เวทนา เด็กพิการ 3 ขวบ ถูกปล่อยอยู่บ้านลำพัง พ่อน้ำตาซึม ต้องทำมาหากิน จำเป็นต้องทิ้งลูกไว้
เวทนา เด็กพิการ 3 ขวบ ถูกปล่อยอยู่บ้านลำพัง พ่อน้ำตาซึม ต้องทำมาหากิน จำเป็นต้องทิ้งลูกไว้ วอนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ นำน้องไปอยู่ในที่ที่ดีกว่า
วันที่ 19 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีเด็กเล็กเพศชายไม่สวมเสื้อผ้าถูกกักขังอยู่หลังห้องเช่า หมู่ที่ 5 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี เดินทางตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าของห้องเช่า เพื่อร่วมตรวจสอบ
พบ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พ่อ และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 40 ปี แม่เลี้ยง และ น้องม่อน (นามสมมติ) อายุ 4 ปี พิการทางสมองมาตั้งแต่เกิด แต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เดินได้ กินอาหารได้เอง แต่ชอบถอดเสื้อผ้า และโวยวายเมื่อไม่มีใครอยู่ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบแล้วไม่ได้เป็นการกักขัง ทารุณกรรม จึงเดินทางกลับ
จนเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเช่าหลังจากได้คลิปภาพจากพลเมืองดีที่บันทึกภาพน้องม่อน ที่หลังห้องเช่า ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ไม่สวมเสื้อผ้า เดินวนเวียนไปมาจนค่ำ ซึ่งคาดว่าน่าจะมียุงกัด จึงเอาน้ำ ขนมให้น้องกิน จนฝนตกหนักเกรงว่าน้องอยู่เพียงลำพังจะเกิดอันตราย เป็นกังวลอยู่นานจึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว
สอบถาม น.ส.บี แม่เลี้ยงที่ดูแลน้อง และ น้องม่อน เดินคอเอียง ผอม นอนอยู่หลังห้อง สามารถรับรู้เสียงเรียกของทุกคน แต่พูดไม่ได้ สภาพภายในห้องสะอาดเรียบร้อย โดย น.ส.บี กล่าวว่า น้องม่อนเป็นลูกติดมาจากสามี ซึ่งพบครั้งแรกก็พิการเช่นนี้ ตนไม่ได้รังเกียจดูแลน้องมากว่า 3 ปีแล้ว ตามสภาพ
เพราะตนและสามีต้องทำมาหากิน ความเป็นห่วงมีอยู่แล้ว บางครั้งต้องปล่อยให้น้องอยู่คนเดียว แต่ไม่บ่อยนัก เคยพาน้องไปฝากเรียนหลายที่ แต่ไม่มีที่ใดรับเนื่องจากติดเงื่อนไข เป็นเพียงผู้พิการประเภท 2 ซึ่งตนเองและสามีไม่ได้นิ่งนอนใจ หาหนทางเพื่อให้น้องได้อยู่ในสภาพที่ดีกว่าเหมือนกัน
ด้าน พ่อน้องม่อน ซึ่งรับจ้างจัดร้านทั่วไปที่ตลาดโต้รุ่ง กล่าวว่า ตนเลิกรากับอดีตภรรยา มีน้องซึ่งพิการตั้งแต่เกิด เนื่องจากขณะตั้งท้องอดีตภรรยากินยาลดความอ้วนติดต่อกันจนคลอดน้อง แพทย์ระบุน้องพิการด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และพิการตลอดไป
ตนรักลูกจะไม่ทิ้งลูก ขอลูกนำมาเลี้ยงเองแม้จะอยู่ตัวคนเดียว จนมาพบกับแฟนใหม่ ซึ่งอายุต่างกันกว่า 15 ปี และได้ดูแลน้องมาด้วยกันตลอด หากไม่มีฝนตกก็จะนำน้องโดมมาเลี้ยงที่โต้รุ่ง หากฝนตกก็จะให้น้องอยู่ในห้อง และสลับสับเปลี่ยนกันไปดู ซึ่งจะเสร็จงานก็ค่อนเช้า
พ่อน้องม่อน กล่าวต่อว่า ขอบคุณเพื่อนบ้านที่มีเจตนาดี ที่เป็นห่วงน้อง ต่อไปจะไม่ทิ้งน้องไว้คนเดียวอีก หากมาทำงานกันทั้งสองคนก็จะนำไปฝากญาติ หรือให้ญาติมาดูแลน้องที่ห้อง ตอนนี้หวังเพียงให้ลูกได้อยู่ดีมีสุขเหมือนเด็กอื่นๆ
แต่เนื่องด้วยความจำเป็นที่ต้องทำหากิน บ้านต้องเช่า รถต้องผ่อน อยากวิงวอนถึงเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กโปรดพิจารณาน้องไว้ด้วยสักคน ตนพร้อมทำหน้าที่ของพ่อ จะไปดู จะส่งเสีย หากลูกได้อยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่านี้
ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_777777842601