หนุ่มกระเหรี่ยงตาบอด เดินตามคำสอนพ่อหลวง สุดท้ายมีโรงงานของตัวเอง
หนุ่มชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงป่วยเป็นโรคจนทำให้เป็นคนพิการตาบอดสนิททั้งสองข้าง จากคนสิ้นหวังในชีวิตกลับพลิกชีวิตตัวเอง เพียงเพราะน้อมนำแนวทางคำสั่งสอนเศรษฐกิจพอเพียง ของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 กลายเป็นเจ้าของโรงงานเนยถั่ว และ น้ำมันถั่ว ส่งขายซุปเปอร์มาเก็ตหลายแห่ง สร้างรายได้ต่อเดือนหลักล้านบาทโดยรายได้ส่วนหนึ่งดูแลมูลนิธิเด็กยากไร้ให้เรียนหนังสือมีที่ให้พักช่วยเหลือ
หนุ่มกระเหรี่ยงคนดังกล่าว คือ นายพอลร์ ผู้พิขิตไพร อายุ 40 ปี อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ภายในโรงงานผลิตเนยถั่วลิสง น้ำมันถั่วลิสงและผลิตจากถั่วงา ( หุ้นส่วนจำกักพีเอยูแอล เทรดดิง )อยู่ที่ ต.สบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นชาวเขาเผาปกาเกอะญอ หรือ ชาวกระเหรี่ยง แต่มีความพิการตาบอดสนิททั้งสองข้าง ด้วยโรคเบเซ็ท(Behcet's)คือโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ไม่ย่อท้อ ค่อยๆทดลองสร้างสูตรสร้างโรงงานโดยยึดถือแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 จนประสบความสำเร็จนำสินค้าออกส่งขายตามซุปเปอร์มาเก็ตหลายแห่ง และยังมีสินค้าตัวใหม่ๆเพิ่มขึ้นทุกวัน จนสร้างรายได้ต่อเดือนมากกว่า 1 ล้านกว่าบาท โดยยังดูแลมูลนิธิการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะในชีวิต ซึ่งมีเด็กยากไร้ในความดูแล ชาย-หญิง จำนวน 35 คน
นายพอลร์ ผู้พิชิตไพร ป่วยเมื่อปี 2541 จนเมื่อปี 2544 ตาทั้งสองข้างบอดสนิท จึงออกจามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่กรุงเทพตอนนั้นเรียนชั้นปริญญาตรีปี 3 ออกมาอาศัยอยู่ที่บ้านและเก็บตัวอยู่ในห้องมากว่า 2 ปี จนพ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ไปเข้าศูนย์พัฒนาฟื้นฟูคนพิการ จนสามารถเรียนต่อระดับปริญญาตรีจนจบในวิชาชีพครุศาสตร์บัณฑิต แต่เพราะสภาพร่างกายไม่พร้อมจึงไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน จนกลับมาบ้าน และเห็นแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแรงในการดำเนินการทำเนยถั่วและนำมาประยุกต์ใช้สินค้าเกษตรที่มีอยู่ในบ้านเราโดยการแปรรูปสินค้า เพราะพ่อตนเป็นมิชชันนารีสอนศาสนามีชาวต่างชาติเดินทางมาพบปะบ่อยครั้ง จึงคิดค้นพัฒนาสูตรล้มลุกคลุกคลาน โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง จนสร้างเครื่องจักรเองโรงงานเองพัฒนาต่อยอดจนมีการรับรอง อย.และมาตรฐานอย่างอื่นหลายอย่าง จนออกวางขาย ที่มีทุกวันนี้ได้เพราะยึดแนวทางคำสอนของพระองค์ท่าน และยังนำรายได้ส่วนหนึ่งไปดูแลเด็กในมูลนิธิเพื่อประโยชน์ต่อสังคมด้วย