เสียงสะท้อนจากคนพิการ....ถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
เสียงสะท้อนจากคนพิการ....ถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
31 ตุลาคม 2560 ครบรอบ 1 เดือนของการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อยท่ามเสียงสะท้อนการใช้งานบัตรสวัสดิการนี้ยังมีออกมาเป็นระยะๆทั้งไม่สามารถใช้บัตรในร้านธงฟ้าประชารัฐได้ วงเงินที่รัฐให้มาไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและผู้พิการ
น.ส. ภัทธา สังขาระ หรือ ทราย หนึ่งในผู้ที่ลงทะเบียนรับบัตรสวัสดิการนี่และเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหวที่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่บนเตียง สามารถนั่งได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงและอาศัยอยู่กับที่บ้านที่ประกอบอาชีพขายถ่าน ปัจจุบันมีแม่และน้องเป็นผู้ดูแล ได้พูดคุยกับทางรายการIn Her View เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของคนพิการในการรับสิทธิและสัวสดิการจากบัตรนี้
ทรายรู้สึกอย่างไรกับโครงการบัตรสวัสดิการนี้ของทางรัฐบาล
รู้สึกว่ายุ่งยากและใช้ยากพอสมควร อย่างแรกคือมันต้องลงทะเบียนสองครั้ง คือปีที่แล้วที่ปลายปีได้เงิน พันห้าถึงสามพันน่าจะทำกันได้ ส่วนปีนี้ก็ต้องไปลงทะเบียนอีก เหมือนรัฐคงอยากรู้ว่าเราสบายดีไหม ปีที่ผ่านมาหายจนหรือยัง คงอยากถามไถ่กันเลยต้องไปลงมาสองปีติดแล้ว และตัวโครงการนี้เราคิดว่ามันใช้ยากกว่ารอบที่แล้วที่เป็นเงินสด เพราะมันเอาไปใช้อย่างที่ต้องการได้เลย อันนี้ข้อจำกัดเยอะกว่า แม้ว่ามูลค่าที่เราได้ใช้นั้นอาจจะพอๆ กันต่อปี
คิดว่าโครงการนี้มีประโยชน์อย่างไรบ้างในฐานะที่ไปลงทะเบียนรับสวัดิการ
ประโยชน์ที่ได้จากโครงการนี้ มันก็ได้บ้าง เช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคตามที่มีในวงเงินที่กำหนดมาให้ ได้ค่าก๊าซหุงต้ม 3 เดือน ค่าใช้สอยซื้อสินค้าเดือนละ 200 – 300 หรือค่าเดินทางสำหรับผู้ใช้ขนส่งมวลชน แต่สำหรับทรายไม่ได้ใช้ขนส่งมวลชนตามที่รัฐบาลกำหนด วงเงินตรงนี้ก็ไม่ได้ใช้
สำหรับคนพิการแบบทรายมองว่าบัตรนี้ไม่ตอบโจทย์หรือไม่ ?
ในมุมมองของคนพิการ มันไม่ค่อยสะดวกตั้งแต่การไปรับบัตรจนถึงการนำไปใช้ จริงอยู่ว่าเราสามารถให้คนที่ดูแลผู้พิการไปใช้แทนได้ แต่การไม่สามารถใช้เองได้ก็แปลว่าไม่สะดวก รัฐมีทางเลือกมากกว่าจะกำหนดเงินในบัตร แล้วให้ไปรูดซื้อสินค้าได้ แล้วพอเงินสะสมไม่ได้ มันก็เลยต้องไปทุกเดือนเพื่อจะใช้ซื้อของ 200-300 บาท และสิทธิอย่างเช่น การเดินทางที่มีในบัตรนั้นเราก็ไม่ได้ใช้เลยสักอย่างไม่ว่าจะเป็นบีทีเอส รถเมล์ รถไฟ แต่ถ้าเราจะเดินทางแบบธุระสำคัญจริงๆ เช่น ไปหาหมอด้วยรถพยาบาลที่เราจะสะดวกต่อร่างกายมาก คือ ต้องนอนไป และวงเงินในบัตรก็ไม่สามารถนำไปใช้จ่ายในส่วนนี้ได้
คือสิทธิในการใช้บัตรเพื่อการเดินทางมันก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเฉพาะไปโรงพยาบาลด้วย คือการไปเที่ยวหรือไปที่อื่นๆ ก็เป็นการเดินทางเช่นกัน และแม้แต่ว่าเราอยากจะนั่งแท็กซี่ที่มีบริการรับส่งให้คนพิการโดยเฉพาะเราก็ไม่สามารถนำเงินในบัตรมาจ่ายได้ แม้กระทั่งคนที่ร่างกายปกติไปไหนมาไหนเดินทางด้วยรถสองแถวครั้งละ 5 บาทก็ใช้ไม่ได้เช่นกัน
ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้ ลำบากไหม? และลำบากเรื่องอะไรมากที่สุด
ชีวิตความเป็นอยู่ในตอนนี้ก็ลำบากด้วยความที่เราพิการและทำอะไรเองไม่ได้ต้องพึ่งคนอื่นตลอดมันก็เลยลำบากทั้งตัวเองและคนอื่น ส่วนที่ลำบากเรื่องอะไรมากที่สุด ก็คงเป็นเรื่องเงิน เพราะพอเราทำงานไม่ได้เต็มที่เหมือนคนอื่นก็เลยทำให้จะมีงานแค่บางประเภทที่เราพอทำได้จากที่บ้าน คือเป็นคนพิการมันลำบากแน่นอน แต่ถ้ามีเงินหลายๆ อย่างก็จะสะดวกและสบายมากขึ้นทั้งตัวเองและคนที่ดูแล
ความฝันของทรายคืออะไร
ความฝันที่จริงก็ไม่มีอะไร แต่แค่อยากใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป ทำงาน ได้ใช้เงินกับสิ่งที่ตัวเองหามาไปกับสิ่งที่ให้ความรื่นรมย์กับชีวิต ได้ดูแลคนที่เรารักอะไรแค่นี้
ถ้าพูดถึงสวัสดิการของรัฐอยากได้อะไร?
