ลุงแท็กซี่ก๊าซหมดปีนไปโทรศัพท์ พลัดตกทางด่วนดับอนาถ
ลุงแท็กซี่ตาบอดหนึ่งข้าง ก๊าซหมดบนทางด่วน จอดรถปีนข้ามฝั่งไปโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ แต่พลัดตกทางด่วนสูงเกือบ 10 เมตร นอนตายนานกว่า 6 ชม.จึงมีคนมาพบศพ
(18 เม.ย.) เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าตรวจสอบศพนายสุพิศ อายุ 50 ปี ที่นอนเสียชีวิตอยู่ใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าบางพลี ช่วงบริเวณก่อนถึงทางลงถนนศรีนครินทร์เล็กน้อย ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ โดยสภาพศพผู้ตายไม่มีบาดแผล ใกล้กับพบรองเท้า และแว่นตาแบบกรองแสงของผู้ตายตกอยู่ ส่วนที่ตาข้างซ้ายของผู้ตายพบความพิการของดวงตา ภายในตัวพบเงินสดอยู่จำนวนหนึ่ง
เมื่อทางเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบบนทางด่วนฯ บริเวณจุดเกิดเหตุ ใกล้กับด่านเก็บเงินทางลงถนนศรีนครินทร์ พบรถแท็กซี่สีชมพู ทะเบียน ทย 9677 กทม. จอดเปิดฝากระโปรงด้านท้าย พบฝาครอบถังก๊าซ NGV ถูกเปิดทิ้งไว้ ภายในรถพบกระเป๋าสตางค์ของผู้ตาย ภายในมีเงินสดและบัตรต่างๆของผู้ตาย บริเวณตู้โทรศัพท์ฉุกเฉิน ตรงจุดเกิดเหตุพบรอยมือหลายแห่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย
ด้านเจ้าหน้าที่ทางด่วนฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ทางรปภ.ของด่านเก็บเงินพบรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา แต่ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่ารถแท็กซี่อาจจะมาจอดนอน กระทั่งได้รับแจ้งว่ามีชายแต่งกายคล้ายคนขับแท็กซี่นอนเสียชีวิตใต้ทางด่วน จึงมาตรวจสอบก็พบว่าบัตรที่อยู่ภายในรถตรงกับผู้ตาย
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะขับแท็กซี่มาถึงจุดเกิดเหตุ แล้วรถน่าจะดับเพราะก๊าซหมด จึงลงจากรถและพยายามปีนแผงปูนที่กันทางด่วนไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ที่ตู้โทรศัพท์ฉุกเฉินติดตั้งอยู่ แต่เกิดพลาดท่าพลัดตกลงไปเสียชีวิต เนื่องจากระหว่างช่วงของทางด่วนนั้นจะมีช่องว่างอยู่ประมาณ 80 ซม.และจุดเกิดเหตุเป็นช่วงทางลงทางด่วน ทำให้ถนน 2 ฝั่ง ทำให้ถนนมีความลาดเอียงไม่เท่ากัน และต่างกันกว่า 1 เมตร ประกอบกับผู้ตายมีความพิการทางสายตาอยู่แล้วข้างหนึ่ง และช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงกลางคืนด้วย จึงทำให้ผู้ตายอาจกะระยะผิดและพลัดตกลงไปเสียชีวิต
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ ได้มอบร่างนายสุพิศ ส่งสถาบันนิเวช เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐานในการนินการตามกฎหมายต่อไป