ฆษก ทบ.แจง 'อส.ทหารพราน' เหยื่อบึมจนพิการ ได้รับเงินบำรุงขวัญแล้ว
โฆษก ทบ.แจงขั้นตอนจ่ายเงินบำรุงขวัญเดือนละ 2 พันบาท ให้ "อส.ทพ.พิษนุกร วุฒิ" หลังร้องโซเชียล ยันทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน รับอาจมีบางส่วนล่าช้า ระบุหน่วยต้นสังกัดทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.60 พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ นางกมลลักษณ์ ดินแดง อายุ 42 ปี ภรรยาของ อส.ทพ.พิษนุกร วุฒิ หรือศักดิ์ อายุ 33 ปี อดีตอาสาสมัครทหารพราน กรมทหารพรานที่ 44 ที่เคยรับใช้ชาติอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่โรงเรียนบ้านกะลาพอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และปลดพิการ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.58 ระบุว่าตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินบำรุงขวัญเดือนละ 2,000 บาท แม้แต่บาทเดียว จนมีกระแสเรียกร้องบนโลกออนไลน์ว่า อส.ทพ.พิษนุกร วุฒิ ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 57 ซึ่งในระหว่างรักษาตัว ทางกองทัพบกได้มอบเงินช่วยเหลือตามระเบียบไป รวมทั้งสิ้น 2 ล้านบาท เงินบำนาญรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท และเงินช่วยเหลือผ่านศึกอีกเดือนละ 3,500 บาท ซึ่งจะได้รับทุกเดือน และได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้รวมถึงได้รับสิทธิบรรจุทายาทเข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวนทดแทน โดยผู้รับสิทธิก็คือน้องชายชื่อ ส.ต.ชวลิตร วุฒิ ปัจจุบันเข้ารับราชการที่มณฑลทหารบกที่ 46 (มทบ.46) เรียบร้อยแล้ว ต่อมาทางแพทย์ได้ลงความเห็นว่าให้ อส.ทพ.พิษนุกร วุฒิ ปลดพิการ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 58 ทางหน่วยจึงเริ่มขั้นตอนกระบวนการในส่วนเงินช่วยเหลือกำลังพลปลดพิการรายเดือน เดือนละ 2,000 บาทให้อีก ซึ่งเพิ่งได้รับการอนุมัติให้ได้รับเงินช่วยเหลือในส่วนนี้ไป เมื่อวันที่ 12 ก.ค.60 ส่วนในช่วงก่อนหน้าจะเป็นการได้รับสิทธิย้อนหลังตั้งเเต่วันที่ปลดพิการ คือ พ.ย.58 ถึง ก.ค.60 ซึ่งกรณีนี้จำเป็นต้องใช้เวลาและทางหน่วยคงจะได้ไปทำความเข้าใจกับ อส.ทพ.พิษนุกร วุฒิ เพิ่มเติมเรียบร้อย
"กองทัพบกให้ความสำคัญต่อการดูแลสิทธิกำลังพลที่เสียสละปฏิบัติหน้าที่ จนได้รับบาดเจ็บพิการหรือเสียชีวิต โดยส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทยอยมอบสิทธิต่างๆ ตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์ ซึ่งอาจมีบางรายการของสิทธิพิเศษที่จำเป็นต้องใช้เอกสาร มีกระบวนการกลั่นกรองและระยะเวลาในการอนุมัติ ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดกรมกำลังพลทหารบกและกรมสวัสดิการทหารบกร่วมกันดำเนินการในเรื่องดังกล่าวตามนโยบายของกองทัพบกและระเบียบของทางราชการอย่างดีที่สุด เพื่อดูแลให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละได้รับสิทธิอันพึงมีพึงได้ครบถ้วนอย่างแน่นอน" โฆษกกองทัพบก กล่าว.