พ่อแม่ร้อง ลูก 9 ขวบท้องเสีย หมอฉีดยาเกินขนาด ทำเด็กตาบอด-สมองพิการ
วันที่ 10 เม.ย.68 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พาพ่อแม่น้อง “ฟีฟ่า” เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ยื่นหนังสือร้องเรียน รมต.สาธารณสุข กรณีหมอฉีดยาเกินขนาด ทำเด็กตาบอด สมองพิการ ต้องนอนติดเตียง
ครอบครัวเล่าว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13.00 – 14.00 น. ด.ญ.หนึ่งธิดา หรือน้องฟีฟ่า ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านหนองแขม ด้วยอาการท้องเสียและอ่อนเพลีย ต่อมา แพทย์ได้ให้ยาอะดรีนาลีน เพื่อเพิ่มความดัน จน เด็กความดันเพิ่มขึ้นรุนแรง จนสมองขาดเลือด และตาบอด เกร็งชัก หัวใจหยุดเต้น เวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 น้องฟีฟ่ามีอาการอาเจียน ท้องเสีย ตาค้าง นิ่งไม่รู้สึกตัว อาการไม่ดีขึ้น จึงได้ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ด้วยภาวะวิกฤต ภายในปอดมีฝ้า หัวใจโต หัวใจเต้นผิดจังหวะ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ มีอาการรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ
ต่อมา ประมาณวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ อาการเริ่มหนักขึ้น ตาสองข้างมองไม่เห็น พูดไม่ได้ แขนขาขยับไม่ได้ แพทย์เรียกเข้าไปชี้แจงว่า อาการแบบนี้เกิดจากสภาวะหัวใจหยุดเต้น สมองขาดเลือดไปเลี้ยงนานจนเกิดภาวะสมองตาย ให้พ่อแม่ทำใจไว้ น้องอาจจะหายแต่จะกลับมาไม่เหมือนเดิม แถมยังพูดว่ารักษาเกินสิทธิ 30 บาท จะเอาอะไรอีก
โดยแพทย์แจ้งว่าเกิดจากการฉีดยาอะดรีนาลีน กระตุ้นความดันที่ฉีดให้น้องตั้งแต่วันแรกทำให้น้องช็อก หัวใจหยุดเต้นไปประมาณ 4 นาที และยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อยู่ด้วย น่าจะมาจากผลข้างเคียงของฤทธิ์ยา
พ่อและแม่ของน้องฟีฟ่า ยังยืนยันว่าทางครอบครัวไม่ได้ต้องการดำเนินคดีกับแพทย์ เพราะมีความเข้าใจว่าในกระบวนการรักษามีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ แต่อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด้านการรักษาให้ลูกสาวกลับมาเป็นปกติหรืออย่างน้อยสามารถดูแลตนเองได้ เนื่องจากขณะนี้ภรรยาต้องลาออกจากงานเพื่อมาเฝ้าอาการป่วยและดูแลลูกสาวที่ยังมองไม่เห็น ไม่สามารถเดินได้ด้วยตนเองและไม่สามารถกินอาหารเองได้
ขณะที่ทนายอนันต์ชัย ระบุว่าหลังได้รับเรื่องน้องฟีฟ่า และได้ไปเยี่ยมน้อง พบว่าตามองไม่เห็น สมองพิการ และได้นัดขอคุยกับ ผอ.รพ. ซึ่งได้ยอมรับว่ามีการฉีดอะดรีนาลีนเกินขนาดจริง จนน้องถูกส่งตัวไปอีกโรงพยาบาล
โดยพ่อแม่ของน้องฟีฟ่า มีลูกทั้งหมด 4 คน น้องฟีฟ่า 9 ขวบ เป็นลูกคนโต มีน้องอีก 3 คน พ่อแม่มีอาชีพรับจ้าง แม่ต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูกที่พิการทางสายตา ที่เกิดจากการฉีดยาผิดของแพทย์
ด้าน รศ.นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ กรรมการแพทยสภา ได้เข้าร่วมรับเรื่องร้องเรียนครั้งนี้ระบุว่า จากข้อมูลและหลักฐานในเบื้องต้นสรุปได้ว่าผู้ป่วยมีความผิดปกติด้านสมองจริง หลังจากรับเรื่องจะนำข้อมูลเข้าสู่ที่ประชุมของแพทยสภา เพื่อร่วมหาแนวทางช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้
สำหรับยาอะดรีนาลีน จัดเป็นยาอันตรายควบคุมพิเศษ เป็นกลุ่มยาที่ใช้กระตุ้นหัวใจและหลอดเลือดซึ่งจะใช้ในกรณีคนไข้ที่ต้องการเพิ่มความดัน หรือกลุ่มผู้ที่มีภาวะช็อค จากการแพ้ยาหรือการแพ้อาหาร แต่ในขั้นตอนการใช้ต้องมีแพทย์หรือพยาบาลเฝ้าระวังและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยปกติในร่างกายมนุษย์ก็สามารถผลิตฮอร์โมนอะดรีนาลีนได้เช่นกัน