ลูกชายเป็นเด็กพิเศษ โดนแกล้งในโรงเรียนกว่า 2 ปี คุณพ่อทนไม่ไหว ให้ลาออกมาทำงานบริษัทเลย
เป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างดาร์กเลยทีเดียว แน่นอนว่าในวัยเด็กนั้น หลายๆ คนก็ไม่ได้มีช่วงชีวิตที่สวยงามราวกับปลูกบ้านอยู่ในทุ่งกว้างลาเวนเดอร์ โดยเฉพาะการไปโรงเรียน ไปเจอสังคมใหม่ๆ ของเด็กๆ ด้วยกัน การกลั่นแกล้งกันในกลุ่มเพื่อนย่อมเกิดขึ้น แต่บางครั้งมันก็หนักเกินไป
แต่บางทีถ้าคุณครูและผู้ดูแลไม่สนใจล่ะก็ พ่อแม่ก็ต้องลงไม้ลงมือกันเองซะบ้าง เหมือนคุณพ่อคนนี้ Lee Cooke ผู้จัดการบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งใน Wolverhampton ประเทศอังกฤษ ที่ทนเห็นลูกของเขาถูกรังแกในโรงเรียนไม่ไหวมากว่า 2 ปีเต็ม แถมคุณครูก็ไม่ค่อยใส่ใจที่จะดูแลเขานัก สำหรับลูกของเขานั้นเป็นเด็กชายอายุ 9 ขวบที่เรียกได้ว่าเป็นเด็กพิเศษ เพราะเขามีอาการของโรค Dyslexia หรืออาการบกพร่องทางการอ่านนั่นเอง ทำให้ตกเป็นเป้าให้เด็กอื่นเข้ามาแกล้งเขาเป็นประจำ
‘วันนี้เป็นวันที่ลูกชายวัย 9 ขวบของผมได้เริ่มชีวิตใหม่ หลังจากที่เขาถูกรังแกในโรงเรียนมาอย่างยาวนานกว่า 2 ปีเต็มและไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควรจากเจ้าพนักงาน ผมก็เลยตัดสินใจให้เขาออกจากโรงเรียน ในวันนี้เราเรียนรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ ไอซีทีนิดหน่อย แล้วก็การรับสายโทรศัพท์อย่างถูกวิธี วันนี้ผมได้เห็นรอยยิ้มของลูกชายของผม และผมก็ยิ้มไปกับเขาเช่นกัน ผมอยากให้เด็กๆ ที่รังแกเขาและคุณครูที่ไม่ช่วยเหลือเขาได้เห็นว่า การที่เขามีอาการ Dyslexia นั้นไม่ได้แปลว่าใครจะสามารถทำกับเขาแบบนี้ได้ เพราะฉะนั้นเราจงลุกขึ้นสู้กับความไม่ถูกต้องแบบนี้กันเถอะ!!!’
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นถึงการที่ให้เด็กคนนี้ออกมาทำงานตั้งแต่ 9 ขวบ ว่ามันเหมาะสมหรือไม่ แต่ก็เป็นเรื่องของคุณพ่อ ที่เห็นว่าการให้เข้าทำงานแบบนี้น่าจะดีกว่า ในส่วนของการศึกษานั้น ค่อยสอนแบบโฮมสคูล ก็จะไม่ต้องไปทนกับการโดนกลั่นแกล้ง และได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้นด้วย
ที่จริงแล้วโรค Dyslexia นั้นก็มีผู้มีชื่อเสียงระดับโลกคนหนึ่งเช่นกันที่มีอาการนี้ แต่ประเด็นคือเขาไม่เคยยอมแพ้และสิ้นหวังแม้แต่น้อยจนประสบความสำเร็จ อย่าง Jamie Oliver ในวัยเด็กของเขานั้นค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว เพราะเขาเกิดมาพร้อมกับโรค Dyslexia ทำให้เขามีความบกพร่องในการอ่าน และมีปัญหาในด้านการเรียนรู้อย่างมาก แต่ถือว่าหนูน้อย Jamie ในตอนนั้นยังโชคดีมากๆ เพราะโดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นคนที่ชอบทานอาหารและสนุกกับมัน ประกอบกับการที่พ่อแม่ของเขามีร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งไว้ให้เขาฝึกซ้อมฝีมือและฝึกหัดอยู่เสมอๆ
แต่ยิ่งทำไปมันยิ่งใช่ จนเมื่อเขาเรียนหนังสือจบมาอย่างยากลำบาก เขาจึงพยายามสมัครงานเป็นเชฟทำอาหารหลายๆ ที่ จนได้มีโอกาสไปทำงานในร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่งในละแวก มาถึงจุดๆ นี้เขาก็พบว่าตัวเองสามารถทำอาหารชนิดนี้ได้ดีเป็นพิเศษ!!?
