‘รพ.บางกรวย’ ดูแลคนพิการ เปิดให้บริการกายอุปกรณ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
บอร์ด สปสช. ลงพื้นที่ รพ.บางกรวย ชื่นชมศักยภาพ “พัฒนาระบบดูแลคนพิการอย่างครบวงจร” พร้อมเปิดช่องทางด่วน อำนวยความสะดวกคนพิการเข้าถึงบริการกายอุปกรณ์-ขาเทียม ด้าน ผอ.รพ.บางกรวย ระบุ ปี 2562-2568 ให้บริการคนพิการทุกสิทธิแล้วกว่า 2,500 ราย เป็นสิทธิบัตรทอง 1,230 ราย รวมเป็นกายอุปกรณ์ 2,942 ชิ้น ระบุข้อจำกัด “กรณีซ่อมแซมกายอุปกรณ์เบิกจ่ายไม่ได้” ด้าน “กรรมการ บอร์ด สปสช.” เตรียมเสนอใช้กลไกล “กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด” จัดทำโครงการสนับสนุนแก้ปัญหา ขณะที่คนพิการใส่ขาเทียม เผยทำให้กลับมามีชีวิตปกติอีกครั้ง ช่วยหารายได้ดูแลครอบครัว
นายวันเสาร์ ไชยกุล กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะ พร้อมด้วย นางสุวรรณี ศรีปราชญ์ ผู้อำนวยการกลุ่ม สปสช.เขต 4 สระบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมชมการให้บริการกายอุปกรณ์เสริมและเทียมแก่ผู้พิการ โดยเฉพาะการให้บริการขาเทียมแก่ผู้พิการทางกายในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ของโรงพยาบาลบางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยมี นพ.กวิตม์ ซื่อมั่น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางกรวย ให้ข้อมูลการดำเนินการจัดบริการที่ให้การดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่นัดหมาย ให้คำปรึกษาโดยแพทย์เฉพาะทางออร์โธปิดิกส์ บริการจัดทำกายอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อสนับสนุนการใช้ชีวิตของผู้พิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางอื่นๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นพ.กวิตม์ กล่าวว่า โรงพยาบาลบางกรวยให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมผู้ป่วยก่อนเข้ารับบริการกายอุปกรณ์เสริมและเทียม โดยผู้รับบริการส่วนใหญ่เป็นคนพิการในพื้นที่ อ.บางกรวย และพื้นที่ใกล้เคียง เป้าหมายสำคัญคือ ด้วยการเดินทางของคนพิการที่มีความลำบาก ดังนั้นการมารับบริการจะต้องได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน ไม่มีเสียเที่ยว จึงได้จัดแพทย์เฉพาะทางออร์โธปิดิกส์ 2 คน เพื่อให้การตรวจและวินิจฉัยคนพิการที่เป็นบริการช่องทางด่วน (Fast lane) เพื่ออำนวยความสะดวกเป็นกรณีเฉพาะ โดยแพทย์จะพิจารณาการสั่งทำกายอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และส่งต่อไปยังคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมเพื่อฟื้นฟู ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1–2 สัปดาห์ จากนั้นจะมีการนัดหมายให้ผู้รับบริการกลับมาฝึกใช้กายอุปกรณ์จนสามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว พร้อมแนะนำวิธีดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน
สำหรับสถิติผู้รับบริการตั้งแต่ปี 2562–2568 พบว่ามีผู้ใช้สิทธิบัตรทอง 1,230 ราย สิทธิข้าราชการและสิทธิองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 935 ราย และสิทธิประกันสังคม 113 ราย รวมกว่า 2,500 ราย โดยจำนวนผู้รับบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สะท้อนถึงการเข้าถึงบริการที่สะดวกและรวดเร็ว ที่เป็นจุดเด่นของการให้บริการนี้ สำหรับในส่วนกายอุปกรณ์เสริมและกายอุปกรณ์เทียม ปีงบประมาณ 2562–2568 โรงพยาบาลได้ให้บริการกายรวมทั้งสิ้น 2,942 ชิ้น ครอบคลุมอุปกรณ์หลายประเภท อาทิ อุปกรณ์ดามเข่า ข้อเท้าและฝ่าเท้าแบบเฉพาะราย ขาเทียมระดับใต้เข่าและเหนือเข่า รองเท้าและแผ่นเสริมรองเท้าทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน รวมถึงบริการซ่อมแซมขาเทียม
อย่างไรก็ตาม แม้สิทธิประโยชน์ด้านกายอุปกรณ์เสริม–เทียมในระบบบัตรทองจะครอบคลุม แต่ก็มีข้อจำกัด โดยเฉพาะการซ่อมแซมกายอุปกรณ์เมื่อชำรุดเสียหายที่เบิกจ่ายไม่ได้ ภาระค่าใช้จ่ายจึงตกอยู่กับโรงพยาบาล หรือผู้รับบริการเอง จึงอยากให้ สปสช. ขยายสิทธิด้านการซ่อมแซมกายอุปกรณ์และอุปกรณ์จำเป็นบางรายการในอนาคต
