ครอบครัวกังวลเด็กออทิสติกถูกตัดสิทธิ์ หลังรัฐบาลเล็งปรับแผน NDIS

ครอบครัวกังวลเด็กออทิสติกถูกตัดสิทธิ์ หลังรัฐบาลเล็งปรับแผน NDIS

ครอบครัวและผู้สนับสนุนด้านสิทธิผู้พิการแสดงความกังวลว่า เด็กออทิสติกอาจสูญเสียการสนับสนุนที่จำเป็น หลังรัฐบาลกลางเตรียมปรับเกณฑ์ในโครงการ NDIS โดยผู้ที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “ออทิสติกระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง” อาจถูกย้ายออกจาก NDIS ไปสู่โครงการใหม่ Thriving Kids

เคที คูลลาส (Katie Koullas) กังวลว่าลูกสาวสองคนซึ่งเป็นออทิสติกอาจสูญเสียสิทธิการสนับสนุนจำเป็นภายใต้การเปลี่ยนแปลงโครงการประกันความพิการแห่งชาติของออสเตรเลีย (NDIS)

รัฐบาลกลางประกาศว่าจะโอนผู้ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ออทิสติกระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง” ไปยังโครงการใหม่ชื่อ Thriving Kids

ซึ่งจะเริ่มในเดือนกรกฎาคม 2026 ขณะที่ผู้ที่ยังมีสิทธิ์อยู่ใน NDIS จะต้องเข้าข่าย “ออทิสติกแบบถาวรและรุนแรง” เท่านั้น จากคำแถลงของรัฐมนตรีสาธารณสุข มาร์ก บัตเลอร์

คูลลาส ผู้ก่อตั้งองค์กรการกุศล Yellow Ladybugs ที่ทำงานเพื่อเด็กหญิง ผู้หญิง และบุคคลหลากหลายเพศที่เป็นออทิสติก เปิดเผยว่า เธอรู้สึก “ประหลาดใจ” และ “เสียใจอย่างมาก” ต่อการประกาศดังกล่าว

เคที คูลลาส (Katie Koullas) ผู้ก่อตั้งองค์กรการกุศล Yellow Ladybugs เปิดเผยกับ เอสบีเอส นิวส์ว่า การประกาศแผนปรับเปลี่ยน NDIS ครั้งนี้อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในชุมชนออทิสติก

“ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดคือการประกาศนี้กำลังทำให้ชุมชนของเราถูกแบ่งแยก ต้องหันมาแข่งขันกันเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองสมควรได้รับการสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก” เธอกล่าว

คูลลาสระบุว่า ทั้งเธอและลูกสาววัยรุ่นสองคนต่างเป็นออทิสติก และหากอ้างอิงตามถ้อยแถลงของรัฐมนตรีก็จะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “อาการไม่รุนแรง” แต่ในความเป็นจริง ประสบการณ์ของครอบครัวเธอ “ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย”

เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า NDIS ช่วยให้ครอบครัวได้รับการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับความต้องการเฉพาะบุคคล และกังวลว่าโครงการใหม่อาจทำให้ครอบครัวสูญเสียสิ่งเหล่านี้ ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิต

ไม่มีคำว่าออทิสติกเล็กน้อย” เสียงวิจารณ์เกณฑ์ใหม่ NDIS

รัฐมนตรีสาธารณสุข มาร์ก บัตเลอร์ ชี้ว่าโครงการ NDIS ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับเด็กที่ถูกจัดว่าเป็น “ออทิสติกระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง” แต่ที่ผ่านมากลายเป็น “ที่พึ่งเดียว” ของครอบครัวที่ไม่มีทางเลือกอื่น

พร้อมยืนยันว่าโครงการ Thriving Kids จะเข้ามาเป็น “ระบบสนับสนุนหลัก” สำหรับเด็กกลุ่มนี้ ขณะที่ผู้ที่มีความต้องการรุนแรงกว่าจะยังคงอยู่ใน NDIS ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เคที คูลลาส โต้แย้งว่าการใช้คำว่า “เล็กน้อย” เป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายและไม่ถูกต้องทางวิชาการ

“ไม่มีคำว่าออทิสติกเล็กน้อยในเชิงการแพทย์ การใช้ถ้อยคำแบบนี้ทำให้ประสบการณ์ของผู้ป่วยถูกมองข้าม ทุกคนมีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องการเท่ากัน แต่การจัดกลุ่มว่า ‘เล็กน้อย’ เป็นการเพิกเฉยต่ออุปสรรคที่ซ่อนอยู่” เธอกล่าว

คูลลาสยังระบุว่า ชุมชนออทิสติกได้ต่อสู้มาอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนการรับรู้ของสังคมเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้มีภาวะออทิสติก และกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็น “ก้าวถอยหลังครั้งใหญ่”

การประกาศปรับเกณฑ์ NDIS มีขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังรัฐบาลกลางเพิ่งเปิดยุทธศาสตร์ออทิสติกแห่งชาติฉบับแรกของออสเตรเลีย พร้อมงบ 42.3 ล้านดอลลาร์สำหรับระยะเริ่มต้น

ส.ว.พรรคกรีนส์ จอร์ดอน สตีล-จอห์น วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเป็น “เรื่องน่าอับอายอย่างยิ่ง” และกล่าวว่า “ชาวออทิสติกถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งยอมรับไม่ได้

