รับไม่ได้ พ่อแม่แห่แจ้งความ ครูตีตราลูกเป็นเด็กพิการทั้งที่ปกติ จนลูกอายไม่กล้าแข่งทักษะระดับชาติ
พะเยา - ผู้ปกครองเด็กนักเรียนจุน แห่แจ้งความร้องทุกข์ หลังครูตีตราลูกเป็นเด็กพิการถึง 22 คน ทั้งที่เป็นเด็กปกติ บอกสร้างตราบาปติดตัวเด็ก จนลูกอายไม่กล้าเข้าแข่งขันทักษะระดับชาติ บอกเจรจาให้แก้ไขหลายรอบไม่สำเร็จ จนต้องขึ้นโรงพักแจ้งความ
นางวราภรณ์ ไชยโชติ หนึ่งในผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านจุน อ.จุน จ.พะเยา เปิดเผยว่า มีผู้ปกครองเด็กโรงเรียนเดียวกันได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา เนื่องจาก
หลังจากครูโรงเรียนบ้านจุนระบุสถานะของลูกของตนกับลูกของผู้ปกครองคนอื่นๆ รวมกว่า 22 คน เป็นเด็กพิการทางด้านสติปัญญาและพิการทางด้านการเรียนรู้ ทั้งที่ลูกหลานของพวกตนไม่ได้เป็นเด็กพิการ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน ไว้เป็นเบื้องต้นแล้ว 7 ราย เพราะทำให้เกิดเป็นตราบาปแก่เด็ก
นางวราภรณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน กระทั่งครูพาลูกตนไปแข่งขันทักษะและได้รับรางวัลระดับจังหวัด ระดับภาคมาแล้ว จะนำไปแข่งขันในระดับชาติ โดยระบุว่าเป็นเด็กพิการ ตนจึงรู้เรื่อง และไม่ยอมให้ลูกแข่งขัน ขณะที่ตัวลูกสาวก็ไม่ไปเนื่องจากเกิดความอับอาย จากนั้นตนก็ได้นำลูกสาวเข้าตรวจกับแพทย์ซึ่งแพทย์ก็ระบุว่าเป็นเด็กปกติ ไม่ได้เป็นเด็กพิการ
ล่าสุดตนได้พยายามเข้าไปขอข้อมูลเพื่อค้นหาความจริงกับทางโรงเรียน กลับได้รับการปฏิเสธ แต่ทราบมาว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะโรงเรียนแห่งเดียวมีเด็กถึง 22 คนที่ถูกระบุว่าเป็นเด็กพิการ ทั้งๆ ที่เด็กเหล่านั้นเป็นเด็กปกติ และที่น่าสังเกต คือ ถ้าเด็กๆ เหล่านี้เป็นเด็กพิการก็ต้องมีทั้งเรื่องของอุปกรณ์การเรียนเสริม ตลอดจนมีครูมาสอนพิเศษ แต่กลับพบว่าไม่เคยมีเลย จนล่าสุดหลังจากที่เกิดเรื่องราวขึ้นถึงได้มีการนำครูมาสอนพิเศษเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้เอง
นางวราภรณ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาผู้ปกครองเคยเจรจากับทางโรงเรียนหลายรอบก็บอกว่าจะมีการแก้ไขให้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการแก้ไข ตนกับเพื่อนผู้ปกครองอีกหลายคนจึงเข้าร้องขอความเป็นธรรม และร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ช่วยเหลือกรณีดังกล่าว เพราะเป็นการสร้างตราบาปให้แก่เด็กที่ถูกระบุว่าเป็นเด็กพิการ แต่ความจริงแล้วเป็นเด็กปกติแทบทั้งหมด จึงอยากให้มีการตรวจสอบและแก้ไขให้ด้วย
“ที่ผ่านมาเคยเข้าเจรจากันกับทางโรงเรียนหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจะเป็นผลกระทบทำให้เด็กที่จะสอบโอเน็ตในเร็ววันนี้ อาจจะเสียสิทธิ์แข่งขันกับบุคคลทั่วไปด้วย”
ขณะที่นายทินกร อินทะนาม ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมเขต 2 จังหวัดพะเยา ระบุว่า ระบบการตรวจเช็กเด็กพิการจะมีการตรวจเช็กกันตั้งแต่เริ่มชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งความพิการนั้นจะมีหลายประเภทด้วยกัน หากทางโรงเรียนตรวจพบก็จะนำเข้าสู่ระบบเด็กพิการ แต่ถ้าต่อมาเด็กเข้าสู่ภาวะปกติก็จะมีการแก้ไขระบบข้อมูลให้ โดยที่ผ่านมาจะมีการตรวจเช็กทุกๆ ปี หากเด็กคนไหนเข้าสู่ปกติก็จะลบข้อมูลให้
สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นเด็กนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งทางโรงเรียนและสำนักงานเขตฯ จะแก้ไขข้อมูลให้เป็นเด็กปกติ ซึ่งจะไม่กระทบกับเด็กในการสอบเข้าแข่งขัน ขณะเดียวกัน ทางเขตฯ ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนด้วยว่าเหตุใดโรงเรียนแห่งนี้ถึงมีเด็กพิการจำนวนมากกว่า 22 คน