โอกาสในการพลิกผันชีวิตของเขาก่อเกิดในปี 1997 ที่ผู้จัดรายการของสำนักข่าว BBC ได้เผอิญเห็นเขาออกทีวีช่วงสั้นๆ ในรายการทำอาหารรายการหนึ่ง เกิดปิ๊งเข้ากับเชฟหนุ่มของเราเข้าให้อย่างจัง เพราะสไตล์การอธิบายและทำอาหารที่แม้จะเป็นเรื่องยากๆ ก็สามารถทำให้ผู้ชมดูจนเข้าใจกันได้ง่ายๆ
หลังจากนั้นทางผู้จัดก็เลยชักชวนเชฟหนุ่มมาทำรายการอาหารที่ชื่อว่า The Naked Chef ซึ่งผลก็เป็นไปตามคาด รายการนี้ทำให้เขาดังเป็นพลุแตก และได้รับเชิญไปรายการทำอาหารอีกหลายๆ รายการ จนเขากลายมาเป็นหนึ่งในเชฟที่รวยที่สุดในโลก!!?
พอดังและประสบความสำเร็จแล้ว Jamie ก็ไม่ลืมที่จะตอบแทนชุมชนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการมีบทบาทสำคัญในการเรียกร้องให้เปลี่ยนอาหารในโรงเรียนของอังกฤษให้ดีต่อสุขภาพเด็กมากขึ้น แถมยังส่งผลไปถึงโรงเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย และทุกๆ ปีเขาก็มีโครงการที่จะให้โอกาสเด็กๆ ด้อยโอกาสหรือมีปัญหาด้านต่างๆ เข้ามาฝึกงานและทำอาหารในร้านของเขา เป็นดั่งการให้โอกาสและกระตุ้นให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับตอนนี้น่ะเหรอ?? ก็เรียกได้ว่าเขาเป็นเศรษฐีคนหนึ่งไปแล้วล่ะ เพราะมีร้านอาหารเป็นของตัวเองแล้ว และไม่ใช่แค่ร้านเดียวนะ กว่า 50 ร้านเลยล่ะ!!! แถมยังมีหนังสือทำอาหารเป็นของตัวเองมากมายที่พิมพ์ขายอยู่ตามท้องตลาด แต่กระนั้น ถึงจะประสบความสำเร็จขนาดนี้โรค Dyslexia ก็เล่นงานเขาหนักหน่วงเหมือนกัน เพราะกว่าจะสามารถอ่านหนังสือสักเล่มจบนั้น เขาก็มีอายุได้กว่า 38 ปีแล้วล่ะ ซึ่งหนังสือเรื่องแรกที่เขาอ่านจบได้เสียทีก็คือนวนิยายชื่อดัง Hunger Games : Catching Fire ล่ะ!!! และนี่ก็คือเรื่องราวสุดประทับใจของเขา
ที่มา : Dailymail, Wegointerl
ขอบคุณ... http://www.catdumb.com/lee-cooke-333/
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เด็กชายอายุ 9 ขวบ มีอาการของโรค Dyslexia หรืออาการบกพร่องทางการอ่าน เป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างดาร์กเลยทีเดียว แน่นอนว่าในวัยเด็กนั้น หลายๆ คนก็ไม่ได้มีช่วงชีวิตที่สวยงามราวกับปลูกบ้านอยู่ในทุ่งกว้างลาเวนเดอร์ โดยเฉพาะการไปโรงเรียน ไปเจอสังคมใหม่ๆ ของเด็กๆ ด้วยกัน การกลั่นแกล้งกันในกลุ่มเพื่อนย่อมเกิดขึ้น แต่บางครั้งมันก็หนักเกินไป แต่บางทีถ้าคุณครูและผู้ดูแลไม่สนใจล่ะก็ พ่อแม่ก็ต้องลงไม้ลงมือกันเองซะบ้าง เหมือนคุณพ่อคนนี้ Lee Cooke