2-30 พ.ย. นี้ เปิดให้เข้าชมพระเมรุมาศ รอบละ 5 พันคน
ปัจจุบันงานก่อสร้างพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว โดยวันที่ 18 ตุลาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร โดยคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เตรียมเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศและจัดนิทรรศการตลอดเดือนพฤศจิกายน 2560 หลังจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เสร็จสิ้น คาดว่ามีผู้เข้าชม 1 แสนคน/วัน
นิทรรศการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9 นิทรรศการครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยประชาชนสามารถเข้าชมได้ทุกอาคารภายในบริเวณมณฑลพิธี ซึ่งจะมีแผ่นคำบรรยายเพื่อให้ความรู้โดยสังเขปในทุก ๆ ส่วน พร้อมระบบคิวอาร์โค้ดเพื่อให้ดาวน์โหลดข้อมูลต่าง ๆ เก็บไว้ศึกษาภายหลังได้ นิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ได้แก่ นิทรรศการ “พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์” จัดแสดงภายในพระที่นั่งทรงธรรมแสดงเรื่องราวพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แบ่งเป็น 5 ตอนต่อเนื่องกัน ได้แก่ 1. เมื่อเสด็จอวตาร 2. รัชกาลที่ร่มเย็น 3. เพ็ญพระราชธรรม 4. นำพระราชไมตรี และ 5. พระจักรีนิวัตฟ้า
ในนิทรรศการจะมีทั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์และภาพยนตร์ที่หาชมยาก ภาพอุปกรณ์ทรงงานในการดูแลทุกข์สุขของราษฎรตลอดรัชสมัย จดหมายเหตุเรื่องราวการเจริญพระราชไมตรี มีภาพสามมิติรูปรางวัลต่าง ๆ ที่นานาประเทศน้อมเกล้าฯ ถวาย ในฐานะพระมหากษัตริย์นักพัฒนา และการประมวลความคิดและความรู้สึกของประชาชนชาวไทยต่อการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
นิทรรศการการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ จัดแสดงภายในศาลาลูกขุน ทั้ง 6 หลัง จะเล่าเรื่องราวการจัดสร้างพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศในทุก ๆ ส่วน แสดงแนวคิดและขั้นตอนการทำงาน ทั้งงานสถาปัตยกรรม งานประติมากรรมและจิตรกรรมประดับพระเมรุมาศ งานประณีตศิลป์ในส่วนของพระโกศจันทน์ พระโกศทองคำ เครื่องสังเค็ด และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ รวมทั้งการเตรียมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศในพระราชพิธี
เปิดจุดคัดกรอง 5 จุด อำนวยความสะดวกประชาชน ภายในบริเวณนิทรรศการ จะจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม โดยทุกอาคารจะจัดทำทางลาดสำหรับผู้ที่มาด้วยรถเข็นหรือผู้สูงอายุ รวมทั้งจะมีการจัดนิทรรศการสำหรับผู้พิการทางสายตาให้สามารถสัมผัสกับหุ่นจำลองพระเมรุมาศขนาดย่อส่วน ชิ้นส่วนตกแต่งงานสถาปัตยกรรม และงานศิลปกรรมประดับพระเมรุมาศ อาทิ สัตว์หิมพานต์ เทวดา และชิ้นส่วนของประติมากรรมต่าง ๆ
ประชาชนที่เข้าร่วมงานจะต้องผ่านจุดคัดกรอง 5 จุด โดยจะมีทางเข้าแยกเฉพาะให้กับบุคคลแต่ละกลุ่มประกอบด้วย
– ประชาชน 3 จุด บริเวณท่าช้าง วงเวียน รด. และพระแม่ธรณีบีบมวยผม
– พระภิกษุและผู้พิการ 1 จุด บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
– นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 1 จุด บริเวณด้านหลังกระทรวงกลาโหม
เปิดรอบละ 5 พันคน คาดมีผู้เช้าชม 1 แสนคน/วัน คณะกรรมการฯ คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมนิทรรศการวันละ 1 แสนคน แบ่งเป็น พระภิกษุสงฆ์ 500 องค์ คนพิการและคนชรา 500 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 8,000 คน นักเรียนนักศึกษา 15,000 คน ประชาชนทั่วไป 80,000 คน เฉลี่ย 4 ตารางเมตร/คน จึงได้กำหนดให้เข้าชมรอบละ 5,000 คน โดยกำหนดเวลาให้ชมบริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศซึ่งเป็นส่วนของโครงการพระราชดำริ คนละ 15 นาที ส่วนในนิทรรศการ 6 อาคาร จะให้เวลาคนละ 45 นาที ซึ่งประชาชนสามารถขึ้นชมพระเมรุมาศได้เฉพาะชั้น 1 เท่านั้น เมื่อหมดเวลาเจ้าหน้าที่จะส่งสัญญาณหมดเวลาเป็นรอบ ๆ
ทั้งนี้ ในทุก ๆ วัน ระหว่างการจัดนิทรรศการ จะมีการแสดงดนตรีซึ่งหมุนเวียนกันระหว่างกรมศิลปากรและหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งในตอนเย็นถึงค่ำจะมีการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ที่บริเวณหน้าพระเมรุมาศ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมบนเวทีด้านทิศเหนือ
นิทรรศการดังกล่าวจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น. ระหว่างวันที่ 2-30 พฤศจิกายน 2560 ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการดังกล่าวต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ทั้งนี้ ในเวลา 07.00 น. ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดนิทรรศการ
ขอบคุณ... https://goo.gl/Kjv7uU (ขนาดไฟล์: 0 )