ด้าน นายศุวริศ นู นักกายอุปกรณ์ โรงพยาบาลบางกรวย กล่าวว่า จุดเด่นของที่นี่คือการดูแลแบบครบวงจร ผู้รับบริการจะได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทางโดยตรง เพื่อให้กายอุปกรณ์ที่จัดทำมีความเหมาะสมกับสภาพร่างกายและการใช้งานจริง ทั้งในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ เช่น คนพิการที่ต้องใช้ขาเทียมเพื่อกลับไปทำงานขับรถรับส่งสินค้าหรือเป็นไรเดอร์ ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเป็นบริการตามสิทธิและไม่เสียค่าใช้จ่าย และนอกจากประเด็นการซ่อมแซมแล้ว ยังมีอุปกรณ์บางรายการที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพการใช้ชีวิตของคนพิการ แต่ยังไม่รวมอยู่ในสิทธิประโยชน์ เช่น ถุงสวมตอขาแบบเจล ซึ่งปัจจุบันมีเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ทั้งที่คนพิการกลุ่มอื่นก็มีความจำเป็นเพื่อป้องกันการเกิดแผลจากการใช้งานกายอุปกรณ์ หากมีการบรรจุรายการเหล่านี้เพิ่มเติม จะช่วยให้การใช้กายอุปกรณ์เกิดประโยชน์สูงสุดและตอบโจทย์ผู้พิการมากยิ่งขึ้น
นายวันเสาร์ กล่าวว่า โรงพยาบาลบางกรวยมีการทำงานอย่างเต็มศักยภาพ บูรณาการความร่วมมือกับองค์กรในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และจากข้อมูลที่ได้รับสะท้อนให้เห็นว่า ปัจจุบันบริการกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการยังมีความต้องการอยู่มาก ทั้งยังพบปัญหาด้านการซ่อมแซม เนื่องจากกายอุปกรณ์บางประเภทต้องอาศัยความรู้และความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยในประเด็นนี้จะนำเข้ากระบวนการจัดทำข้อเสนอโดยหาหรือร่วมกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอต่อบอร์ด สปสช. เพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้แนวทางเบื้องต้นจะพิจารณาใช้กลไก “กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด” ซึ่งดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในการจัดทำโครงการร่วมกับหน่วยบริการและโรงพยาบาล เพื่อสนับสนุนการซ่อมแซมกายอุปกรณ์ให้กับคนพิการ
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ด้านกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการในระบบบัตรทอง มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนพิการ เพราะเมื่อกายอุปกรณ์ชำรุด ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของคนพิการ อาจไม่สามารถออกจากบ้านได้ อีกทั้งอุปกรณ์หลายรายการไม่สามารถซ่อมในร้านทั่วไป จำเป็นต้องมีศูนย์และช่างผู้เชี่ยวชาญรองรับอย่างเป็นระบบ เป็นเรื่องที่ต้องผลักดันต่อไป” บอร์ด สปสช. กล่าว
หลังจากนั้นทางคณะได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านคนพิการ นายดนุนัย บุญเหลือ อายุ 23 ปี อาชีพไรเดอร์ ที่หมู่บ้านบ้านเอื้ออาทรนนทบุรี (วัดกู้2) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งมีภาวะขาขาดใต้เข่าจากอุบัติเหตุและได้รับกายอุปกรณ์ขาเทียมจากโรงพยาบาลบางกรวย กล่าวว่า หลังจากประสบอุบัติเหตุและรับการรักษาแล้วนั้น ในช่วงแรกการใช้ชีวิตต้องใช้ไม้ค้ำในการพยุงตัวโดยไม่ได้ออกไปไหน อยู่แต่ในบ้าน แต่หลังจากได้รับการใส่ขาเทียมแล้วทำให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง ไม่เพียงแต่ทำให้ใช้ชีวิตได้เป็นปกติเท่านั้น แต่ยังสามารถออกนอกบ้านไปทำงานเพื่อหารายได้มาดูแลแม่และน้องๆ อีก 2 คนได้ และตอนนี้ยังเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้รู้สึกภูมิใจอีกครั้ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“สำหรับผมแล้ว ขาเทียมไม่ใช่แค่กายอุปกรณ์เท่านี้น แต่นี่เป็นชีวิตใหม่ คือโอกาสที่ทำให้ผมได้กลับมายืนหยัดด้วยตัวเอง ได้ออกไปใช้ชีวิต และกล้าที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า” นายดนุนัย กล่าว






