ความมั่นใจที่มีขาย และสวมใส่สบาย
จดจำเธอคนนี้ไว้ให้ดี
เธอชื่อ Erica Cole ผู้ประกอบการหญิงผู้เปี่ยมไปด้วยแพสชันจากสหรัฐอเมริกา
เราเจอเธอที่งานประกาศรางวัลของ Cartier Women’s Initiative 2024 ที่จัดขึ้นโดย Cartier เธอเป็นหนึ่งในผู้เข้ารอบที่กำลังเตรียมพร้อมขึ้นเวทีในวันถัดไปด้วยความตื่นเต้น
Erica ทำแบรนด์ที่ชื่อว่า ‘No Limbits’ ซึ่งเป็น Adaptive Clothing หรือเสื้อผ้าพิเศษที่เป็นมิตรต่อผู้มีเงื่อนไขทางร่างกายหรือสุขภาพ โดยเฉพาะคนพิการ จนประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยมาก
ไม่ใช่แค่เข้าใจคนพิการ แต่เธอเองก็มีขาเพียง 1 ข้าง ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นระหว่างยังเรียนมหาวิทยาลัย เธอจึงรู้แน่ชัดว่าคนพิการต้องการเสื้อผ้าที่เอื้อต่อร่างกาย สวมใส่ง่าย ที่สำคัญ ต้องส่งเสริมความมั่นใจและความภูมิใจในตัวเองด้วย
สิ่งที่เธอทำจะเปลี่ยนชีวิตผู้คนอีกมากมาย
Cartier Women’s Initiative คือโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงจากทุกภูมิภาคทั่วโลกที่ทำธุรกิจเพื่อสังคมโดยสอดคล้องกับ SDGs 17 เป้าหมาย
ผู้เข้ารอบหรือที่เรียกติดปากกันว่า ‘Fellow’ จะได้เข้าร่วมโปรแกรมซึ่งอัดแน่นไปด้วยเวิร์กช็อปและเทรนนิ่งของเหล่ามืออาชีพตลอด 1 ปีของโครงการ นอกจากนี้ Fellow ยังมีโอกาสเข้าถึงเงินทุนของทาง Cartier ตามรางวัลที่ได้ และจากนี้เป็นต้นไปจะได้เป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ที่แข็งแรงของผู้ประกอบการหญิงอย่าง CWI ที่รวมตัวกันมาตลอด 17 ปีด้วย
เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการหญิงเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยผู้ชายในชุดสูท
“ที่ผ่านมาระบบนิเวศของผู้ประกอบการไม่ได้ Gender Inclusive เท่าที่ควร” Wingee Sin ผู้เป็น Global Program Director ของ Cartier กล่าว “นี่คือเหตุผลว่าทำไมสำหรับเรา การสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงจึงสำคัญมาก ๆ และเราต้องการแรงสนับสนุนจากทุกคน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เราอยากเห็นในโลกนี้”
ในปีนี้ CWI จัดขึ้นในธีม Forces for Good และเปิด Diversity, Equity & Inclusion Award ขึ้นมาเป็นปีแรก เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นตั้งใจลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพื่อผู้คนหรือชุมชนที่ขาดโอกาสมาโดยตลอด
และ Erica Cole ก็เป็น Fellow ที่ได้รับรางวัลที่ 3 ในหมวดหมู่นี้
คิด ถึงสิ่งไม่เคยคิดมาก่อน
“อุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้นทำให้เราเสียขาโดยกะทันหัน”
ในปี 2018 Erica กำลังอาศัยอยู่ที่โคโลราโด ใช้ชีวิตเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเหมือนกับคนในวัยเดียวกัน แต่เรื่องไม่คาดฝันก็มาเยือน เธอกลายเป็นผู้พิการในชั่ววินาที และใช้เวลาอยู่กับบ้านรักษาตัวเองหลายปีหลังจากนั้น อยากจะทำงานก็ทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด
นอกเหนือจากฟังก์ชันเดิมที่หายไปแล้ว การสูญเสียอวัยวะที่เคยมีมาตลอดส่งผลรุนแรงกับจิตใจมนุษย์ได้มากมายเหลือเกิน
แต่แล้วความมหัศจรรย์แรกก็เกิดขึ้น เมื่อเธอรวบรวมแรงใจไปนั่งหน้าจักรเย็บผ้า กดเปิดสวิตช์ แล้วเริ่มทำกางเกงสำหรับผู้พิการให้ตัวเองใส่