ผู้จัดการบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งใน Wolverhampton ประเทศอังกฤษ ที่ทนเห็นลูกของเขาถูกรังแกในโรงเรียนไม่ไหวมากว่า 2 ปีเต็ม แถมคุณครูก็ไม่ค่อยใส่ใจที่จะดูแลเขานัก สำหรับลูกของเขานั้นเป็นเด็กชายอายุ 9 ขวบที่เรียกได้ว่าเป็นเด็กพิเศษ เพราะเขามีอาการของโรค Dyslexia หรืออาการบกพร่องทางการอ่านนั่นเอง ทำให้ตกเป็นเป้าให้เด็กอื่นเข้ามาแกล้งเขาเป็นประจำ โพสต์น่ารักๆ จากคุณพ่อในโซเชียลมีเดียส่วนตัวของเขา ‘วันนี้เป็นวันที่ลูกชายวัย 9 ขวบของผมได้เริ่มชีวิตใหม่ หลังจากที่เขาถูกรังแกในโรงเรียนมาอย่างยาวนานกว่า 2 ปีเต็มและไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควรจากเจ้าพนักงาน ผมก็เลยตัดสินใจให้เขาออกจากโรงเรียน ในวันนี้เราเรียนรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ ไอซีทีนิดหน่อย แล้วก็การรับสายโทรศัพท์อย่างถูกวิธี วันนี้ผมได้เห็นรอยยิ้มของลูกชายของผม และผมก็ยิ้มไปกับเขาเช่นกัน ผมอยากให้เด็กๆ ที่รังแกเขาและคุณครูที่ไม่ช่วยเหลือเขาได้เห็นว่า การที่เขามีอาการ Dyslexia นั้นไม่ได้แปลว่าใครจะสามารถทำกับเขาแบบนี้ได้ เพราะฉะนั้นเราจงลุกขึ้นสู้กับความไม่ถูกต้องแบบนี้กันเถอะ!!!’ (เด็กชายอายุ 9 ขวบ มีอาการของโรค Dyslexia) (Lee Cooke ผู้จัดการบริษัทอสังหาริมทรัพย์) อย่างไรก็ตาม มีประเด็นถึงการที่ให้เด็กคนนี้ออกมาทำงานตั้งแต่ 9 ขวบ ว่ามันเหมาะสมหรือไม่ แต่ก็เป็นเรื่องของคุณพ่อ ที่เห็นว่าการให้เข้าทำงานแบบนี้น่าจะดีกว่า ในส่วนของการศึกษานั้น ค่อยสอนแบบโฮมสคูล ก็จะไม่ต้องไปทนกับการโดนกลั่นแกล้ง และได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้นด้วย ที่จริงแล้วโรค Dyslexia นั้นก็มีผู้มีชื่อเสียงระดับโลกคนหนึ่งเช่นกันที่มีอาการนี้ แต่ประเด็นคือเขาไม่เคยยอมแพ้และสิ้นหวังแม้แต่น้อยจนประสบความสำเร็จ อย่าง Jamie Oliver ในวัยเด็กของเขานั้นค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว เพราะเขาเกิดมาพร้อมกับโรค Dyslexia ทำให้เขามีความบกพร่องในการอ่าน และมีปัญหาในด้านการเรียนรู้อย่างมาก แต่ถือว่าหนูน้อย Jamie ในตอนนั้นยังโชคดีมากๆ เพราะโดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นคนที่ชอบทานอาหารและสนุกกับมัน ประกอบกับการที่พ่อแม่ของเขามีร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งไว้ให้เขาฝึกซ้อมฝีมือและฝึกหัดอยู่เสมอๆ Jamie Oliver เซฟระดับโลก เกิดมาพร้อมกับโรค