ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ

ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ

“ผมโชคดีที่เกิดมาเป็นคนพิการ สิ่งนี้คือกำไรชีวิต” คำพูดที่เข้มแข็งของผู้ชายร่างเล็กที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่กำลังนั่งทักทายกับผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาพร้อมกับสนทนาอย่างเป็นกันเองกับผู้คนที่นั่งบนทางเท้าริมฟุตบาต

โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันนั่นคือรอส่งเสด็จพ่อหลวง ร.9 สู่สวรรคาลัย และขอเป็นส่วนหนึ่งในพิธีประวัติศาสตร์ที่คนไทยทุกคนไม่อยากให้มีวันนี้ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจกลับปรากฏรอยยิ้มของชายแปลกหน้าพิการร่างเล็กที่นั่งบนรถวีลแชร์คอยทำหน้าที่ให้กำลังใจกับผู้คนเหล่านั้น

แม้เขาจะมีไม่ครบ 32 ประการ แต่หัวใจเขาแกร่งเกินใครเพราะความพิการนำไปสู่โอกาสที่ดีที่ทำให้เขาพบกับกำไรชีวิตที่ไม่สามารถหาได้อีกแล้วในโลกนี้

ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ

นี่คือเรื่องราวของ คุณสุพจน์ ช่อแก้ว ชาวจังหวัดอ่างทองที่นั่งพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับทีมข่าวSanook News หลังจากลงพื้นที่รอบสนามหลวง โดยเขาเล่าว่า ตัวเองนั่งรถไฟมาจาก จ.แม่ฮ่องสอน และมาถึงสนามหลวงตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 60

โดยได้ทำงานเก็บเงินมาทั้งปีเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายกินอยู่และได้จองห้องไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งตนเองเตรียมการมาเป็นปีเพราะรู้ว่าตัวเองจะต้องมาร่วมพระราชพิธีนี้ให้ได้

จองห้องตั้งแต่ปีที่แล้ว มาก่อนใครตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ทำไมไม่เข้าไปข้างในเพื่อชมการแห่ริ้วขบวน

“ตอนแรกกะว่าจะเข้าไปข้างใน แต่เมื่อดูจากรอบน้ำเห็นพี่น้องเค้านอนริมฟุตบาท ทั้งตากแดด ตากลม ตามฝน พี่ก็เลยตัดสินใจไม่เข้าไปเนื่องจากว่าไม่อยากที่จะเข้าไปแย่งพื้นที่ของพวกเขาก็เลยตัดสินใจรอดูอยู่ข้างนอกดีกว่าเพื่อแบ่งพื้นที่เล็กๆน้อยให้พี่น้องคนอื่นเขาที่มาไกลได้เข้าไปดีกว่า

พี่จึงขอรออยู่ข้างนอกหรืออยู่ตรงไหนก็ได้ขอเพียงแค่ได้มีส่วนร่วมก็พอใจแล้ว และตั้งใจมาเพื่อที่จะเป็นกำลังใจให้พี่น้องทุกคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อพ่อหลวง ร.9 ของเราทุกคน”

ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ

ทำไมถึงอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีถวายพระเพลิง

“จริงๆ ใจก็ไม่อยากมาเพราะทำใจไม่ได้ที่จะต้องมารับรู้ความรู้สึกที่ต่อจากนี้ไปจะไม่มีพ่อหลวง ร.9 แล้ว พระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัยจากพวกเราไปแล้ว แต่สุดท้ายขอทำหน้าที่ลูกที่มาร่วมงานพระราชพิธีเพื่อขอส่งพระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

และอยากมาเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกคนที่มาร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ณ ที่ท้องสนามหลวงแห่งนี้ พระองค์ท่านคือพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงงานหนักเพื่อพวกเราชาวไทยทุกคน ทำให้พสกนิกรชาวไทยอยู่ดีกินดี

ไม่มีคำไหนสามารถเปรียบเทียบกับความดีที่พระองค์ได้สร้างขึ้น พระองค์ทรงทำความดีไว้มากมาย คนไทยทั้งชาติรักพ่อหลวง ร.9 ทุกคน สาเหตุที่คนไทยมารวมตัวกันที่นี่ก็เพื่อมาส่งพ่อหลวง ร.9 ครั้งสุดท้าย นี่คือความทรงจำสุดท้ายที่พวกเราจะได้ทำเพื่อพระองค์ท่าน”

ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ

ทำไมคุณถึงเดินทางไปกว่า 73 จังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์ให้กับพ่อหลวง ร.9 ทั้งๆ ที่คุณก็พิการต้องใช้รถวิวแชร์