จากนั้นความมหัศจรรย์ที่ 2 ก็เกิดตามมา เมื่อเธอตัดสินใจทำกางเกงให้ผู้พิการคนอื่น ๆ ใส่ด้วย
“เวลาที่เราเล่าให้คนอื่นฟังว่า No Limbits คืออะไร คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์หรือไม่มีคนที่รักในชีวิตมีประสบการณ์นี้ เขาจะพูดเสมอว่า ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าต้องมีเสื้อผ้าสำหรับผู้พิการด้วย” ใช่ ไม่เคยคิด
“เราเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกัน” Erica ยอมรับ “แต่จริง ๆ แล้ว สำหรับคนพิการ เสื้อผ้าคือความท้าทายแรกเมื่อเริ่มเช้าวันใหม่ เป็นความท้าทายสุดท้ายตอนจบวัน และเป็นความไม่สบายตัวระหว่างวัน”
และนอกจากจะต้องใส่ได้ ใส่ดี หญิงสาวอายุยังน้อยอย่างเธอก็อยากได้เสื้อผ้าที่ใส่สวย แบบที่เพื่อน ๆ ของเธอใส่ด้วย จะให้ใส่ Sweatpants ตัวเบ้อเริ่มที่ตัดขาออกข้างหนึ่งไปเผชิญโลกทุกวันแบบนั้นไม่น่าดี
ความรู้สึกมั่นใจในตัวเองสำคัญเสมอ ไม่ว่ากับใคร
อิสระทางเสื้อผ้า อิสระในความเป็นตัวเอง
No Limbits เกิดขึ้นด้วย Pain Point ของเจ้าของแบรนด์เอง
Erica ใช้เวลาราวปีครึ่งสนุกกับการพัฒนาสินค้าของตัวเอง พูดคุยกับผู้พิการคนอื่น ๆ ถึงความลำบากกับการสวมใส่เสื้อผ้าที่ผู้คนต้องเจอ
แรก ๆ Erica คิดเหมือนกันว่าจะเน้นทำเสื้อผ้าให้ผู้ดูแลช่วยแต่งตัวได้สะดวก แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เปลี่ยนทิศทาง เธอคิดว่าแบบนั้นไม่ได้ช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้งานจริง ๆ ดูแลตัวเองได้เลย
“เราอยากทำให้เสื้อผ้าของเราง่ายต่อการจัดการของผู้ใช้ปลายทาง อยากให้เขารู้สึกเป็นอิสระ มีความมั่นใจ และใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ ซึ่งการดูแลตัวเองได้ของเราก็คือการเข้าห้องน้ำได้ด้วยตัวเอง ถ้าคุณทำได้ คุณภาพชีวิตของคุณก็จะดีขึ้น”
เธอลองผิดลองถูก จนในที่สุดก็ได้โปรดักต์ที่พอใจ
ทันทีที่ No Limbits ปล่อยแคมเปญแรกและเปิดพรีออร์เดอร์ ผู้คนก็ให้ความสนใจถล่มทลายจนขายหมดภายใน 1 วัน
แม้จะต้องเผชิญความท้าทายด้วยสถานการณ์โควิด-19 แต่ No Limbits ก็ผ่านมาได้
“ตอนที่เราไปออกรายการ Shark Tank พวกเขาพูดกับเราว่า เฮ้ เราเชื่อในแบรนด์ของคุณนะ เราเชื่อว่านี่คือธุรกิจที่เวิร์กจริง ๆ จากนั้นผู้คนก็เริ่มเห็นว่าเราคือ Erica ที่กำลังทำเพื่อคนพิการ และเริ่มสนใจสิ่งที่เราทำมากขึ้น จนตอนนี้มันยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าที่เคยคิดไว้ตอนแรกเสียอีก”
จากสินค้าแค่อย่างสองอย่าง หากคุณแวะเข้าไปดูเว็บไซต์ของ No Limbits คุณจะเห็นเสื้อผ้าที่เป็นมิตรต่อผู้มีความต้องการพิเศษมากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้าสำหรับผู้ที่นั่งวีลแชร์ ผู้ที่มือมีความคล่องตัวจำกัด ผู้ที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อ ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสัน และผู้ที่มีความผิดปกติด้านประสาทสัมผัส อย่างผู้ที่เป็นสมาธิสั้นหรือออทิสติก
เสื้อผ้าบางตัวก็ใช้แม่เหล็กแทนที่จะเป็นกระดุมติดยาก ๆ บางตัวก็ใช้ห่วงในการช่วยดึง ทั้งหมดนี้เพื่อมอบอิสระในการแต่งตัวให้ผู้คนที่หลากหลาย (แถมยังสวยด้วย)
“ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนพิการ คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเราต้องการอะไร” Erica กล่าว