สวัสดิการของรัฐสำหรับคนพิการที่อยากให้มีเป็นอย่างน้อยเลย คือ การสามารถใช้บริการรถพยาบาลได้ฟรีสำหรับการไปโรงพยาบาล และหากเป็นไปได้ก็อยากให้มีโครงการรถรับส่งผู้พิการแบบที่ในกรุงเทพมหานครมี คือ รถรับส่งคนพิการที่นั่งวีลแชร์ได้ ตอนนี้มีแค่เฉพาะกรุงเทพมหานครเอง รถก็ยังไม่ค่อยพอเท่าไหร่ คือ ทั้งกรุงเทพมี 30 คัน ทำให้การบริการอาจจะไม่ทั่วถึง แล้วต่างจังหวัดที่ไม่มีเลยนี่ก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่
เรื่องที่สองคืออันนี้ไม่ใช่สวัสดิการแต่เป็นหนึ่งในสิ่งที่คิดว่าระบบสาธารณสุขควรจะมี คือ การแนะนำสิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นสำหรับคนพิการ เช่น การปฏิบัติตัวสำหรับโรคและร่างกายของตัวเอง
สิทธิต่างๆ ของคนพิการที่จะได้รับหากทำบัตรคนพิการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนคนพิการ สิทธิการรักษาต่างๆ ที่แตกต่างไปจากบัตรทอง ที่มีมากขึ้นหรือมีรายละเอียดอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
หรือการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต การหางานทำ การฟื้นฟูสภาพจิตใจอะไรพวกนี้ โอเคว่าเรามีอินเตอร์เน็ตเราหาข้อมูลเองได้ แต่มันไม่ใช่ทุกคนที่พิการสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ จริงๆ เรามองว่าการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต หนังสือที่อ่านได้ มันสำคัญมากสำหรับคนพิการ เพราะคนพิการบางคนอาจไม่โชคดีอย่างเราที่มีหนังสือให้อ่านและมีอินเตอร์เน็ตให้ใช้เลยทำให้เรามีโอกาสได้เข้าถึงอะไรๆ มากกว่าเขา อยากให้เรื่องการเข้าถึงสื่อและแหล่งความรู้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนทุกคนด้วยซ้ำไม่ใช่แค่คนพิการ
สุดท้าย สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้ ทรายอยากให้รัฐปรับปรุงอย่างไร
สำหรับบัตรนี้อยากให้ปรับปรุงอย่างไร เราอยากได้เป็นเงินสดมากกว่า อันนี้พูดจริงๆ มันใช้ง่ายกว่ามาก ใช้ที่ไหนก็ได้ร้านที่อยู่ตรงข้ามบ้านก็ใช้ได้ ใช้จ่ายค่ารถพยาบาลก็ได้จะมีสภาพร่างกายแบบไหนก็ใช้ได้
คือเข้าใจว่าที่รัฐทำเป็นบัตรอาจจะต้องการเห็นว่าเงินมันไปอยู่ตรงไหนบ้าง ประชาชนเอาไปทำอะไร ได้ใช้ตามจุดประสงค์ที่เขาอยากจะให้ไหม แต่ในแง่ของคนใช้ มันไม่สะดวกแล้วก็ยังไม่ครอบคลุมกับทุกความต้องการมากนัก คือบางคนอาจจะทำงานอยู่กับบ้านก็อาจจะเอาเงินตรงนี้ไปใช้อย่างอื่นแทนค่ารถ หรือแม้แต่เราที่เป็นคนพิการ ถ้าหากต้องการเดินทางด้วยรถพยาบาลเอกชนก็ต้องจ่ายเงินเองซึ่งราคาสูงพอสมควร อย่างไปหาหมอโซนฝั่งธนนี่ก็1,800 บาทแล้ว เงินในบัตรที่ไม่สามารถสะสมได้ทำให้ไม่ได้ใช้และน่าเสียดายมาก
คนที่ไม่มีบัตรคนพิการแล้วเป็นผู้ป่วยติดเตียงก็ต้องมอบฉันทะ ส่วนนี้ยังไม่เข้าใจว่าการมอบฉันทะนี้ทำครั้งเดียวหรือว่าต้องทำทุกเดือนแล้วที่ร้านจะเก็บเอกสารไป เพราะถ้าต้องมอบฉันทะทุกเดือนเพื่อเงิน 200-300 บาทมันก็ดูแปลกๆ คือเราเข้าใจเรื่องการต้องใช้เอกสารตรงนี้ แต่ถ้าเป็นเงินสดหรือสามารถสะสมทบยอดไปเรื่อยๆ แล้วให้คนที่มีสิทธิไปบริหารจัดการเองได้จะดีกว่า
เราเข้าใจว่ารัฐก็อยากให้ แต่ในตอนนี้ก็มีเรื่องติดขัดอยู่หลายๆ ประการ เราก็ต้องช่วยกันเสนอและส่งเสียงไปให้มีการปรับปรุงหรือพิจารณากันต่อไป