ด.ช.6ขวบ พิการคลานเข่าแผลเหวอะ พ่อแม่ตายเพราะอุบัติเหตุ

แสดงความคิดเห็น

น้องเต้ วัย 6 ขวบ พิการขาจากอุบัติเหตุรถคว่ำ

สุดสะเทือนใจ! เด็กชายวัย6ขวบ คลานจนเข่าเป็นแผลเหวอะ หลังพิการรอดจากอุบัติเหตุรถตกคลอง ที่มีพ่อแม่และญาติยกคันรถ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนว่าที่บ้านหลังหนึ่ง ม.3 ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง มีเด็กชายพิการวัย 6 ขวบไม่สามารถเดินได้เหมือนคนทั่วไป หลังจากเมื่อปี 2554 ตา ยาย พร้อมแม่ และญาตินั่งรถกระบะไปทำธุระที่จังหวัดชัยนาท แล้วเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในคลอง เสียชีวิตยกคัน เหลือเพียงเด็กชายพิพรรธ หรือน้องเต้ จันทร์เศรษฐี รอดเพียงคนเดียว แต่ทำให้น้องเต้ ต้องพิการช่วงล่าง ไม่สามารถเดินได้ ต้องนุ่งกางเกงผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลา หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอ่างทอง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมจังหวัดอ่างทอง และเจ้าหน้าที่จากทศบาลตำบลรำมะสัก

เมื่อไปถึงก็พบเด็กชายพิพรรธ หรือน้องเต้ อยู่กับนายวิชัย จันทร์เศรษฐี อายุ 62 ปี และนางเบ็ญจา จันทร์เศรษฐี อายุ 60 ปี ปู่และย่า พอเห็นเจ้าหน้าที่ก็ดีใจที่จะมีคนมาช่วยเหลือ ด้านนายวิชัย กล่าวว่า เมื่อปี 2554 ตา ยายพร้อมแม่ และญาติ ได้นั่งรถกระบะไปทำธุระที่จังหวัดชัยนาท แล้วเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตกคลองเสียชีวิตยกคัน เหลือเพียงเด็กชายพิพรรธ หรือน้องเต้ ตอนนั้นอายุได้ 1 ขวบ หลังจากเกิดอุบัติเหตุก็เดินไม่ได้ ตอนแรกไปอาศัยอยู่กับญาติทาง จ.สุพรรณบุรี ต่อมาตนได้ไปรับมาอยู่ด้วย ตอนนี้น้องเต้ ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะไม่อยากให้ไปลำบาก ทุกวันนี้อาศัยเงินจากที่ตนเก็บใบขี้เหล็กแถวบ้านมาต้มขายได้วันละ 20 กิโลกรัม ก็นำไปขายในราคากิโลกรัมละ 10 บาท แต่ไม่ได้เก็บทุกวัน เพราะใบขี้เหล็กออกไม่ทัน จะเก็บได้ก็ประมาณ 3 วันต่อครั้ง ทำให้ไม่มีเงินมาซื้อกางเกงผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่น้องเต้ ใช้นุ่งเดือนละ 1,000 บาท โดยต้องใส่อย่างน้อยวันละ 3 ตัว แม้จะได้รับเงินช่วยเหลือคนพิการเดือนละ 800 บาทแล้วก็ตาม น้องเต้ ไปไนมาไหนจะคลานไปจนหัวเข่าด้านซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย เวลาน้องเต้ คลานไปไหนก็ไม่เจ็บเข่า เนื่องจากขาที่เป็นแผลไม่มีความรู้สึกตั้งแต่ตอนเกิดอุบัติเหตุใหม่ๆ ตอนนี้ตนอยู่กับหลานและย่าของหลานเท่านั้น อยากให้หลานหายจากเป็นแผล และมีคนมาช่วยรักษาหลานเผื่อจะเดินได้บ้าง

นางประพรวน เงินแก้ว อายุ 40 ปี ป้าของเด็ก กล่าวว่า สงสารน้องเต้ อยากให้ช่วยเหลือตัวเองได้ ตอนนี้จะไปไหนต้องคลานไป ทำให้หัวเข่าถลอกเป็นแผล ก็ต้องให้นั่งรถเข็นเด็กเล็ก ส่วนนายวิชัย และนางเบ็ญจา ปู่ย่าก็แก่แล้ว ส่วนพ่อเด็กก็ไปอยู่ที่อื่น นานๆ จะมาส่งเสียบ้าง ต้องอาศัยเงินจากการเก็บใบขี้เหล็กขาย และเงินคนพิการเท่านั้น

ด้านเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากเข้าไปดูแลก็จะประสานไปยังโรงพยาบาล เพื่อเช็คอาการขาที่เดินไม่ได้ และเร่งรักษาแผลที่เข่าก่อน เพราะเกรงว่าจะติดเชื้อ ส่วนเรื่องความเป็นอยู่นั้นก็จะดูแลไปพร้อมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพบ้านน้องเต้ เป็นบ้านโล่ง ภายในบ้านไม่มีอุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกใดๆ ส่วนอาหารการกินก็กินแบบอัตคัด บางครั้งก็อดมื้อกินมื้อ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนใจบุญที่อยากจะช่วยเหลือ

