แม่เลี้ยงลูกตาบอด-พิการสมอง ไม่งอมือขอ นำแนวทาง ศก.พอเพียงมาใช้
ตามติด!! แม่สู้ชีวิตเลี้ยงลูกสาวพิการทางสมอง ตาบอดสองข้างวัย 7 ขวบ หลังจากที่ "ไทยรัฐออนไลน์" เคยเสนอข่าวไปจนมีผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือ กระทั่งสามารถสร้างบ้าน และเลี้ยงลูก ด้วยความเพียรจึงนำเงินเล็กน้อยลงทุนปลูกผักขายตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ถือเป็นแบบอย่างที่ดี...
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 238/11ม.4 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย เพื่อเยี่ยมดูอาการและความเป็นอยู่ของ ด.ญ.ศิวภรณ์ แสงหิรัญ หรือ น้องบีอาร์ อายุ 7 ขวบ ซึ่งตาบอดสนิททั้งสองข้างนอกจากนี้ยังพิการทางสมอง จนแขนขาลีบไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีเพียง น.ส.ศิวรักษ์ ผู้ค้าขาย อายุ 34 ปี ผู้เป็นแม่ คอยดูแลเลี้ยงดู ส่วนผู้เป็นพ่อทอดทิ้งลูกสาวผู้อาภัพไปตั้งแต่เกิด
จากนั้นได้พบ น.ส.ศิวรักษ์ ผู้เป็นแม่กำลังอุ้มน้องบีอาร์ไว้แนบอก เล่าว่า ก่อนหน้านี้เรื่องราวของลูกสาวเคยเป็นข่าวมาครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือมาได้ก้อนหนึ่ง แต่ก็ต้องนำไปจ่ายค่าก่อสร้างบ้าน เนื่องจากยังไม่มีที่อยู่ นอกจากรายได้จากการรับจ้างเย็บผ้าของตนรวมกับเบี้ยพิการของลูกสาวเดือนละ 800 บาทแล้ว แทบจะไม่พอค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะต้องพาลูกไปพบแพทย์รับยาที่ รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก เป็นประจำ
น.ส.ศิวรักษ์ เผยอีกว่า ด้วยความไม่ท้อจึงคิดที่จะหารายได้เสริมมาจุนเจือชีวิตสองแม่ลูก จึงนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติ ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้ขาย ไม่ว่าจะเป็น ผักบุ้งจีน ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง กะเพรา โหระพา บวบ แตงกวา มะเขือ ผักชี ตะไคร้ เป็นต้น โดยจะหาซื้อเมล็ดพันธุ์ผักชนิดต่างๆ มาจากตลาด ลงเพาะเป็นต้นอ่อนปลูกบนแปลงผักข้างบ้าน หมั่นรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยชีวภาพ ปัจจุบันผักกวางตุ้งที่ปลูกไว้เริ่มทยอยตัดขายได้แล้ววันละประมาณ 5 กก. ส่งขายในราคา กก.ละ 10 บาท เท่านั้น มีรายได้เพิ่มขึ้นวันละ 50 บาท แม้ว่าจะเป็นเงินที่ไม่มากนักแต่ตนก็ภูมิใจ ที่ได้มาจากการประกอบอาชีพสุจริต ยึดแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และที่สำคัญที่สุดคือมี "น้องบีอาร์" ลูกสาวผู้พิการเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนั่นเอง.
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/553483 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
น.ส.ศิวรักษ์ ผู้ค้าขาย อายุ 34 ปี ผู้เป็นแม่ของน้องบีอาร์ อายุ 7 ขวบ ตาบอด-พิการสมอง ตามติด!! แม่สู้ชีวิตเลี้ยงลูกสาวพิการทางสมอง ตาบอดสองข้างวัย 7 ขวบ หลังจากที่ "ไทยรัฐออนไลน์" เคยเสนอข่าวไปจนมีผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือ กระทั่งสามารถสร้างบ้าน และเลี้ยงลูก ด้วยความเพียรจึงนำเงินเล็กน้อยลงทุนปลูกผักขายตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ถือเป็นแบบอย่างที่ดี... น.ส.ศิวรักษ์ ยึดอาชีพปลูกพืชผักสวนครัวขาย เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 238/11ม.4 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย เพื่อเยี่ยมดูอาการและความเป็นอยู่ของ ด.ญ.ศิวภรณ์ แสงหิรัญ หรือ น้องบีอาร์ อายุ 7 ขวบ ซึ่งตาบอดสนิททั้งสองข้างนอกจากนี้ยังพิการทางสมอง จนแขนขาลีบไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีเพียง น.ส.ศิวรักษ์ ผู้ค้าขาย อายุ 34 ปี ผู้เป็นแม่ คอยดูแลเลี้ยงดู ส่วนผู้เป็นพ่อทอดทิ้งลูกสาวผู้อาภัพไปตั้งแต่เกิด จากนั้นได้พบ น.ส.ศิวรักษ์ ผู้เป็นแม่กำลังอุ้มน้องบีอาร์ไว้แนบอก เล่าว่า ก่อนหน้านี้เรื่องราวของลูกสาวเคยเป็นข่าวมาครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือมาได้ก้อนหนึ่ง แต่ก็ต้องนำไปจ่ายค่าก่อสร้างบ้าน เนื่องจากยังไม่มีที่อยู่ นอกจากรายได้จากการรับจ้างเย็บผ้าของตนรวมกับเบี้ยพิการของลูกสาวเดือนละ 800 บาทแล้ว แทบจะไม่พอค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะต้องพาลูกไปพบแพทย์รับยาที่ รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก เป็นประจำ น.ส.ศิวรักษ์ เผยอีกว่า ด้วยความไม่ท้อจึงคิดที่จะหารายได้เสริมมาจุนเจือชีวิตสองแม่ลูก จึงนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติ ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้ขาย ไม่ว่าจะเป็น ผักบุ้งจีน ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง กะเพรา โหระพา บวบ แตงกวา มะเขือ ผักชี ตะไคร้ เป็นต้น โดยจะหาซื้อเมล็ดพันธุ์ผักชนิดต่างๆ มาจากตลาด ลงเพาะเป็นต้นอ่อนปลูกบนแปลงผักข้างบ้าน หมั่นรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยชีวภาพ ปัจจุบันผักกวางตุ้งที่ปลูกไว้เริ่มทยอยตัดขายได้แล้ววันละประมาณ 5 กก. ส่งขายในราคา กก.ละ 10 บาท เท่านั้น มีรายได้เพิ่มขึ้นวันละ 50 บาท แม้ว่าจะเป็นเงินที่ไม่มากนักแต่ตนก็ภูมิใจ ที่ได้มาจากการประกอบอาชีพสุจริต ยึดแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และที่สำคัญที่สุดคือมี "น้องบีอาร์" ลูกสาวผู้พิการเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนั่นเอง. ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/553483
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)