จุดเริ่มต้นเกี่ยวกับในหลวง คือ ก่อนหน้านั้นสมัยที่ไปเรียนหนังสือที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรเมื่อตอนประมาณปี 2548 พระองค์ท่านประชวร พี่ก็มานอนอยู่ที่ศิริราชร่วม 10 กว่าวัน ซึ่งขณะนั้นพระองค์ท่านทรงเคยตรัสว่าจะอยู่ถึง 120 ปีเพื่อดูแลประชาชนของพระองค์

ทำให้พี่มีความรู้สึกว่าจะทำอย่างไรให้พระองค์ท่านทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ไม่เจ็บไม่ป่วย พี่จึงมีความคิดว่าอยากขอพรเพื่อพระองค์ท่าน จึงเดินทางด้วยรถวิวแชร์คันเก่าเพื่อไปขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกจังหวัด เช่น ศาลหลักเมืองและเจ้าพ่อหลักเมือง โดยมีน้องอีกคนหนึ่งที่ร่างกายปกติปั่นจักรยานตามหลัง

ซึ่งเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ขอพรจากศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2551 แล้วเดินทางต่อไปยังภาคเหนือ – อีสาน – ภาคใต้ รวมทั่วทุกประเทศทั้งหมด 73 จังหวัด เพื่อขอพรให้พระองค์ท่านทรงพระเจริญมีอายุยืนยิ่งยาวนานอยู่เป็นมิ่งขวัญให้ปวงชนชาวไทยทุกคน

สิ่งที่พี่ทำคือสิ่งเดียวที่พี่พอจะทำได้เพื่อพ่อหลวง ร.9 พี่ยอมเหนื่อยยอมออกแรงก็เพื่อพระองค์ท่านและสิ่งที่พี่ทำยังเทียบไม่ได้เลยกับที่พระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อประชาชนแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ

คุณได้แรงบันดาลใจมาจากไหน

แรงบันดาลใจในการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้มาจากการที่พี่เคยได้อ่านหนังสือเนื้อเรื่องเกี่ยวกับคนอินเดียที่พวกเขาจะไปกราบแม่น้ำคงคา เจอที่ไหนก็กราบเพราะพวกเค้ามีความเชื่อว่าเป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ จึงทำให้พี่คิดว่าสิ่งที่เราทำนี้จะสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ให้กับพระองค์ท่านได้

ทำคุณถึงคิดว่าความพิการคือกำไรของชีวิต

เมื่อประมาณปี 2531 ตอนอายุ 15 พี่ประสบอุบัติเหตุโดนไฟช๊อต เนื่องจากขณะนั้นมีพนักงานก่อสร้างกำลังรับเหมาต่อเติมบ้านอยู่เห็นเค้ากำลังยกของหนักกัน พี่จึงอาสาไปช่วยเค้ายกคอมแอร์โดยไม่รับเงินเพราะอยากจะช่วยเค้า ซึ่งสมัยนั้นสายไฟฟ้าแรงสูงยังเป็นสายเปลือยอยู่พอยกคอมแอร์เข้าไปใกล้สายฟ้าแรงสูงก็ถูกดูดเข้าไปอย่างกะทันหัน

และตอนนั้นจำได้ว่าสลบไปแล้วก็มาฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาล ด้วยวิทยาการสมัยนั้นการรักษายังไม่ทันสมัยและการตัดคือวิธีที่รักษาชีวิตที่ดีที่สุดจึงทำให้พี่รอดชีวิตมาได้ แต่ต้องถูกตัดแขนตัดขาทั้งหมดเลย แต่พี่ก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตเราและตอนนี้พี่ถือว่าพี่โชคดีที่ได้กำไรชีวิต กว่า 30 ปีแล้ว

เชื่อหรือไม่ว่าตอนดีๆ พี่เห็นในหลวง ร.9 และ พระราชินี แค่ในทีวีหรือแค่ในฝัน แต่เมื่อพี่ประสบอุบัติเหตุได้เห็นพระองค์ท่านอยู่แค่หน้าเรา ความทรงจำนั้นพี่ยังจดจำมิรู้ลืม เมื่อครั้งที่พี่อยู่โรงพยาบาลพี่จะเห็นพระองค์ท่านเสด็จไปกราบอนุสาวรีย์สมเด็จย่าอยู่เป็นประจำ

ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ

ซึ่งมีอยู่ครั้งนึงพระองค์ท่านได้เสด็จมาประทับอยู่ที่ตรงหน้าพี่ชั่วครู่แล้วมองเราด้วยสายพระเนตรที่แสดงถึงความห่วงใยประชาชน แต่ทรงไม่ได้ตรัสถามแล้วก็เสด็จไป คิดดูว่าถ้าพี่เป็นคนปกติพี่อาจจะไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ท่านเลย และถ้าพี่เป็นคนปกติพี่คงไม่มีโอกาสเดินทางไปกว่า 73 จังหวัดเพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กับพ่อหลวง ร.9 ซึ่งพี่คงพลาดโอกาสดีๆไปเยอะถ้าพี่เป็นคนปกติ

