เปิดทุกวันไม่กำหนดปิด กราบ ‘ราชสรีรางคาร’ ร.9
วัดราชบพิธฯยังคงเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมราชสรีรางคารวันละสองรอบต่อไปยังไม่มีกำหนดปิด ขณะที่ประชาชนทั่วไทยยังเดินทางมาชมความสง่างามของพระเมรุมาศและชมนิทรรศการ “พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์” ที่ท้องสนามหลวงกันตลอดวัน
ยิ่งนับวันยิ่งมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมา ชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ที่ท้องสนามหลวง โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ตั้งแต่เช้า ประชาชนจากทั่วประเทศ เดินทางมาเข้าชมอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องผ่านจุดคัดกรองจำนวน 5 จุดรอบพระบรม มหาราชวัง ประกอบด้วย จุดแรกสำหรับประชาชนทั่วไป ผู้สูงอายุ และผู้พิการที่ศาลพระแม่ธรณีบีบมวยผม จุดสองที่กระทรวงกลาโหมสำหรับนักท่องเที่ยว จุดสามที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (รด.) จุดสี่ ที่บริเวณท่าช้าง และจุดที่ห้าฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ สำหรับพระภิกษุ สามเณร แม่ชี รวมทั้งนักบวชในศาสนาอื่นๆ โดยแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจบัตรประชาชนและสัมภาระ รวมทั้งแนะนำเรื่องการแต่งกายให้ถูกต้องตามกฎระเบียบของสำนักพระราชวัง
สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ หากไม่สามารถเดินได้ เจ้าหน้าที่ได้จัดรถวีลแชร์ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยบริการเข็นให้ชมนิทรรศการ เมื่อประชาชนผ่านจุดคัดกรองแล้ว จะต้องเข้ามานั่งในเต็นท์รอคอยด้านทิศเหนือของสนามหลวง จะมีเจ้าหน้าที่ทหาร เทศกิจ จิตอาสา คอยจัดคิวในการเข้าชมอย่างเป็นระเบียบ ใช้เวลาเข้าชมนิทรรศการรอบละประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นผู้เข้าชมจะได้รับแจกโปสต์การ์ดที่ระลึก ที่กระทรวงวัฒนธรรมพิมพ์มาแจกจำนวน 3 ล้านฉบับ มีทั้งหมด 9 แบบ แบบที่ 1 เป็นพระบรม ฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรโดยรถไฟพระที่นั่ง ซึ่งได้นำแจกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 2-8 พ.ย.ที่ผ่านมา
แบบที่ 2 เป็นภาพถ่ายแปลงนาสาธิตรูป “เลข ๙” บริเวณหน้าพระเมรุมาศ ได้นำมาแจกให้ประชาชนเก็บไว้เป็นที่ระลึกวันที่ 9 พ.ย.เป็นวันแรก แบบที่ 3 ภาพถ่ายประติมากรรมสัตว์หิมพานต์ในสระอโนดาตจำลอง แบบที่ 4 ภาพถ่ายพระเมรุมาศยามพลบค่ำ แบบที่ 5 ภาพถ่ายพระเมรุมาศมุมสูงยามค่ำคืน แบบที่ 6 ภาพถ่ายฉากบังเพลิงทิศตะวันตก แบบที่ 7 ภาพถ่ายริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 1 แบบที่ 8 ภาพถ่ายริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 2 และแบบที่ 9 ภาพถ่ายริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 3 โดยโปสต์การ์ดทั้ง 9 แบบจะถูกหมุนเวียนนำมาแจกไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย.
น.ส.จรรยาภรณ์ เกิดสกุล อายุ 18 ปี หนึ่งในประชาชนที่เข้าร่วมชมความสง่างามของพระเมรุมาศและนิทรรศการ “พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์” กล่าวว่า มาจากบ้าน จ.นครปฐม ตั้งใจมาชมนิทรรศการโดยเฉพาะ เมื่อได้เห็นทั้งความยิ่งใหญ่ ความอลังการของพระเมรุมาศที่ได้สร้างขึ้นอย่างสมพระเกียรติของในหลวง ร.9 รู้สึกประทับใจมาก ได้รับรู้ถึงเรื่องราวการก่อสร้างพระเมรุมาศที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยมีอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงได้ชมพระราชกรณียกิจต่างๆ ของในหลวง ร.9 ที่ได้จัดแสดงไว้ในอาคารประกอบต่างๆ ทำให้คิดว่า เราโชคดีที่มีในหลวง ร.9 ที่ทรงทำทุกอย่าง เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์มีความอยู่ดีกินดี พวกเราโชคดีที่ประเทศไทยมีสิ่งสวยงามแบบนี้ ที่สำคัญมีพระมหากษัตริย์ที่ทำเพื่อประชาชน
ส่วนการกราบสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามนั้น วันเดียวกัน พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ กล่าวว่า วัดราชบพิธฯ เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมราชสรีรางคาร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทุกวัน ที่พระอุโบสถวัดราชบพิธฯ เปิดวันละสองรอบ
รอบแรก เวลา 08.00-10.00 น. รอบสองเวลา 16.00-18.30 น.ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. และยังไม่มีกำหนดว่าจะปิดพระอุโบสถถึงเมื่อใด เพื่อให้ประชาชนที่ได้เข้าชมพระเมรุมาศ มีโอกาสเดินทางมายังวัดราชบพิธฯ เพื่อกราบสักการะพระบรมราชสรีรางคาร โดยทางวัดได้จัดอาหาร น้ำดื่ม ไว้แจกให้กับประชาชนด้วย