5 ขวบ ใจไม่ท้อแม้แขนด้วน ซ้ำร้ายมี 2 เพศ พบมดลูก
ชีวิตต้องสู้ด้วยหัวใจที่แกร่ง “น้องโตโน่” หนูน้อยวัย 5 ขวบพิการซ้ำซ้อน แถมมี 2 เพศ แต่ใจไม่ท้อชอบเรียนหนังสือ แถมเป็นเด็กฉลาดชอบช่วยเหลือตนเอง
ความลำบากไม่ได้ทำให้ “หัวใจ” และ “ร่างกาย” ของคนที่สู้ชีวิตท้อแท้ แม้จะมีแว็บเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับหยุดความพยายามได้ แต่หลายคนที่ร่างกายครบ 32 กลับรู้สึกท้อแท้มากจนก่อเป็นกำแพงชีวิต ซึ่งบางครั้งการเลือกเกิดไม่ได้ มันก็ต้องสู้ต่อไป แม้ว่าจะเกิดมาพิการ ก็พิการเพียงแขนและขาเท่านั้น แต่จิตใจต้องไม่พิการตามไปด้วย
วันนี้อยากให้คนที่กำลังท้อแท้ลองสัมผัส และให้กำลังใจหนูน้อยวัย 5 ขวบ “น้องโตโน่” ที่พิการซ้ำซ้อน เพราะหากได้ลองอ่านจนจบ คุณอาจสัมผัสกับแรงบันดาลใจขึ้นมาเลยก็ได้
ที่โรงเรียนนิคมบางระกำ8 (หนองปลวก) หมู่ 14 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก “น้องโตโน่” เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 2 กำลังนั่งเรียนอยู่ในห้อง แม้สภาพที่เรามองเห็น จะพิการไร้แขนและขาผิดปกติ แต่การใช้ชีวิตกลับไม่ได้ผิดแปลกไปจากเด็กคนอื่นๆ เขาพยายามใช้เท้าเล็กๆ จับดินสอเขียนหนังสือ เพราะเท้าอีกข้างมีนิ้วไม่ครบสมบูรณ์ ร่างกายท่อนบนแขนสั้นและยาวแค่ข้อศอก จึงไร้มือที่จะหยิบจับเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
เมื่อสอบถามจาก “นางปัณณพร เดชขจร” ครูประจำชั้น ทำให้รู้ว่าเด็กคนนี้แม้ตัวเขาจะเล็ก แต่หัวใจใหญ่จริงๆ “น้องโตโน่” พิการตั้งแต่เกิด แต่มีความตั้งใจเรียนหนังสือมาก “เขาเป็นเด็กค่อนข้างฉลาด และชอบช่วยเหลือตนเอง” ไม่ว่าจะดื่มน้ำหรือทานข้าว ช่างพูดช่างถามคุณครู มีเท้าทั้ง 2 ข้างพอสามารถยืนหรือเดินได้บ้าง จะมีปัญหาเพียงตอนเข้าห้องน้ำ ครูและพี่ชายที่อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้นป.2 จะคอยช่วยน้องชายเสมอๆ
เด็กที่มีนิสัยไม่ค่อยชอบให้ใครช่วยเหลือ เพราะว่า...เขาจะลองพยายามทำด้วยตัวเองก่อนทุกครั้ง เพราะหัวใจของเขาเข้าใจว่า “เขาคือคนปกติ”
“น.ส.อริสา ไชยทอง” อายุ 26 ปี แม่ของน้องโตโน่ เล่าให้ฟังว่า สามีและตนมีลูกชาย 2 คน คนโตนั้นเกิดมาสภาพร่างกายปกติสมบูรณ์ ส่วน “น้องโตโน่” เกิดมาพิการตั้งแต่เกิด ทุกวันนี้อาศัยอยู่ในบ้านเช่า พ่อของเด็กมีอาชีพรับจ้างขับรถแบคโฮ ส่วนตนไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง เพราะต้องคอยดูแลลูกชายทั้ง 2 คน
โดยก่อนหน้านี้แม่ของน้องโตโน่ พาลูกตระเวนไปสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนหลายแห่ง แต่ท้ายสุดแล้วก็ไม่มีโรงเรียนไหนรับเข้าเรียนเลย ความเป็นแม่ที่หัวอกห่วงลูกสุดกำลัง กลัวว่าลูกจะกลายเป็นปมด้อย ก็ต้องพยายามให้ถึงที่สุด กระทั่งย้ายมาอยู่ที่บ้านหนองปลวก
ในเวลานั้นเธอพา “น้องโตโน่” มานั่งทานก๋วยเตี๋ยวที่หน้าโรงเรียน ทำให้ผอ.โรงเรียนนิคมบางระกำ 8 พบเห็นและคิดสงสาร จึงพูดกับ น.ส.อริสา ว่า “น้องโตแล้วนะ ควรเรียนหนังสือได้แล้ว” จึงให้ความอนุเคาระห์น้องโตโน่ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้จนถึงปัจจุบัน
ทุกวันนี้วิบากกรรมทางร่างกายยังไม่จบสิ้น ความไร้เดียงสาของ “น้องโตโน่” ยังคงสัมผัสไม่ได้ว่า ร่างกายที่เป็นอยู่นี้ จะต้องเจอะเจออะไรอีกบ้าง?? เพราะนอกจากจะพิการแขนและขาแล้ว แพทย์ยังพบว่า “เด็กคนนี้มี 2 เพศ มีทั้งอวัยวะเพศชายอัณฑะข้างเดียว และมีอวัยวะของผู้หญิง มดลูก” โดยที่เด็กยังคงไม่รู้ว่าหรอกว่า...ตัวเองมีรังไข่หรือมดลูกอยู่ในร่างกาย
แพทย์แนะนำให้ผ่าตัดออก เพราะหากโตขึ้นจะมีประจำเดือนเหมือนเพศหญิงทั่วไป แต่ก็ติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้ใจบุญอยากจะช่วยเหลือ “น้องโตโน่” สามารถสอบถามรายละเอียดที่เบอร์ของแม่น้องโตโน่ 09-3168-7078 เพราะน้องยังมีอาการหอบบ่อยครั้ง ต้องไปรับยาทุกๆ 2 เดือน
แต่ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ หยอกล้อเล่นกับพี่ชายที่บ้าน และเพื่อนๆในโรงเรียน ทำให้วันนี้ “น้องโตโน่” มีความสุขดี ซึ่งเมื่อโตขึ้นคนเป็นพ่อแม่ก็พร้อมที่จะให้กำลังใจและอยู่เคียงข้าง และเตรียมคำพูดไว้บอกกับลูกชายอย่างดีที่สุด ถึงแม้ว่าขณะนี้ “น้องโตโน่” จะมีเพื่อนมากมายที่โรงเรียน ทำให้เขารู้สึกอบอุ่น โรงเรียนจึงเป็นที่ที่เขาชอบมากที่สุด กระทั่ง...วันหนึ่งเมื่อถึงเวลา...เขาต้องก้าวผ่านความจริงไปให้ได้.
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ก.พ.61
วันที่โพสต์: 5/02/2561 เวลา 11:06:57 
