สุดรันทด!วอนช่วยแม่พิการ อยู่บ้านกับหมาไร้เงาคนดูแล
สุดรันทด!แม่พิการอยู่บ้านกับหมา 1 ตัว ไร้เงาลูก ๆ 3 คน แถมถูกสามีทิ้งเพราะช่วยตัวเองไม่ได้ วอนช่วยพาไปหาหมอเพื่อรักษาอาการป่วย อยากหายเป็นปกติ
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.นายประภาส สมแก้ว นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลจังหวัดชุมพร นายสุรินทร์ เหล่าพัทรเกษม สมาชิกสมาคมฯ ได้แจ้งไปยังมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถไปรับตัวนางประพิศ แสงวงศ์ อายุ 49 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 30 หมู่ 8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร แต่มาเช่าห้องพักอยู่ในซอยกรมหลวงชุมพร 3 เลขที่ 265/1 บ้านหนองผาก หมู่ 9 ต.นาทุ่ง เขตเทศบาลเมืองชุมพร เนื่องจากนางประพิศ มีอาการป่วยทางสมอง เป็นอัมพฤกษ์ร่างกายด้านซ้ายตั้งแต่หัวไหล่ จนถึงปลายเท้าไม่สามารถขยับได้ อยู่ในสภาพคนพิการ ต้องนั่งรถเข็นอยู่เพียงลำพังในบ้านมีสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลผสม สีดำ เพศผู้ อยู่เป็นเพื่อน 1 ตัว โดยนายเอกภพ สุวรรณศิลป์ อายุ 63 ปี ประธานชุมชนบ้านหนองผากจาก ได้นำคณะ และสื่อมวลชนไปห้องเช่าที่นางประพิศเช่าอาศัยอยู่ พบในห้องเช่าที่มีสภาพรกรุงรัง มีกลิ่นเหม็นจากปัสสาวะอย่างรุนแรง ส่วนนางประพิศอยู่ในสภาพสวมเพียงผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 1 ผืนและเสื้อยืด 1 ตัวเท่านั้น นั่งอยู่บนรถเข็น มีสุนัขนอนอยู่บนหมอนข้าง ที่วางอยู่ในเตียงที่เต็มไปด้วยถ้วยชามซึ่งยังไม่ได้ล้างทำความสะอาด
นางประพิศ กล่าวทั้งน้ำตาว่า สิ่งที่ต้องการมากที่สุดตอนนี้คือการไปหาหมอ เพราะตนอยากหายจากอาการที่เป็นอยู่ตนมีสามีและลูก 3 คน แต่หลังจากตนล้มป่วยสามีก็ทิ้งไป ส่วนลูกคนที่สองกับคนสุดท้องก็ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ตนจึงต้องอยู่กับลูกชายคนโต อายุ 27 ปี แค่ 2 คนกับสุนัข 1 ตัว บางวันลูกชาย กลับมาก็จะมีการตัดพ้อต่อว่าตนด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ตนก็เข้าใจว่าลูกคงเครียด จากการทำงาน และต้องกลับมาดูแลแม่ที่พิการอีก จึงไม่เคยถือโทษโกรธลูก ตนรู้สึกดีใจมากที่สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล จ.ชุมพรและมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยพาตนไปหาหมอวันนี้ และหลังจากนี้หากเป็นไปได้ก็อยากมีทุนในการสร้างบ้านหลังเล็กๆสักหลัง บนที่ดินของตนใน ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ ซึ่งตนมั่นใจว่าจะสามารถอยู่คนเดียวได้
นายประภาส กล่าวว่าได้ประสานไปยังสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากลที่กรุงเทพฯ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือนางประพิศต่อไป ส่วนในเบื้องต้นนอกจากจะพานางประพิศไปหาหมอที่ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ แล้วคงต้องประสานไปยังเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อหาทางช่วยเหลือนางประพิศด้วย