Dyslexia ทำให้เขามีความบกพร่องในการอ่าน แต่ยิ่งทำไปมันยิ่งใช่ จนเมื่อเขาเรียนหนังสือจบมาอย่างยากลำบาก เขาจึงพยายามสมัครงานเป็นเชฟทำอาหารหลายๆ ที่ จนได้มีโอกาสไปทำงานในร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่งในละแวก มาถึงจุดๆ นี้เขาก็พบว่าตัวเองสามารถทำอาหารชนิดนี้ได้ดีเป็นพิเศษ!!? โอกาสในการพลิกผันชีวิตของเขาก่อเกิดในปี 1997 ที่ผู้จัดรายการของสำนักข่าว BBC ได้เผอิญเห็นเขาออกทีวีช่วงสั้นๆ ในรายการทำอาหารรายการหนึ่ง เกิดปิ๊งเข้ากับเชฟหนุ่มของเราเข้าให้อย่างจัง เพราะสไตล์การอธิบายและทำอาหารที่แม้จะเป็นเรื่องยากๆ ก็สามารถทำให้ผู้ชมดูจนเข้าใจกันได้ง่ายๆ หลังจากนั้นทางผู้จัดก็เลยชักชวนเชฟหนุ่มมาทำรายการอาหารที่ชื่อว่า The Naked Chef ซึ่งผลก็เป็นไปตามคาด รายการนี้ทำให้เขาดังเป็นพลุแตก และได้รับเชิญไปรายการทำอาหารอีกหลายๆ รายการ จนเขากลายมาเป็นหนึ่งในเชฟที่รวยที่สุดในโลก!!? Jamie Oliver เซฟระดับโลก เกิดมาพร้อมกับโรค Dyslexia ทำให้เขามีความบกพร่องในการอ่าน พอดังและประสบความสำเร็จแล้ว Jamie ก็ไม่ลืมที่จะตอบแทนชุมชนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการมีบทบาทสำคัญในการเรียกร้องให้เปลี่ยนอาหารในโรงเรียนของอังกฤษให้ดีต่อสุขภาพเด็กมากขึ้น แถมยังส่งผลไปถึงโรงเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย และทุกๆ ปีเขาก็มีโครงการที่จะให้โอกาสเด็กๆ ด้อยโอกาสหรือมีปัญหาด้านต่างๆ เข้ามาฝึกงานและทำอาหารในร้านของเขา เป็นดั่งการให้โอกาสและกระตุ้นให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น Jamie Oliver เซฟระดับโลก เกิดมาพร้อมกับโรค Dyslexia ทำให้เขามีความบกพร่องในการอ่าน สำหรับตอนนี้น่ะเหรอ?? ก็เรียกได้ว่าเขาเป็นเศรษฐีคนหนึ่งไปแล้วล่ะ เพราะมีร้านอาหารเป็นของตัวเองแล้ว และไม่ใช่แค่ร้านเดียวนะ กว่า 50 ร้านเลยล่ะ!!! แถมยังมีหนังสือทำอาหารเป็นของตัวเองมากมายที่พิมพ์ขายอยู่ตามท้องตลาด แต่กระนั้น ถึงจะประสบความสำเร็จขนาดนี้โรค Dyslexia ก็เล่นงานเขาหนักหน่วงเหมือนกัน เพราะกว่าจะสามารถอ่านหนังสือสักเล่มจบนั้น เขาก็มีอายุได้กว่า 38 ปีแล้วล่ะ ซึ่งหนังสือเรื่องแรกที่เขาอ่านจบได้เสียทีก็คือนวนิยายชื่อดัง Hunger Games : Catching Fire ล่ะ!!! และนี่ก็คือเรื่องราวสุดประทับใจของเขา ที่มา : Dailymail, Wegointerl ขอบคุณ... http://www.catdumb.com/lee-cooke-333/
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)