แห่ช่วย 2 ตายายยากไร้แถมตาบอด ยอดบริจาคร่วมแสนบาท
หลายหน่วยงานยื่นมือเข้าช่วยเหลือ 2 ตายายชาวท่าบ่อ หลังเดินเท้าขอเงิน-อาหารจากชาวบ้าน ยอดเงินบริจาคร่วมแสนบาท
หลังจากที่มีการแชร์ภาพที่ระบุว่า มีหญิงสูงอายุคนหนึ่งเดินเท้าไปหาขอเงิน ขออาหารจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ และ อ.เมืองหนองคาย เพื่อมาเลี้ยงดูสามีที่ตาบอด ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าบุคคลที่ถูกกล่าวถึงคือ นางสี ภาษาเวช อายุ 89 ปี และ นายเลิศ เทียมจันทร์ อายุ 83 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งอาศัยเพิงพักหลังเล็กๆภายในหมู่บ้านกุดบงต.บ้านเดื่ออ.ท่าบ่อ
โดยเป็นที่ดินของนางบุญพุทธ โพธิเสน อายุ 57 ปี เจ้าของโรงงานอิฐ อนุญาตให้อยู่อาศัยได้ สภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างอัตคัด หลังจากที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลก็มีหลายหน่วยงานเข้ามาให้ความช่วยเหลือ นำข้าวสาร อาหารแห้ง เงินสดส่วนหนึ่งมามอบให้ และนอกจากนี้ทางนายชาญวิทย์ ปุณยานันต์ นายกสมาคมหนองคายการกุศลกู้ภัยประจักษ์ โดยสมาชิกในสมาคมกู้ภัยประจักษ์จุดท่าบ่อ ได้เปิดบัญชีรับบริจาคจากประชาขนทั่วไปเพียง 2 วัน ได้ยอดเงินบริจาค 166,554 บาท และได้ปิดบัญชีรับบริจาคแล้ว ในครั้งนี้จึงได้นำเงินจะมามอบให้สองตายาย โดยมีนายสังวาล ขอนยาง รองนายก อบต.บ้านเดื่อ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์ หารือในการบริหารจัดการเงินก้อนนี้ร่วมกันและมีมติจะให้ท้องถิ่นจัดสรรเงินให้สองตายายได้ใช้จ่ายเดือนละ 3,000-4,500บาทตามสมควร
ยายสี ภาษาเวช เล่าว่า ตนรู้จักกับ ตาเลิศ เมื่อ 3 ปี ก่อน และได้มาอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา โดยตนเคยมีญาติอยู่ในตัวเมืองหนองคายแต่ตายหมดแล้ว ก่อนหน้านี้มีอาชีพขอทาน มักจะตระเวนขอเงิน ขออาหารจากชาวบ้านมาเลี้ยงดูตาเลิศ ที่ตาบอดทั้งสองข้าง ส่วนยายสีนั้นป่วยเป็นโรคเก๊าต์ หูตาฝ้าฟาง วันหนึ่งเดินไปขอทานแล้วหกล้มกู้ภัยมาช่วยปฐมพยาบาลและพามาส่งบ้านต่อมาก็มีหลายคนมาช่วยเหลือ
ขณะที่ตาเลิศ กล่าวเสริมว่า ตนเคยทำงานโรงอิฐ และไปทำงานที่ภาคใต้ ถูกสารเคมีจากการทำไร่ทำให้ตาบอดทั้งสองข้าง จึงเดินทางกลับมาอยู่ที่โรงอิฐ ทุกวันนี้มีหลานชายซึ่งทำงานอยู่ที่โรงอิฐด้วยเป็นคนคอยดูแล ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าใดและรู้สึกซาบซึ้งที่มีหลายคนนำสิ่งของมาให้
นายชาญวิทย์ ปุณยานันต์ นายกสมาคมหนองคายการกุศลกู้ภัยประจักษ์ กล่าวว่า เมื่อ 2 วันก่อน เจ้าหน้าที่กู้ภัยประจักษ์จุดท่าบ่อ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือว่ามียายหกล้มได้รับบาดเจ็บอยู่ริมถนน จึงออกไปช่วยปฐมพยาบาลและพาตัวมาส่งบ้านจนได้ทราบความเดือดร้อนและถ่ายภาพนำไปเผยแพร่ในโซเชียลและมีการช่วยเหลือมากมายตามมาและในครั้งนี้ก็ได้นำข้าวสารอาหารแห้งมามอบเพิ่มเติมให้ด้วย
ด้านนายวินัย พิลาเทพ นักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.หนองคาย กล่าวว่า วันนี้ได้มาเก็บข้อมูล ก็พบว่าทั้งสองตายายไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน เป็นคนไม่มีหลักฐานทางการที่ชัดเจน แต่ก็ได้รับการสงเคราะห์จากท้องถิ่น และพัฒนาสังคมฯ เป็นประจำ ไม่ใช่ว่าเป็นบุคคลถูกทอดทิ้ง ซึ่งรูปแบบการช่วยเหลือก็มีทั้งการให้เงินอาหารและการดูแลปฐมพยาบาล
ขณะที่นางบุญพุทธ โพธิเสน เจ้าของที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ยายสี ก่อนหน้าที่จะมาอยู่กับตาเลิศนั้น เคยขอทานอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดหนองคาย พอแก่แล้วเดินทางไม่สะดวก รถโดยสารประจำทางก็ไม่ให้ขึ้น ยายสีจึงต้องหาขอทานตามพื้นที่ อ.ท่าบ่อ ซึ่งหน่วยงานรัฐก็เห็นว่าอายุมากแล้วไม่อยากให้ไปขอทาน ก็เลยให้อยู่กับที่ ไม่ให้ไปขอทานอีก และมีการหาเงินมาช่วยเหลือ ส่วนตาเลิศนั้นเคยทำงานที่โรงอิฐกับตนเอง พอแก่ตัวลงและตาบอด ตนก็สงสารจึงให้สร้างเพิงพักอาศัย ส่วนหลานชายก็ให้ทำงานด้วยกัน ดีใจที่มีหลายคนมาช่วยเหลือสองตายายให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเช่นนี้
ขอบคุณ... http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/766230 (ขนาดไฟล์: 167)