แม่รับไม่ได้!กระบะรพ.ชนลูก3ขวบพิการ จ่ายแค่ 9 แสน
แม่ "น้องปาล์ม" หนูน้อยวัย 3 ขวบ ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถรพ.สต.บ้านใหม่ จ.ขอนแก่น ชนจนพิการ รับไม่ได้! สธ.จะจ่ายให้แค่ 9 แสน ทั้งที่ฟ้องไป 5 ล้าน ส่วนรองโฆษกฯ ชี้ อสส. ให้ความสำคัญคดี พร้อมช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. น.ส.ปวีณา หาทรัพย์ อาชีพลูกจ้างชั่วคราวใน รพ.ชุมเเพ จ.ขอนเเก่น อายุ 30 ปี มารดาของ ด.ช.ปราบปราม หรือ น้องปาล์ม เจิมขุนทด อายุ 3 ขวบเศษ ที่ประสบอุบัติเหตุรถกระบะ รพ.สต.บ้านใหม่ จ.ขอนแก่น ชนจนพิการ และได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นต้นสังกัดของโชเฟอร์ รถยนต์ที่ขับมาชน ได้เจรจาทางโทรศัพท์ให้ความช่วยเหลือกับตน 9 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งตนยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายไป 5 ล้านบาท และได้ปฏิเสธเงินจำนวนดังกล่าวว่า เพราะน้องปาล์มมีความเป็นอยู่ยากลำบาก ต้องไปพบแพทย์ทุกวัน ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่ารถ ค่าหมอ ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์นับวันจะสูงขึ้น เงิน 2 ล้านบาท ที่เจรจาต่อรองกันก็นับว่าน้อยมากแล้ว จึงปฏิเสธไม่รับเงิน 9 แสนบาท ทางผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข บอกว่าจะกลับไปเสนอผู้บริหารต่อไป
"ความจริงหากกระทรวงสาธารณสุขสามารถทำให้น้องปาล์มเป็นปกติได้ เงินทองก็ไม่สำคัญ แต่ในความจริง เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มทุกวันตนเป็นลูกจ้างราชการมีเงินเดือน 6,600 บาท สามีอาชีพทำนา ตอนนี้สู้คดีจนหมดตัวแล้ว ทางครอบครัวรู้สึกท้อแท้ ถ้าทางราชการมีการต่อรองเงินค่าสินไหมทดแทนมาเรื่อยๆ ตนก็รับไม่ได้จริงๆ ดูอาการลูกแล้วได้แต่ร้องไห้ เหมือนตกในขุมนรก" น.ส.ปวีณา กล่าว
ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ได้ให้ความสนใจเรื่องนี้และกำชับให้ตนได้ติดตามเรื่องไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดชุมแพ เพื่อขอทราบความคืบหน้าเเละได้ความว่าทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานมาว่า หากสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ก็จะทำหนังสือข้อหารือมายังอัยการตามขั้นตอน ทางอัยการจะตอบไปว่าคู่ความมีทางตกลงกันได้ สามารถยุติคดีได้ หน้าที่อัยการไม่ได้อยู่ที่ทำคดี แต่อยู่ที่การสร้างความเป็นธรรมให้ยุติ ดับทุกข์คนจนรักษาผลประโยชน์รัฐ คือเป้าหมาย เมื่ออัยการทำความเห็นทางคดีเรื่องนี้อย่างไร ทางสาธารณสุขต้องฟังอัยการ หากตัวความพอใจตัวเลขเยียวยาทั้ง 2 ฝ่าย คดีก็ตกลงกันได้ ทางกระทรวงยุติธรรมก็จะมีการประชุมถึงมาตรการจัดความช่วยเหลือด้านทนายความและเงินทุนการต่อสู้คดีจากกองทุนยุติธรรมในสัปดาห์หน้า และทางเนติบัณฑิตยสภาก็มีความพร้อมที่จะส่งทนายความมาช่วยอีกแรงโดยจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้าเช่นกัน