระแทกกับตอไม้ เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
นายสมคิด อายุ 49 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนก็ช่วยกันเก็บเต็นท์กว่า 20 หลัง ก็มีการดื่มกินไปด้วยทำงานไปด้วย หลังจากทำงานเสร็จก็พากันมานั่งพักบนแคร่ไม้ข้างสนามกีฬา ระหว่างนั้นตนก็นอนบนแคร่ เห็นผู้ตายกับผู้ก่อเหตุเถียงกันก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าเป็นการโต้เถียงกันธรรมดา ตนเหนื่อย จึงนอนหลับไปตั้งแต่ช่วงสายๆ ประมาณ 10 โมง มาตื่นอีกทีเกือบบ่าย จึงลุกไปปลุกผู้ตายก็ไม่ตอบรับ และจับชีพจร จับลมหายใจดู จึงพบว่าแน่นิ่งไปแล้ว จึงแจ้ง อบต.และชาวบ้านให้ทราบดังกล่าว ส่วนสาเหตุเกิดจากเรื่องอะไรตนก็ไม่ทราบ ปกติก็มากินเหล้าด้วยกันประจำก็ไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไรกัน ส่วนผู้ตายและผู้ก่อเหตุก็มีนิสัยดื้อพอๆ กัน
นางทองคูณ อายุ 54 ปี กล่าวว่า ตนและชาวบ้านเห็นผู้ตายและผู้ก่อเหตุทะเลาะกัน ก็เลยพากันไปแยกแล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นตนก็กลับบ้านไปทำธุระ ได้ยินแต่คนบอกว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว จึงกลับมาดู ไม่ทราบว่าทะเลาะเรื่องอะไร ช่วงที่ถูกทำร้ายก็ไม่มีใครเห็น ผู้ตายมีจิตอาสาชอบช่วยกันมาเก็บเต้นท์ช่วยหมู่บ้าน เวลามีกิจกรรมของส่วนรวมต่างๆ แต่ก็ไม่น่าถึงขนาดทำร้ายกันจนเสียชีวิต
ด้าน นางกนกวรรณ อายุ 55 ปี พี่สาวของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายไม่มีครอบครัว เป็นคนพิการขาขาดจากอุบัติเหตุหลายปีแล้ว ใส่ขาเทียม ไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่กับพี่ชายอีกคน ตนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ไม่น่าทำร้ายกันถึงตายแบบนี้ เขาเป็นคนพิการขาไม่น่าจะสู้อะไรได้ ไม่ขออโหสิกรรมให้ผู้ก่อเหตุและให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ที่มา: matichon.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 11 ก.พ.68
วันที่โพสต์: 11/02/2568 เวลา 11:43:59 
