พระเมตตา’ ตราตรึง ‘เด็กพิการยากไร้’ ชีวิตใหม่..‘บัณฑิตจิ๋ว’

พระเมตตา’ ตราตรึง ‘เด็กพิการยากไร้’ ชีวิตใหม่..‘บัณฑิตจิ๋ว’

หยาดน้ำตาไทยชโลมหลั่งทุกพื้นที่ทั่วทั้งแผ่นดินไทย หลังมีประกาศสำนักพระราชวัง “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต” ยังมาซึ่งความโศกาอาลัยยิ่งของพสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่าที่ต่างสำนึกใน “พระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น” แห่งพระองค์...

ทั้งนี้ “สมเด็จพระพันปีหลวง”พระผู้ทรงเป็น“สมเด็จแม่แห่งปวงไทย”พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงไทยทุกหมู่เหล่ามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน…พระเมตตา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ล้นพ้นหาที่สุดมิได้

พลิกชีวิตพสกนิกรที่เผชิญทุกข์ยาก

ประดุจท้องฟ้าที่สุดสดใสหลังพายุฝน

ด้วยพระเมตตาล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยพระราชกรณียกิจนานัปการที่ทรงบำเพ็ญมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า พลันที่เหล่าพสกนิกรไทยทราบข่าวการ “เสด็จสู่สวรรคาลัย” ของ “สมเด็จแม่แห่งปวงไทย” ความโศกาอาลัยจึงท่วมท้นมาสู่หัวใจพสกนิกรไทย ทั้งนี้ พสกนิกรไทยมากมายเหลือคณานับเคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน ส่งผลให้สามารถก้าวผ่านความทุกข์เข็ญ และได้มี “ชีวิตใหม่ที่ดี”อย่างเช่น “น้องหมิว บัณฑิตจิ๋ว” ที่ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวสุดแสนกินใจคนไทยทั้งประเทศ เกี่ยวกับ “พระเมตตา” ที่ครอบครัวของเธอและเธอได้รับ

หนึ่งในเรื่องราวแห่งพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น…มีการถ่ายทอดไว้โดย น.ส.วราภรณ์ สร้อยเสน หรือที่หลายคนรู้จักเธอดีในชื่อ “น้องหมิว บัณฑิตจิ๋ว” ซึ่งที่มาชื่อเรียกชื่อนี้มาจากร่างกายของเธอที่มีส่วนสูงเพียงแค่ 92 เซนติเมตร โดยน้องหมิวได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวแห่งพระเมตตาที่เธอและครอบครัวได้รับจากพระองค์ท่านไว้ในเฟซบุ๊กของเธอเอง ที่ใช้ชื่อว่า Vitamilk Waraporn Soisean ซึ่งได้บอกเล่าเรื่องราวความประทับใจไว้ เกี่ยวกับ “จดหมายฉบับเล็ก ๆ” ที่เธอได้เขียนถึง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ในตอนนั้นหลายคนต่างก็บอกเธอว่า…เป็นความเพ้อฝัน

หากแต่…เรื่องราวที่หลายคนไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น โดยไม่นานหลังจากนั้นน้องหมิวได้รับ จดหมายตอบกลับจากสำนักพระราชวังจากสำนักราชเลขาธิการในพระองค์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ”สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งในโพสต์ที่เธอบอกเล่าไว้ได้ระบุถึงจดหมายที่ส่งตอบกลับมาว่า “เป็นจดหมายที่เปลี่ยนชีวิตเธอ”โดยข้อความในจดหมายที่ส่งตอบกลับมานั้น น้องหมิวได้เขียนบอกเล่าไว้ในโพสต์ว่า… “พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ระบุได้เลยว่า…อยากเรียนที่ไหน เรียนอะไร เรียนกี่ปี โดยพระองค์จะพระราชทานทุนการศึกษาให้ได้เรียนต่อ” …ซึ่งเพียงประโยคสั้น ๆ นี้ก็นำมาซึ่งความตื้นตันใจจนบรรยายออกมาได้ไม่หมด…

