ผอ.ร.ร.เชียงใหม่ โต้เพจดัง ยัดข้อหาอมเงินเด็ก นร.พิการ-แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์
เชียงใหม่ - ผอ.โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ โต้ข้อครหาอมเงินรางวัลนักเรียนพิการ-แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซัน 4 ที่คว้าเงินรางวัลสูงถึง 10 ล้าน ยันนำเงินทุกบาททุกสตางค์ต่อยอดซื้อสลากออมสิน-ตั้งกองทุนฯ ดูแลทั้ง นร.-ครู-บุคลากร
วันที่ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี “เพจแหม่มโพธิ์ดำ” ได้เผยแพร่เรื่องราว 1 ใน 8 เด็กนักเรียนพิการ-แชมป์ Thailand's Got Talent Season 4 ซึ่งเคยได้รางเงินรางวัล 10 ล้านบาท พร้อมระบุว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่อมเงินเด็กนักเรียนพิการ
แหม่มโพธิ์ดำระบุในเพจว่า ระหว่างเดินทางจากจังหวัดเพชรบูรณ์ไปจังหวัดพิษณุโลก และได้เข้าไปกินข้าวกลางวันในร้านข้าวแกงราคา 10 บาท ใน อ.วังทอง ได้พบเจอกับ ด.ญ.ทัศนัย บุญมี ที่เคยร่วมเข้าประกวดในรายการ Thailand's Got Talent Season4 TGT33 ในชื่อทีม WHEELCHAIR DANCE ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 8 คน และได้แชมป์ได้รับเงินรางวัลถึง10ล้านบาท
โดยเงินรางวัลทั้งหมด 10 ล้านบาทนั้น ทางผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนของน้องๆ ที่เข้าประกวดเรียนอยู่ ทางผู้อำนวยการได้จัดแจงเงินจำนวน 10 ล้าน แบ่งให้คนละ 1 แสนบาท แบ่งจ่าย 5 ปี ทั้งนี้จะมีเงินส่วนต่างที่หายไปจำนวนถึง 2 แสนบาท ทำให้ผู้โพสต์สงสัยว่าเงินจำนวนนั้นหายไปไหน หรือทางผู้อำนวยการจะโกงเด็กนักเรียนกลุ่มนี้ ปัจจุบัน ด.ญ.ทัศนัย บุญมี นั้นพิการช่วงใต้สะดือลงมา ไม่มีความรู้สึกและเป็นแผลกดทับที่ก้นซึ่งต้องไปล้างแผลทุกวันและหากวันไหนไม่มีเงินก็ไม่สามารถไปล้างแผลได้
หลังจากโพสต์นี้ได้ถูกเผยแพร่ต่อไปในโลกออนไลน์ทำให้มีชาวเน็ตเป็นจำนวนมากต่างเห็นอกเห็นใจน้องๆ กลุ่มนี้ และเรียกร้องให้ผู้อำนวยการออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนางพวงทอง ศรีวิลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งชี้แจงว่า แรกเริ่มเดิมทีการนั่งรถวีลแชร์ของเด็กนักเรียนผู้พิการนั้นพอนั่งนานๆ จะมีแผลกดทับ เราจึงได้ให้เด็กออกกำลังกายในท่าทางต่างๆ และการเต้นประกอบจังหวะเสียงเพลง จนได้ส่งตัวแทนไปแข่งขันไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ปี 57 โดยทางโรงเรียนได้วางแผนจัดฝ่ายดูแลอาหาร ฝ่ายฝึกซ้อม ส่งเด็กเข้าแข่งขัน และได้รับความอนุเคราะห์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ที่มีศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิฯ เป็นหัวเรือใหญ่ในการดูแล ในที่สุด เด็กๆ ก็ได้รางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 10 ล้านบาท ซึ่งจะมีการหักภาษี 47% ทำให้เหลือเงินรางวัล 5.3 ล้านบาท
ทางศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ จึงได้เรียกฝ่ายต่างๆมาประชุม เพื่อทำเรื่องขอเป็นรูปแบบมูลนิธิเพื่อไม่ต้องเสียภาษี จนได้รับเงินเต็มจำนวน จากนั้นได้นำเงินทั้งหมดไปซื้อสลากออมสิน และกู้ออกมาจำนวน 9.5 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาซึ่งมีทั้งผู้บริหารโรงเรียน ผู้ปกครองของเด็ก วางแผนการดำเนินการกับเงินดังกล่าว โดยเพื่อให้ได้ประโยชน์ทั้งสามฝ่าย คือ ฝ่ายเด็กที่เข้าแข่งขันเอง, นักเรียนของโรงเรียน และคณะครูบุคลากรที่อยู่เบื้องหลัง กระทั่งมีมติจ่ายเงินให้เด็กที่เข้าแข่งขันปีละ 1 แสนบาทต่อคน เป็นเวลา 5 ปี ส่วนเงินที่เหลืออีก 8 ล้านบาทก็นำเข้ากองทุนสวัสดิการคณะครู และบุคลากรโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ซึ่งตอนนี้มีรายได้สะสมรายปีล้านกว่าบาทแล้ว
“น้องที่ได้ไปให้ข่าวกับเพจดังกล่าว ตอนนี้ก็มีรายชื่ออยู่ในโรงเรียนด้วย แต่ญาติพี่น้องนำกลับไปเลี้ยงดูแลที่จังหวัดพิษณุโลก โดยตอนนี้เบิกเงินไปแล้ว 1.6 แสนบาท ทางโรงเรียนขอยืนยันว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ เรานำมาต่อยอดเพื่อให้ประโยชน์แก่ทุกฝ่ายสูงสุด และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน”
