"บิ๊กก้อง"ลุยงานกีฬาปี63 ดันทัพไทยคว้าชัยโอลิมปิกเกมส์

"บิ๊กก้อง"ลุยงานกีฬาปี63 ดันทัพไทยคว้าชัยโอลิมปิกเกมส์

"ก้องศักด" แถลงผลงาน ปี 2562 พร้อมวางเป้าลุยงานใหญ่ ปี 2563 โดยเฉพาะศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ต้องผนึกกำลังกับ "ส.กีฬา-โอลิมปิคไทย" เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่พิกัด เพื่อความสำเร็จในการคว้าเหรียญมาให้ได้

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แถลงผลการดำเนินงานในปี 2562 ที่โรงแรมโอเอซิส เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา โดย ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า กกท. มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศสู่ระดับนานาชาติ ต่อยอดสู่ระดับอาชีพและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ซึ่งในปี 2562 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการ ใน 2 หัวข้อหลัก ได้แก่ 1 การดำเนินงานตามยุทศาสตร์ กกท. ประกอบด้วย การพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ อาทิ 1.1 การเตรียมนักกีฬาเข้าแข่งขันมหกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น ซีเกมส์, เอเชี่ยนพาราเกมส์, ยูธโอลิมปิกเกมส์, กีฬาแห่งชาติ "เจียงฮายเกมส์", กีฬาคนพิการแห่งชาติ "น้ำกกเกมส์", กีฬาเยาวชนแห่งชาติ "บุรีรัมย์เกมส์", กีฬาอาวุโสแห่งชาติ "รมย์บุรีเกมส์" เป็นต้น

1.2 การบริหารจัดการกีฬาเพื่อการอาชีพ มีการจัดการแข่งขันทั้งหมด 13 ชนิดกีฬา 42 รายการ ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกีฬาชีพได้มากถึง 20,000 ล้านบาท ,1.3 การบริหารจัดการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ยกระดับมาตรฐานศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวนทั้งหมด 25 ศูนย์ และกำลังก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีก 12 ศูนย์ รวมทั้งหมด 37 ศูนย์ รวมถึงยกระดับศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาสู่ “สถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย”

1.4 การบริหารจัดการองค์กรและการบริการทางการกีฬา ซึ่ง กกท. มีการพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรให้สามารถดำเนินงานให้บรรลุวิสัยทัศน์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) มาปรับใช้กับการบริหารจัดการองค์กร ให้สอดคล้องกับเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม CSR ในปี 2562 ทั้งหมด 13 กิจกรรม รวมถึงจัดตั้งศูนย์สำหรับการออกกำลังกายทั้งหมด 28 ศูนย์ ทั่วประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้นประมาณ 16.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10 % (จากจำนวน 15.4 ล้านคนในปี 2561)

1.5 การส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการกีฬา ซึ่ง กกท. มีเป้าหมายมูลค่าทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมกีฬาไม่น้อยกว่า 25,700 ล้านบาท อาทิ การจัดการแข่งขัน โมโต จีพี ไทยแลนด์กรังด์ปรีซ์ ซึ่งในปี 2561 ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมกีฬา 3,053.64 ล้านบาท และปี 2562 มีเป้าหมายในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมกีฬา 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 14.6%

2. การดำเนินการโครงการพิเศษเพื่อยกระดับการพัฒนากีฬาของชาติ ประกอบด้วย การยกระดับการให้บริการของ กกท. (SMART NATIONAL SPORTS PARK) เพื่อจัดทำโครงการระดมทุนด้านกีฬาในเชิงพาณิชย์และสังคม, การยกระดับการบริการทางการแพทย์ ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาของ กกท. (SPORTS MEDICAL SERVICES), การพัฒนาข้อมูลดิจิทัลด้านการกีฬา (SPORTS DIGITAL PLATFORM) เช่น จัดทำแผนปฏิบัติการ Sports Big Data พัฒนาระบบฐานข้อมูลนักกีฬา พัฒนาระบบฐานข้อมูลบุคลากรกีฬา พัฒนาระบบ Sports Calendar พัฒนาระบบ Sports event, จัดกิจกรรม SPORTS ENTERTAINMENT ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ และกีฬาเยาวชนแห่งชาติ

รวมทั้งโครงการการจัดตั้งเมืองกีฬา (SPORTS CITY) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ได้จัดตั้งเมืองกีฬา 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จันทบุรี, เชียงราย, อุบลราชธานี, นครราชสีมา, พัทลุง, ตรัง, สงขลา, ยะลา และภูเก็ต ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จัดตั้งเมืองกีฬาได้สำเร็จ 6 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี, สุพรรณบุรี, บุรีรัมย์, อุดรธานี, ศรีสะเกษ และกระบี่ โครงการสนับสนุน ส่งเสริมกีฬาเอกลักษณ์ไทย – ส่งเสริมกิจกรรมกีฬา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้, ยกระดับหน่วยงานด้านกฎหมายของ กกท. (SPORTS LAW) และสลากส่งเสริมคนรักกีฬา เพื่อการจัดหาเงินทุนหมุนเวียนในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากีฬาของชาติ นอกเหนือระเบียบการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

ดร.ก้องศักด กล่าวต่อว่านอกจากนี้เรายังมีรายการแข่งขันระดับนานาชาติที่ต้องเตรียมนักกีฬาเพื่อเข้าแข่งขันอย่างกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10 ที่ฟิลิปปินส์ ที่เลื่อนการจัดการแข่งขันเป็น วันที่ 20-28 มี.ค. และมีอีก 2 รายการใหญ่ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายปี 2020 ระหว่างวันที่ 8-26 ม.ค. และการจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการทางการเคลื่อนไหวชิงแชมป์โลก (ไอวาสเกมส์ 2020) ระหว่างวันที่ 20-28 ก.พ. ที่จังหวัดนครราชสีมา ส่วนในเดือน ส.ค. เป็นรายการใหญ่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ซึ่งมีนักกีฬาได้โควตาไปแข่งขันแล้ว 13 คน และยังมีลุ้นเพิ่มเติมอีก ซึ่งรายการต่างๆ เหล่านี้ เป็นตัวบอกถึงเป้าหมายแห่งความสำเร็จที่ชัดเจนทั้งด้านกีฬาเพื่อความเป็นเลิศและการเป็นเจ้าภาพกีฬาในระดับอาเซียน ซึ่ง ทาง กกท. ต้องทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาและโอลิมปิคไทย เพื่อเตรียมนักกีฬาให้มีโอกาสสูงสุดในการเข้าแข่งขันและประสบความสำเร็จให้ได้มากที่สุดต่อไป

ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/sports/750547

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 6 ม.ค.62
วันที่โพสต์: 7/01/2563 เวลา 11:06:33 ดูภาพสไลด์โชว์ "บิ๊กก้อง"ลุยงานกีฬาปี63 ดันทัพไทยคว้าชัยโอลิมปิกเกมส์