สาวพิการร้องดีเอสไอถูกตุ๋นเซ็นจำนองที่ดิน เงินไม่ได้กลับเป็นหนี้ 7 แสน ซ้ำถูกฟ้องไล่ที่อยู่อาศัย
MGR Online - น้องชายพาพี่สาวพิการร้องดีเอสไอขอความเป็นธรรม ถูกหลอกเซ็นจำนองที่ดินไม่ได้เงิน กลายเป็นหนี้อีก 7 แสนบาท แถมถูกฟ้องไล่ออกจากที่ดินตัวเอง
วันนี้ (8 พ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.กาหลง วังงาม อายุ 54 ปี พร้อมด้วย นายพิรุณ วังงาม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 หมู่ 1 ต.บ้านสระ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เดินทางขอความเป็นธรรมต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อช่วยเหลือหลังถูกสวมสิทธิและกำลังถูกดำเนินไล่ออกจากที่ดินของตัวเอง ในพื้นที่ประมาณ 3 ไร่เศษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง
นายพิรุณกล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อปี 2555 น.ส.กาหลง พี่สาวตนที่มีร่างกายพิการเก็บของเก่าขาย ต้องการหาเงินเพื่อนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงเป็ด และได้พบกับ น.ส.สาว (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ได้ชักชวนหาผู้ให้กู้ยืมเงินก่อนมาเจอกับนายฟ้อน กรัดเพ็ชร์ ผู้รับจำนอง จึงได้ทำสัญญาเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2555 ที่สำนักงานกรมที่ดิน อ.สามชุก ซึ่งพี่สาวตนจะขอเพียง 2 แสนบาท แต่นายฟ้อนให้ทำสัญญา 4 แสนบาทอ้างว่าเพื่อค่าใช้จ่ายไม่พอและให้มารับเงินด้านนอกสำนักงานกรมที่ดิน เมื่อพี่สาวได้เซ็นสัญญาเรียบร้อย นายฟ้อนกลับอ้างว่าเงินไม่พอและจะให้เงินพี่สาวทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ กระทั่งเมื่อถึงกำหนด นายฟ้อน ก็ยังไม่ให้เงิน จนระยะเวลาผ่านไปหลายเดือน พี่สาวจึงโทรศัพท์หา น.ส.สาว เพื่อขอยกเลิกสัญญาจำนองที่ดินเพราะนายฟ้อนไม่สามารถให้เงินตามระเบียบ กระทั่ง น.ส.สาวกับนายฟ้อนได้นัดหมายพี่สาวตนมาเซ็นยกเลิกสัญญาดังกล่าวที่สำนักงานกรมที่ดิน อ.สามชุก
นายพิรุณกล่าวอีกว่า ในวันยกเลิกสัญญาดังกล่าวที่สำนักงานที่ดิน น.ส.สาว กับนายฟ้อน ได้นัดนายวีระวัฒน์ วงศ์หิรัญ มาทำสัญญารับจำนองที่ดินคนใหม่ จำนวนเงิน 5 แสนบาท เมื่อพี่สาวเซ็นสัญญาเรียบร้อย แต่นายวีระวัฒน์กลับนำเงินทั้งหมด 5 แสนบาทไปให้นายฟ้อนดำเนินการ ซึ่งนายฟ้อนอ้างอีกว่าจะนำเงินมาให้พี่สาวเอง กระทั่งเมื่อปี 2557 นายวีระวัฒน์ได้ดำเนินการฟ้องร้องศาลจังหวัดสุพรรณบุรีว่าพี่สาวไม่จ่ายเงินตามกำหนดทั้งๆ ที่พี่สาวไม่เคยได้รับเงินสักบาทจากนายฟ้อนเลย ซึ่งทั้ง 3 ศาลพิพากษาให้พี่สาว ชำระเงินประมาณ 7 แสนบาทให้นายวีระวัฒน์ภายในวันที่ 17 พ.ค.นี้ และหากไม่ได้ก็จะบังคับไล่ออกจากที่ดินของครอบครัว จึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว
พ.ต.ต.วรณันเปิดเผยว่า เบื้องต้นดีเอสไอจะรับเรื่องร้องทุกข์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้จะยื่นเรื่องให้กองทุนยุติธรรมเข้ามาดูแลช่วยเหลือเพิ่มเติม