ขอบคุณ... http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/671920 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ต.ค.58
วันที่โพสต์: 29/10/2558 เวลา 10:27:52 ดูภาพสไลด์โชว์ ด.ช.6ขวบ พิการคลานเข่าแผลเหวอะ พ่อแม่ตายเพราะอุบัติเหตุ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

น้องเต้ วัย 6 ขวบ พิการขาจากอุบัติเหตุรถคว่ำ สุดสะเทือนใจ! เด็กชายวัย6ขวบ คลานจนเข่าเป็นแผลเหวอะ หลังพิการรอดจากอุบัติเหตุรถตกคลอง ที่มีพ่อแม่และญาติยกคันรถ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนว่าที่บ้านหลังหนึ่ง ม.3 ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง มีเด็กชายพิการวัย 6 ขวบไม่สามารถเดินได้เหมือนคนทั่วไป หลังจากเมื่อปี 2554 ตา ยาย พร้อมแม่ และญาตินั่งรถกระบะไปทำธุระที่จังหวัดชัยนาท แล้วเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในคลอง เสียชีวิตยกคัน เหลือเพียงเด็กชายพิพรรธ หรือน้องเต้ จันทร์เศรษฐี รอดเพียงคนเดียว แต่ทำให้น้องเต้ ต้องพิการช่วงล่าง ไม่สามารถเดินได้ ต้องนุ่งกางเกงผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลา หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอ่างทอง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมจังหวัดอ่างทอง และเจ้าหน้าที่จากทศบาลตำบลรำมะสัก เมื่อไปถึงก็พบเด็กชายพิพรรธ หรือน้องเต้ อยู่กับนายวิชัย จันทร์เศรษฐี อายุ 62 ปี และนางเบ็ญจา จันทร์เศรษฐี อายุ 60 ปี ปู่และย่า พอเห็นเจ้าหน้าที่ก็ดีใจที่จะมีคนมาช่วยเหลือ ด้านนายวิชัย กล่าวว่า เมื่อปี 2554 ตา ยายพร้อมแม่ และญาติ ได้นั่งรถกระบะไปทำธุระที่จังหวัดชัยนาท แล้วเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตกคลองเสียชีวิตยกคัน เหลือเพียงเด็กชายพิพรรธ หรือน้องเต้ ตอนนั้นอายุได้ 1 ขวบ หลังจากเกิดอุบัติเหตุก็เดินไม่ได้ ตอนแรกไปอาศัยอยู่กับญาติทาง จ.สุพรรณบุรี ต่อมาตนได้ไปรับมาอยู่ด้วย ตอนนี้น้องเต้ ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะไม่อยากให้ไปลำบาก ทุกวันนี้อาศัยเงินจากที่ตนเก็บใบขี้เหล็กแถวบ้านมาต้มขายได้วันละ 20 กิโลกรัม ก็นำไปขายในราคากิโลกรัมละ 10 บาท แต่ไม่ได้เก็บทุกวัน เพราะใบขี้เหล็กออกไม่ทัน จะเก็บได้ก็ประมาณ 3 วันต่อครั้ง ทำให้ไม่มีเงินมาซื้อกางเกงผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่น้องเต้ ใช้นุ่งเดือนละ 1,000 บาท โดยต้องใส่อย่างน้อยวันละ 3 ตัว แม้จะได้รับเงินช่วยเหลือคนพิการเดือนละ 800 บาทแล้วก็ตาม น้องเต้ ไปไนมาไหนจะคลานไปจนหัวเข่าด้านซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย เวลาน้องเต้ คลานไปไหนก็ไม่เจ็บเข่า เนื่องจากขาที่เป็นแผลไม่มีความรู้สึกตั้งแต่ตอนเกิดอุบัติเหตุใหม่ๆ ตอนนี้ตนอยู่กับหลานและย่าของหลานเท่านั้น อยากให้หลานหายจากเป็นแผล และมีคนมาช่วยรักษาหลานเผื่อจะเดินได้บ้าง นางประพรวน เงินแก้ว อายุ 40 ปี ป้าของเด็ก กล่าวว่า สงสารน้องเต้ อยากให้ช่วยเหลือตัวเองได้ ตอนนี้จะไปไหนต้องคลานไป ทำให้หัวเข่าถลอกเป็นแผล ก็ต้องให้นั่งรถเข็นเด็กเล็ก ส่วนนายวิชัย และนางเบ็ญจา ปู่ย่าก็แก่แล้ว ส่วนพ่อเด็กก็ไปอยู่ที่อื่น นานๆ จะมาส่งเสียบ้าง ต้องอาศัยเงินจากการเก็บใบขี้เหล็กขาย และเงินคนพิการเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากเข้าไปดูแลก็จะประสานไปยังโรงพยาบาล เพื่อเช็คอาการขาที่เดินไม่ได้ และเร่งรักษาแผลที่เข่าก่อน เพราะเกรงว่าจะติดเชื้อ ส่วนเรื่องความเป็นอยู่นั้นก็จะดูแลไปพร้อมกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพบ้านน้องเต้ เป็นบ้านโล่ง ภายในบ้านไม่มีอุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกใดๆ ส่วนอาหารการกินก็กินแบบอัตคัด บางครั้งก็อดมื้อกินมื้อ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนใจบุญที่อยากจะช่วยเหลือ ขอบคุณ... http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/671920

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...