รักของแม่ หญิงชราอุ้มลูกขอทานร้องขอสิทธิผู้พิการ
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบแม่เฒ่าสู้ชีวิต ฐานะยากจน ต้องหาเลี้ยงชีพตนเอง และลูกสาวที่พิการ ขาเป็นโปลิโอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ในเขตอำเภอเมืองตรัง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ใกล้หอนาฬิกา ถนนพระรามหก ต.ทับเที่ยง อ.เมืองจ.ตรัง พบ นางวิภา หนูเงิน อายุ 67 ปี กำลังอุ้มกระเตง ลูกสาว คือน.ส.นก หนูเงิน อายุ 42 ปี ซึ่งขาทั้งสองข้างพิการ เดินขอทานจากชาวบ้านและประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา โดยนางวิภา กล่าวว่า ลูกสาว มีอาการผิดปกติตั้งแต่กำเนิดแต่ก็ไม่ได้พาไปพบแพทย์เพื่อรักษา เพราะตนไม่ทราบว่าเป็นอะไร ประกอบกับฐานะยากจน กระทั่งโตขึ้นจึงรู้ว่า ป่วยเป็นโรคโปลิโอ เดินไม่ได้โดยตนเคยขายของเล่นเด็กแต่ขาดทุน จึงต้องรับจ้างทำงานแต่ลำบากที่ต้องกระเตงลูกไปด้วยทุกที่
นางวิภา เล่าต่อไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า สุดท้าย ตนจึงต้องอุ้มลูกสาวออกเร่ ขอทานเพื่อหาเงินประทังชีวิต โดยทุกวันตนจะต้องอุ้มลูกสาว ออกจากบ้าน ในเขตเทศบาลนครตรังแต่เช้า บ่ายจึงเข้าบ้าน ซึ่งปกติจะมานั่งที่หน้าสมาคมของชาวจีนและที่หน้าธนาคาร ถนนพระรามหกตำบลทับเที่ยง เนื่องจากเป็นจุดที่ใกล้ตลาดสดเทศบาลนครตรัง ผู้คนพลุกพล่าน ทำให้ได้เงินจากผู้คนที่เดินผ่านเส้นทางนี้ แต่บางวันก็ได้เงินบางวันก็ไม่ได้เงิน นอกจากนี้ตนยังต้องจับลูกสาวตัดผมสั้นและแต่งตัวแบบผู้ชาย เพื่ออำพรางสายตาคนทั่วไป เนื่องจากเกรงจะมีภัยอันตรายเกิดขึ้น แม้ลูกสาวจะอยู่ในสภาพพิการเดินไม่ได้ แต่ก็รักและไม่เคยคิดทอดทิ้ง แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะขอเป็นของขวัญวันแม่คือ สิทธิคนพิการเพื่อให้ได้รับเบี้ยยังชีพ และสวัสดิการอื่นๆ ก่อนหน้านี้เคยไปติดต่อเรื่องสิทธิคนพิการให้ลูกสาวแต่ก็ไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากไม่ได้ไปแจ้งเกิดและลูกสาวไม่มีบัตรประชาชนจึงไม่ได้สิทธิดังกล่าว
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/340844 (ขนาดไฟล์: 167)
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย11ส.ค.58
วันที่โพสต์: 13/08/2558 เวลา 11:42:31 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พบแม่เฒ่าสู้ชีวิต ฐานะยากจน ต้องหาเลี้ยงชีพตนเอง และลูกสาวที่พิการ ขาเป็นโปลิโอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ในเขตอำเภอเมืองตรัง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ใกล้หอนาฬิกา ถนนพระรามหก ต.ทับเที่ยง อ.เมืองจ.ตรัง พบ นางวิภา หนูเงิน อายุ 67 ปี กำลังอุ้มกระเตง ลูกสาว คือน.ส.นก หนูเงิน อายุ 42 ปี ซึ่งขาทั้งสองข้างพิการ เดินขอทานจากชาวบ้านและประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา โดยนางวิภา กล่าวว่า ลูกสาว มีอาการผิดปกติตั้งแต่กำเนิดแต่ก็ไม่ได้พาไปพบแพทย์เพื่อรักษา เพราะตนไม่ทราบว่าเป็นอะไร ประกอบกับฐานะยากจน กระทั่งโตขึ้นจึงรู้ว่า ป่วยเป็นโรคโปลิโอ เดินไม่ได้โดยตนเคยขายของเล่นเด็กแต่ขาดทุน จึงต้องรับจ้างทำงานแต่ลำบากที่ต้องกระเตงลูกไปด้วยทุกที่ หญิงชราอุ้มลูกขอทานร้องขอสิทธิผู้พิการ นางวิภา เล่าต่อไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า สุดท้าย ตนจึงต้องอุ้มลูกสาวออกเร่ ขอทานเพื่อหาเงินประทังชีวิต โดยทุกวันตนจะต้องอุ้มลูกสาว ออกจากบ้าน ในเขตเทศบาลนครตรังแต่เช้า บ่ายจึงเข้าบ้าน ซึ่งปกติจะมานั่งที่หน้าสมาคมของชาวจีนและที่หน้าธนาคาร ถนนพระรามหกตำบลทับเที่ยง เนื่องจากเป็นจุดที่ใกล้ตลาดสดเทศบาลนครตรัง ผู้คนพลุกพล่าน ทำให้ได้เงินจากผู้คนที่เดินผ่านเส้นทางนี้ แต่บางวันก็ได้เงินบางวันก็ไม่ได้เงิน นอกจากนี้ตนยังต้องจับลูกสาวตัดผมสั้นและแต่งตัวแบบผู้ชาย เพื่ออำพรางสายตาคนทั่วไป เนื่องจากเกรงจะมีภัยอันตรายเกิดขึ้น แม้ลูกสาวจะอยู่ในสภาพพิการเดินไม่ได้ แต่ก็รักและไม่เคยคิดทอดทิ้ง แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะขอเป็นของขวัญวันแม่คือ สิทธิคนพิการเพื่อให้ได้รับเบี้ยยังชีพ และสวัสดิการอื่นๆ ก่อนหน้านี้เคยไปติดต่อเรื่องสิทธิคนพิการให้ลูกสาวแต่ก็ไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากไม่ได้ไปแจ้งเกิดและลูกสาวไม่มีบัตรประชาชนจึงไม่ได้สิทธิดังกล่าว ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/340844
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