นี่คือปาฏิหาริย์รักจากพ่อหลวง ร.9

โชคดีที่เราเป็นแบบนี้ โชคดีที่เรายังไม่ตาย ที่ผ่านมาอาจจะเป็นเวรกรรมที่พี่เคยทำไว้ แต่ในเมื่อฟ้าลิขิตไว้แล้วให้พี่เป็นแบบนี้ พี่จึงยอมรับและไม่เสียใจเพราะพี่คิดว่าพี่โชคดีแล้วที่ได้เจอสิ่งใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ และที่สำคัญได้ใกล้ชิดพ่อหลวง ร.9 ซึ่งเป็นบุญมากที่สุดในชีวิต

เมื่อก่อนนี้พี่ก็เป็นเด็กบ้านนอกรับจ้างทั่วไป ทำก่อสร้างบ้าง รับจ้างบ้าง พี่คิดว่าถ้าเราเป็นคนปกติเราอาจะนอกลู่นอกทางก็เป็นได้และชีวิตก็มีแค่ทำงานและกลับบ้านไม่มีโอกาสเจอโลกภายนอกเลย

แต่ความรู้สึกตอนนั้นเปลี่ยนชีวิตเราพี่รู้สึกดีใจมากมันคือที่สุดของชีวิต คือทุกคนฝันว่าครั้งหนึ่งอยากจะได้รับเสด็จพระองค์ท่าน อยากเข้าไปอยู่ใกล้ๆพระองค์ท่าน แต่ว่ามีน้อยคนที่จะได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ท่าน หรือ บางคนขอแค่ได้มองไกลๆ ก็ยังดี

แต่บางคนแม้กระทั่งมองไกลๆก็ยังไม่มีโอกาส แต่เรากลับได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ท่าน พระองค์ทรงประทับเบื้องหน้าเรา ทรงหยุดทอดพระเนตรเราด้วยความห่วงใย แม้ว่าท่านจะไม่ได้ตรัสอะไรเท่านี้เราก็มีความสุขมากมายเกินกว่าชีวิตนี้จะหาได้แล้ว เป็นมงคลต่อชีวิตอย่างที่สุด

ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ

โชคดีที่เกิดมาพิการ ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น

พี่นำคำสอนของพ่อหลวง ร.9 มาใช้เป็นแบบอย่างให้กับชีวิตคือความพอเพียงและการให้ ถ้าคนเรารู้จักพอเพียงกับชีวิตชีวิตก็จะมีความสุข ถ้าคนเรารู้จักการให้และรู้จักแบ่งปันชีวิตก็จะมีความสุขด้วยเช่นกัน เราไม่ยึดติดเพราะว่าไม่มีอะไรเป็นของเรา

อย่างตอนที่ที่พี่ไปช่วยเค้ายกของก่อนโดนไฟช็อต พี่ไม่ได้อะไรตอบแทนเลยนะ ใจคือแค่อยากจะช่วยเค้าเท่านั้น หากมีคนถามว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไปช่วยเขาหรือไม่ พี่ก็ตอบว่าช่วยเพราะตอนที่เราไปช่วยเราไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้หวังค่าตอบแทนอะไรเลย

แม้ขนาดที่พี่โดนไฟช็อตนอนรักษาตัวเขาก็ไม่ได้ช่วยค่ารักษาเลย พี่ก็ไม่คิดอะไรเพราะเป็นสิทธิ์ของเขา พี่ช่วยเพราะอยากช่วยด้วยใจจริงๆ ชีวิตเราอย่าไปยึดติดอะไรเลยให้ได้ก็ให้ช่วยได้ก็ช่วยเท่านั้นเอง

ทุกวันนี้พวกเราโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่ดี เป็นบุญของชาวไทยทุกคนที่มีพ่อหลวง ร.9 ทรงห่วงใยและทรงทำงานหนักเพื่อพสกนิกร คนไทยที่เกิดบนแผ่นดินนี้ถือว่าโชคดีทุกคนที่เราอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงจักรีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและในอนาคต

ที่สำคัญอยากให้คนไทยรักกันทุกวันมีน้ำใจให้กันแบ่งปันเหมือนวันที่เรามาอยู่รวมกันที่ท้องสนามหลวงแห่งนี้ จงทำดีเพื่อพ่อหลวง ร.9 เพื่อทำหน้าที่เป็นลูกที่ดีของพ่อตลอดไป

ขอบคุณ... http://news.sanook.com/4066871/

ที่มา: sanook.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 31 ต.ค.60
วันที่โพสต์: 31/10/2560 เวลา 11:14:37 ดูภาพสไลด์โชว์ ปาฏิหาริย์รักพ่อหลวง ร.9 ความโชคดีที่ผมเกิดมาพิการ