ขอบคุณ... https://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000071633 (ขนาดไฟล์: 166)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เชียงใหม่ - ผอ.โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ โต้ข้อครหาอมเงินรางวัลนักเรียนพิการ-แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซัน 4 ที่คว้าเงินรางวัลสูงถึง 10 ล้าน ยันนำเงินทุกบาททุกสตางค์ต่อยอดซื้อสลากออมสิน-ตั้งกองทุนฯ ดูแลทั้ง นร.-ครู-บุคลากร ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ วันที่ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี “เพจแหม่มโพธิ์ดำ” ได้เผยแพร่เรื่องราว 1 ใน 8 เด็กนักเรียนพิการ-แชมป์ Thailand's Got Talent Season 4 ซึ่งเคยได้รางเงินรางวัล 10 ล้านบาท พร้อมระบุว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่อมเงินเด็กนักเรียนพิการ แหม่มโพธิ์ดำระบุในเพจว่า ระหว่างเดินทางจากจังหวัดเพชรบูรณ์ไปจังหวัดพิษณุโลก และได้เข้าไปกินข้าวกลางวันในร้านข้าวแกงราคา 10 บาท ใน อ.วังทอง ได้พบเจอกับ ด.ญ.ทัศนัย บุญมี ที่เคยร่วมเข้าประกวดในรายการ Thailand's Got Talent Season4 TGT33 ในชื่อทีม WHEELCHAIR DANCE ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 8 คน และได้แชมป์ได้รับเงินรางวัลถึง10ล้านบาท โดยเงินรางวัลทั้งหมด 10 ล้านบาทนั้น ทางผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนของน้องๆ ที่เข้าประกวดเรียนอยู่ ทางผู้อำนวยการได้จัดแจงเงินจำนวน 10 ล้าน แบ่งให้คนละ 1 แสนบาท แบ่งจ่าย 5 ปี ทั้งนี้จะมีเงินส่วนต่างที่หายไปจำนวนถึง 2 แสนบาท ทำให้ผู้โพสต์สงสัยว่าเงินจำนวนนั้นหายไปไหน หรือทางผู้อำนวยการจะโกงเด็กนักเรียนกลุ่มนี้ ปัจจุบัน ด.ญ.ทัศนัย บุญมี นั้นพิการช่วงใต้สะดือลงมา ไม่มีความรู้สึกและเป็นแผลกดทับที่ก้นซึ่งต้องไปล้างแผลทุกวันและหากวันไหนไม่มีเงินก็ไม่สามารถไปล้างแผลได้ หลังจากโพสต์นี้ได้ถูกเผยแพร่ต่อไปในโลกออนไลน์ทำให้มีชาวเน็ตเป็นจำนวนมากต่างเห็นอกเห็นใจน้องๆ กลุ่มนี้ และเรียกร้องให้ผู้อำนวยการออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนางพวงทอง ศรีวิลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งชี้แจงว่า แรกเริ่มเดิมทีการนั่งรถวีลแชร์ของเด็กนักเรียนผู้พิการนั้นพอนั่งนานๆ จะมีแผลกดทับ เราจึงได้ให้เด็กออกกำลังกายในท่าทางต่างๆ และการเต้นประกอบจังหวะเสียงเพลง จนได้ส่งตัวแทนไปแข่งขันไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ปี 57 โดยทางโรงเรียนได้วางแผนจัดฝ่ายดูแลอาหาร ฝ่ายฝึกซ้อม ส่งเด็กเข้าแข่งขัน และได้รับความอนุเคราะห์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ที่มีศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิฯ เป็นหัวเรือใหญ่ในการดูแล ในที่สุด เด็กๆ ก็ได้รางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 10 ล้านบาท ซึ่งจะมีการหักภาษี 47% ทำให้เหลือเงินรางวัล 5.3 ล้านบาท น้องๆ นักเรียนโรงเรียนศรีสังวาลย์ ทางศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ จึงได้เรียกฝ่ายต่างๆมาประชุม เพื่อทำเรื่องขอเป็นรูปแบบมูลนิธิเพื่อไม่ต้องเสียภาษี จนได้รับเงินเต็มจำนวน จากนั้นได้นำเงินทั้งหมดไปซื้อสลากออมสิน และกู้ออกมาจำนวน 9.5 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาซึ่งมีทั้งผู้บริหารโรงเรียน ผู้ปกครองของเด็ก วางแผนการดำเนินการกับเงินดังกล่าว โดยเพื่อให้ได้ประโยชน์ทั้งสามฝ่าย คือ ฝ่ายเด็กที่เข้าแข่งขันเอง, นักเรียนของโรงเรียน และคณะครูบุคลากรที่อยู่เบื้องหลัง กระทั่งมีมติจ่ายเงินให้เด็กที่เข้าแข่งขันปีละ 1 แสนบาทต่อคน เป็นเวลา 5 ปี ส่วนเงินที่เหลืออีก 8 ล้านบาทก็นำเข้ากองทุนสวัสดิการคณะครู และบุคลากรโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ซึ่งตอนนี้มีรายได้สะสมรายปีล้านกว่าบาทแล้ว “น้องที่ได้ไปให้ข่าวกับเพจดังกล่าว ตอนนี้ก็มีรายชื่ออยู่ในโรงเรียนด้วย แต่ญาติพี่น้องนำกลับไปเลี้ยงดูแลที่จังหวัดพิษณุโลก โดยตอนนี้เบิกเงินไปแล้ว 1.6 แสนบาท ทางโรงเรียนขอยืนยันว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ เรานำมาต่อยอดเพื่อให้ประโยชน์แก่ทุกฝ่ายสูงสุด และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน” ขอบคุณ... https://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000071633
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)