พ่อ-แม่-น้องบูม หนุ่มพิการมืดแปดด้าน ถูกฟ้อง 8 ล้านไร้เงินสู้คดี ซึ้งคนช่วย
จากกรณีอุบัติเหตุเมื่อ วันที่ 6 ก.ย. 59 นายธนบดี สิทธิภา หรือ “น้องบูม” อายุ 19 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้พานางสาวธัญชนก จอมพล หรือ “น้องจุ๊บแจง” อายุ 19 ปี นั่งซ้อนท้ายมา ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางไปโรงเรียน แล้วประสบอุบัติเหตุ จนทำให้ทั้ง 2 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองพิการ เดิมทีญาติทั้ง 2 ฝ่าย ฟ้องเอาผิดรถโดยสารประจำทาง สาย 23 แต่ภายหลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง จึงทำให้ไม่สามารถหาคนรับผิดชอบในคดีนี้ได้
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.ย. 60) ทีมข่าวได้เดินทางมาพบครอบครัวนายธนบดี หรือ “น้องบูม” พร้อมกับนำผ้าอ้อมผู้ใหญ่แบบสำเร็จรูป มามอบให้เพิ่มเติมจากเมื่อวาน (24 ก.ย.) จำนวนมากกว่า 20 ห่อ ซึ่งทันทีที่ทีมข่าวเดินทางไปถึงคุณพ่อน้องบูมก็ได้ออกมารับสิ่งของ โดยระหว่างนั้นคุณพ่อน้องบูมถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เนื่องจากซาบซึ้งกับน้ำใจที่ผู้ใจดีที่ส่งของมาให้
ส่วนทางด้าน นางภารินทร์ สุทธิประภา แม่ของน้องบูม ได้เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น ภายหลังจากที่เมื่อวานที่ผ่านมา (24 ก.ย.) ตนให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนและน้องบูมเป็นหนึ่งในผู้ที่นางอภัสรา ใจซื่อ คุณย่าของ “น้องจุ๊บแจง” ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หลังจากนั้นนางอภัสรา ย่าของ “น้องจุ๊บแจง” ได้โทรศัพท์มาต่อว่าตนว่า ให้ข้อมูลลักษณะเช่นนั้นได้อย่างไร เพราะเรื่องที่นางอภัสรา ได้ฟ้องร้องตนและลูก ได้มีการพูดคุยกับครอบครัวตนแล้ว
นางภารินทร์ ยังระบุอีกว่า นางอภัสรา คุณย่า “น้องจุ๊บแจง” บอกว่าที่ได้ฟ้องร้องตนไป ไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องค่าเสียหาย เพียงระบุว่าฝ่ายนางอภัสรา คุณย่า “น้องจุ๊บแจง” เป็นคนกำหนดว่า จะเรียกร้องค่าเสียหายที่บุคคลใดบ้างเท่านั้น โดยเป็นการทำให้ตนมั่นใจว่าแค่ฟ้อง โดยส่วนตัวมองว่าไม่มีอะไรมารับประกันได้ เนื่องจากเมื่อฟ้องร้องแล้ว หากผลตัดสินว่าตนผิด ตนจะไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย เพราะที่ผ่านมา นางอภัสรา ย่าน้องจุ๊บแจง ระบุว่า จะไม่เรียกร้องอะไร แต่มาถึงวันนี้ตนถูกหมายศาลเช่นนี้ จะให้คิดอย่างไร
ทางครอบครัว “น้องบูม” ไม่ได้นำเรื่องที่ถูกฟ้องไปร้องต่อสื่อ แต่เป็นจังหวะที่ทางทีมข่าวได้เข้ามามอบสิ่งของให้ “น้องบูม” พอดี จึงมีโอกาสเก็บข้อมูลความคืบหน้า ส่วนเรื่องคดีคงต้องปรึกษากับครอบครัวก่อนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
นอกจากนี้ นางภารินทร์ ยังระบุว่า ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่ได้รับมอบมา เป็นสิ่งของที่จำเป็นต่อ “น้องบูม” มาก เนื่องจากเวลาเดินทางไปพบแพทย์ หรือ “น้องบูม” ออกไปข้างนอก รวมไปถึงเวลาขับถ่ายผ้าอ้อมถือเป็นสิ่งที่ต้องใช้ประจำ ตนจึงอยากฝากทางทีมข่าวขอบคุณไปยังทุกท่านที่มอบสิ่งของมาให้ด้วยความเมตตา “น้องบูม” พร้อมทั้งขอบคุณกรมประชาสงเคราะห์ และทุกๆ หน่วยงานที่ได้เข้ามาช่วยเหลือดูแล
นางภารินทร์ ได้กล่าวทั้งน้ำตาอีกว่า เวลามีผู้เข้ามาช่วยเหลือ และดูแลลูกชาย ตนผู้เป็นแม่รู้สึกดีใจ เพราะที่ผ่านมาครอบครัวมีความทุกข์มากอยู่แล้ว และไม่อยากร้องไห้ แต่ทุกสิ่งที่ตนได้รับทำให้ตื้นตันใจที่ยังมีคนมาดูแล นอกจากนี้ นายธนบดี หรือ “น้องบูม” ฝากขอบคุณทุกคนที่นำสิ่งของมาส่งมอบให้ในด้านกำลังใจ ขณะนี้ตนต้องสู้ต่อไปและจะท้อไม่ได้ เพราะพ่อแม่ตน ยังสู้ ตนก็ต้องสู้ด้วย โดยตอนนี้ตนต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตอยู่อีกด้วย
ขอบคุณ... http://www.amarintv.com/news-update/news-3244/90040/ (ขนาดไฟล์: 162)