ลำพังแค่ Erica คนเดียวไม่อาจทำให้ No Limbits ประสบความสำเร็จมาถึงจุดนี้ แต่เธอมีทีมที่เต็มไปด้วยผู้พิการรูปแบบต่าง ๆ ช่วยกันระดมสมอง ออกแบบโปรดักต์และประสบการณ์ ‘ทุกอย่าง’ ที่ลูกค้าซึ่งเป็นผู้พิการจะได้รับ
สิ่งที่เราว้าวที่สุดตลอดการพูดคุยกับเธอคือเรื่องหีบห่อ หรือที่พวกเขาเรียกว่า Accessible Packaging
“พอพัสดุไปถึงหน้าบ้าน ทุกคนจะต้องเปิดเองได้” Erica พูดถึงเรื่องที่คนทั่วไปมักไม่ได้นึกถึง
“มันคงแย่มากถ้าคุณเป็นผู้มีเงื่อนไขทางร่างกาย สั่งซื้อสินค้าสำหรับผู้มีเงื่อนไขทางร่างกาย แต่แกะเองไม่ได้ นั่นคงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่”
นั่นก็คือความสำคัญของการมีทีมงานเป็นผู้พิการ ซึ่งเป็น ‘เจ้าของเสียง’ ในเรื่องนี้โดยแท้จริง
แต่อย่างไร CEO สาวก็ไม่ได้จำกัดให้คนพิการทำงานอยู่ในพาร์ตโปรดักต์เท่านั้น แต่อยู่ในทุก ๆ แผนกเท่าที่จะทำได้ เพราะเธอรู้ซึ้งเป็นอย่างดีถึงปัญหาอัตราการจ้างงานคนพิการที่ต่ำกว่าที่ควร แม้ในประเทศโลกที่ 1 อย่างสหรัฐอเมริกาก็ตาม
ผู้ประกอบการ ผู้หญิง และผู้พิการ นาม Erica Cole
เมื่อ Adaptive Clothing ของ No Limbits ประสบความสำเร็จ เหล่าลูกค้าก็คาดหวังให้พวกเขาทำงานเพื่อคนพิการให้ดีที่สุด ถึงอย่างนั้น Erica ก็บอกกับเราว่า “Disability is so dynamic.” ความพิการก็มีหลายรูปแบบ และเธอพูดแทนทุกคนไม่ได้
เธอจึงตั้งใจเรียนรู้จากทุกคนในคอมมูนิตี้ และทำให้แบรนด์กลายเป็น ‘แพลตฟอร์ม’ ให้ทุกคนเล่าประสบการณ์ของตัวเองผ่านการถ่ายแบบหรือวิดีโอต่าง ๆ
และต่อไป No Limbits อยากจะร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้ Adaptive Clothing กลายเป็นเสื้อผ้าหมวดหมู่หนึ่ง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงเครื่องแต่งกายมากขึ้น
“ตอนแรกดูเหมือนความฝันมันห่างไกล แต่ตอนนี้ใกล้ความจริงมาก ๆ แล้ว” CEO ยิ้ม
“เราเข้าร่วม CWI ด้วยหวังว่าโครงการนี้จะช่วยเราเรื่องธุรกิจ ซึ่งเข้ามาแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาช่วยเราพัฒนาตัวเองในฐานะผู้ประกอบการหญิง และช่วยเปิดมุมมองด้าน Social Entrepreneurship อย่างมาก
“เราได้เจอเครือข่ายที่น่าทึ่ง รู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนสนิทมากมาย เหมือนว่าเราไม่ได้โดดเดี่ยวในเส้นทางนี้”
Erica บอกว่าเธออยากเล่าเรื่องราวของตัวเอง จะเป็น Role Model ให้ผู้ประกอบการหญิงและคนพิการต่อไป โดยเฉพาะคนพิการที่เธอรู้ดีว่าลำบากลำบนแค่ไหนในสนามธุรกิจ
“เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองเถอะ มันจะพาคุณไปในที่ที่คุณจะเติบโตได้ดี” เธอฝากข้อความถึงผู้ประกอบการหญิงและคนพิการ “เราเชื่อว่าผู้หญิงและคนพิการเป็นนักแก้ปัญหาโดยธรรมชาติอยู่แล้ว และนั่นจะทำให้พวกเราเป็นผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ได้”
ในงานประกาศรางวัล Cartier Women’s Initiative 2024 ที่เชินเจิ้น เรามองผู้หญิง 33 คนจากทุกภูมิภาคทั่วโลกทยอยเดินขึ้นมารับรางวัลด้วยความรู้สึกตื้นตันใจและพลอยรู้สึกได้รับพลังในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งไปด้วย แอบหวังว่าปีต่อไปจะได้เห็นผู้ประกอบการชาวไทยขึ้นไปเฉิดฉายบนเวทีนี้เช่นกัน
“โลกนี้จะหน้าตาประมาณไหนนะ ถ้ามีคนแบบผู้หญิงกลุ่มนี้อยู่ทั่วโลก” Wingee Sin เอ่ย
ขอบคุณ... https://readthecloud.co/no-limbits/