ทั้งนี้ นอกจากเรื่องราวที่ “น้องหมิว บัณฑิตจิ๋ว” ได้โพสต์บอกเล่าไว้ ดังที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้ถ่ายทอดมาข้างต้น… กับเรื่องราวชีวิตของ “น้องหมิว” หรือ “วราภรณ์ สร้อยเสน” นั้น ย้อนไปเมื่อปี 2565 ทาง “เดลินิวส์ออนไลน์” ก็ได้เคยมีการนำมาถ่ายทอดไว้ หลังจากเธอเป็นจุดสนใจ เมื่อได้เป็นหนึ่งในบัณฑิตของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งแม้ร่างกายเธอจะพิการ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ที่สำคัญ…เธอ ได้รับพระเมตตา“ทุนสมเด็จพระพันปีหลวง” โดยในตอนนั้นเธอได้เล่าไว้ว่า… เธอตั้งใจที่จะขอตอบแทนพระองค์ท่านที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อเธอและครอบครัว ด้วยการตั้งใจศึกษา โดยน้องหมิวแม้ร่างกายพิการ แต่เธอก็สำเร็จการศึกษาโดยได้คะแนน เกียรตินิยมอันดับ 2

สำหรับ “เส้นทางชีวิตน้องหมิว” นั้น เธอได้เคยบอกเล่าไว้ว่า… ตั้งแต่เด็กจนโต ด้วยสภาพร่างกายที่พิการ ทำให้จะไปไหนมาไหนก็ยากลำบากมาตั้งแต่เด็ก และทางบ้านมีฐานะยากจน โดยพ่อแม่ต้องเข้าทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ เธอจึงต้องอยู่กับตาและยาย ซึ่งตั้งแต่เด็กเธอชอบดูพิธีพระราชทานปริญญาบัตรทางโทรทัศน์ และเธอได้ขอแม่ว่าอยากเรียนให้สูงถึงปริญญาตรี แต่เมื่อจบ ม.3 ด้วยร่างกายเธอที่ไม่เหมือนคนอื่น แม่จึงบอกเธอว่า…เรียนแค่นี้ก็คงพอ แต่ด้วยความอยากเรียน เธอจึงรบเร้าขอเรียนต่อ และเธอก็ได้เรียนจนจบชั้น ม.6 แต่ก็ยังไม่ถึงความฝันที่เธอวาดไว้ คือการรับปริญญา เธอจึงขอแม่เรียนต่ออีก แม่ก็บอกให้เรียนใน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเธอก็สอบติดมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ แต่ต่อมาแม่ก็บอกกับเธอว่า…ไม่มีเงินส่งเรียนต่อแล้ว!!

เรื่องราว “เส้นทางชีวิต” ข้างต้นนั้น… “น้องหมิว บัณฑิตจิ๋ว” ได้เคยบอกเล่าไว้เมื่อครั้งให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ จ.บุรีรัมย์ …ซึ่งจากเรื่องสภาพร่างกาย และสภาพฐานะ ดูเหมือนการเรียนเธอคงหยุดอยู่แค่ ม.6 หากแต่จริง ๆ มิใช่แค่นั้น…

“พอแม่บอก หนูก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร จึงตัดสินใจเขียนจดหมายไปถึงสำนักราชเลขาธิการเพื่อขอทุนการศึกษา ภาวนาให้จดหมายไปถึงมือพระองค์ท่าน แต่ก็ไม่กล้าคิดไปไกล เพราะช่วงนั้นในหลวง ร.9 ทรงพระประชวร แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้หนังสือตอบกลับจากกองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ว่าจะส่งให้เรียนจนจบปริญญา ทำให้หนูดีใจจนบอกไม่ถูก ทำให้รู้ว่า…พระองค์ท่านทรงเห็นเรา” …เป็นคำบอกเล่าของ “น้องหมิว”

หนึ่งใน “พสกนิกรซึ่งได้รับพระเมตตา”

นำสู่การ “พลิกชีวิตเด็กพิการที่ยากไร้”

เธอ “ได้ชีวิตใหม่ที่ดีด้วยพระเมตตา”.

ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/articles/5250090/

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ต.ค. 68
วันที่โพสต์: 30/10/2568 เวลา 14:57:09 ดูภาพสไลด์โชว์ พระเมตตา’ ตราตรึง ‘เด็กพิการยากไร้’ ชีวิตใหม่..‘บัณฑิตจิ๋ว’