ออทิสติกเป็นภาวะตลอดชีวิต ไม่มีใครหายหรือ ‘โตแล้วหาย’ ได้ การอ้างเช่นนั้นปฏิเสธความจริงและเสี่ยงต่อการทำให้ผู้คนถูกตัดสิทธิ์จากการสนับสนุนที่จำเป็น”

เขายังชี้ว่ารัฐบาลใช้คำอย่าง “เล็กน้อย” และ “ปานกลาง” ทั้งที่ “ไม่มีการอ้างอิงพื้นฐานทางการแพทย์”

ด้านแอนน์ รัสตัน โฆษกฝ่ายค้านด้านสาธารณสุข ระบุว่ายัง “ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม” เกี่ยวกับแผนของบัตเลอร์

ขณะที่บัตเลอร์ย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของ NDIS ซึ่งคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 52,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2025/26

มีความกังวลต่อแนวทาง “สูตรเดียวสำหรับทุกคน”

รายละเอียดของโครงการ Thriving Kids ยังไม่ชัดเจน แต่มีการคาดการณ์ว่าอาจคล้ายกับโครงการ Inklings ที่ดำเนินการในรัฐเซาท์ออสเตรเลียและเวสเทิร์นออสเตรเลีย

ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ทารกอายุ 6–18 เดือนที่แสดงพัฒนาการด้านการสื่อสารแตกต่าง โดยให้เข้าพบผู้เชี่ยวชาญ 10 ครั้งในทุก 6 เดือน

รัฐมนตรีสาธารณสุข มาร์ก บัตเลอร์ ระบุว่า Medicare อาจครอบคลุมบริการบำบัด เช่น กิจกรรมบำบัด การแก้ไขการพูด และการบำบัดด้านจิตสังคม รวมถึงการตรวจสุขภาพเด็กอายุ 3 ปีแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม เคที คูลลาส แสดงความกังวลว่า โมเดลลักษณะนี้จะเข้ามาแทนที่ “ทางเลือกและความยืดหยุ่น” ที่ครอบครัวได้รับจาก NDIS

“NDIS ให้อำนาจในการเลือก การควบคุม และความต่อเนื่องของความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญ แต่โครงการใหม่นี้เป็นวิธีคิดแบบ ‘หนึ่งสูตรใช้กับทุกคน’ ที่ไม่ได้ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และไม่มีการมีส่วนร่วมจากชุมชนออทิสติกเลย” คูลลาสกล่าว

ภายใต้โครงการ NDIS ผู้มีภาวะออทิสติกสามารถเข้าถึงการสนับสนุนหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยดูแล โปรแกรมเพื่อนช่วยเพื่อนที่เชื่อมโยงผู้มีภาวะออทิสติกที่มีความสนใจใกล้เคียงกัน

การบำบัดด้วยดนตรีและศิลปะ หรือการสนับสนุนให้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ศูนย์การค้า เพื่อเสริมสร้างความเป็นอิสระ

เคที คูลลาส ระบุว่า แม้อาจมีบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากโครงการ Thriving Kids แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเข้าใจรายละเอียดอย่างแท้จริง

“การออกมาประกาศนโยบายโดยไม่มีความมั่นใจหรือการรับประกันใด ๆ ต่อชุมชน เป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายและความหวาดกลัวอย่างมาก” เธอกล่าว

เสียงวิจารณ์เรื่อง “ขาดการปรึกษาหารือ

มาร์ก บัตเลอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข คาดว่ารัฐและดินแดนต่าง ๆ จะร่วมสมทบงบประมาณรวม 2,000 ล้านดอลลาร์ตามที่รัฐบาลกลางประกาศไว้ อย่างไรก็ตาม นักการเมืองระดับรัฐหลายฝ่าย

รวมถึงนายกรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรีย จาซินตา อัลเลน และรัฐมนตรีบริการผู้พิการรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ฮันนาห์ บีซลีย์ ระบุว่าเพิ่งทราบเรื่องแผนดังกล่าวจากการแถลงข่าวของบัตเลอร์

ขณะที่นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ คริส มินส์ เตือนว่าจะไม่ “เซ็นเช็คเปล่า” หากยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน

เจนนี คาราวอลอส ประธานร่วมของ Australian Autism Alliance กล่าวว่า การขาดการปรึกษาหารือเป็นเรื่องน่ากังวล

โดยมองว่าโครงการ Thriving Kids มีลักษณะคล้ายกับรายงานพื้นฐานที่รัฐบาลเคยเปิดรับฟังความคิดเห็นปลายปีที่แล้ว แต่ไม่คาดคิดว่ารัฐมนตรีจะเปิดตัวเป็นโครงการเฉพาะทันที

“เราไม่ได้รับการปรึกษาใด ๆ มาก่อน จึงกังวลว่าเรื่องนี้จะส่งผลอย่างไรต่อเด็กออทิสติกและครอบครัวของพวกเขา” คาราวอลอสให้สัมภาษณ์กับ เอสบีเอส นิวส์

ขอบคุณ... https://shorturl.asia/mRXCi

ที่มา: sbs.com.au/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 ก.ย.68
วันที่โพสต์: 2/09/2568 เวลา 11:04:52 ดูภาพสไลด์โชว์ ครอบครัวกังวลเด็กออทิสติกถูกตัดสิทธิ์ หลังรัฐบาลเล็งปรับแผน NDIS