ร้องสื่อพิษโควิด-19 ทำหมดหนทางดูแลลูกพิการไร้เพศ วอนผู้ใจบุญช่วยค่าอุปกรณ์การแพทย์
สตูล – ครอบครัวเตบสันร้องสื่อพิษโควิด-19 ทำหมดหนทางดูแลลูกที่พิการไร้เพศ อีกทั้งยังมีเรื่องบ้านทรุดใกล้พังจากการก่อสร้างสะพานข้ามคลอง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือเรื่องค่าอุปกรณ์การแพทย์
วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือ เนื่องจากตนกับครอบครัวได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างของผู้รับเหมาทำสะพานข้ามคลองจนบ้านทรุด และผลกระทบพิษเศรษฐกิจโควิด-19 ส่งผลให้บุตรที่ป่วยเป็นคนไร้เพศซึ่งมีค่าใช่จ่ายสูงทางครอบครัวแบกภาระไว้ไม่ไหวแล้ว
หลังได้รับการร้องเรียน จึงเดินทางไปยังพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.สาคร อ.ท่าแพ จ.สตูล ซึ่งเป็นบ้านอาศัยของชาวบ้านผู้เดือดร้อนดังกล่าวพบ นางวิลัย เตบสัน อายุ 45 ปี นายนูรุดดีน เตบสัน อายุ 64 ปี สองสามีภรรยาซึ่งสามีก็อยู่ในสภาพร่างกายที่มีโรคประจำตัวเจ็บออแอด พร้อมบุตรวัย 23 ปี นายรอบีซีน เตบสัน ป่วยพิการตั้งแต่กำเนิด โดยได้รับบัตรคนพิการประเภท การเคลื่อนไหวและพิการทางร่างกาย โดยไม่มีอวัยวะเพศ กระดูกสันหลังคดงอตั้งแต่กำเนิด ไม่มีช่องท้อง ต้องทำการผ่าตัดมาหลายครั้งตั้งแต่กำเนิด ไม่ว่าจะเป็นผ่าตัดกระดูกสันหลังหรือผ่าตัดช่องท้อง ต้องสวมใส่ท่อขับถ่ายของเสียทั้งปัสสาวะและอุจจาระอยู่ข้างนอก
นางวิลัย ผู้เป็นแม่บอกว่า ที่บ้านเราอยู่ด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูกมานานเท่ากับอายุบุตรชาย 23 ปี ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลนที่อนุญาตให้อาศัยอยู่ได้ แต่มาวันนี้บ้านที่อาศัยอยู่ต้องทรุดลงหลังมีการก่อสร้างทำสะพานข้ามคลอง โดยตนและครอบครัวพยายามบอกผู้รับเหมาถึงปัญหาที่เกิดเหตุก็ได้รับคำตอบที่นิ่งเฉย ตนและครอบครัวจึงน้อยใจว่าเพราะว่าตนอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าใช่ไหม ถึงไม่อยากเข้ามาแก้ปัญหาให้ จะแจ้งผู้นำก็ไม่เคยเหลียวแลเพราะทุกคนมองว่าตนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งตนก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนจริงๆ ในยามวิกฤตแบบนี้
ตอนนี้ครอบครัว “เตบสัน” แทบจะไม่มีรายได้เลย บ้านที่อยู่อาศัยก็มาทรุดเสียหาย อีกทั้งยังมีรายจ่ายบุตรชายที่ป่วยพิการมาตั้งแต่กำเนิด ไม่มีเพศ หมอบอกว่าต้องดูแลกันไปตลอดชีวิต ทุกวันนี้ค่าใช่จ่ายทุกวันไม่น้อยกว่าวันละ 200 บาท ทั้งถุงใส่ปัสสาวะ กาว และอุปกรณ์ทางการแพทย์ แพมเพอร์ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่นก็ไม่น้อยกว่า 10,000 บาทต่อเดือน ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปหาหมอที่ต่างจังหวัดที่จะต้องมีทุกเดือนในช่วงแรกๆ แต่ช่วงหลังๆ นี้ต้องเดินทางไปหาหมอ 3 เดือนครั้ง
ซึ่งก่อนหน้านี้จะตระเวนขายปลาสวยงามในตลาดนัด รายได้อยู่ที่เดือนละ 10,000 บาท บวกกับรายได้ของลูกสาวที่ทำงานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตที่ส่งมาให้เดือนละ 5,000-6,000 บาท รวมกับรายได้ของตนก็ตกประมาณเดือนละ 16,000 บาท หักค่าใช้จ่ายของน้องในการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ก็พอได้ใช้จ่ายในครอบครัว สามีไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากเป็นโรคปวดเข่า ได้รับเงินคนชราเดือนละ 600 บาท ลูกชายได้รับเงินพิการ 800 บาท ส่วนตนก็ได้รับเงินสนับสนุนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็พอได้มีเงินใช้จ่ายในครอบครัวเดือนชนเดือน
แต่เมื่อเกิดผลกระทบจากโควิด-19 ตนขายของได้เพียงอาทิตย์ละ 1 วัน หลายตลาดก็ปิด ตลาดนัดที่เคยขายได้ก็ขายไม่ค่อยได้ ลูกสาวที่ทำงานอยู่ในจังหวัดภูเก็ตก็ตกงาน เงินจะใช้จ่ายส่วนตัวยังไม่มี ทุกอย่างต้องประหยัด อุปกรณ์ทางการแพทย์ของน้องที่ป่วยพิการและต้องรักษากันแบบนี้ไปตลอดชีวิต จากที่พอจะไหวมาวันนี้ต้องประหยัด ถุงปัสสาวะน้องที่ใช้สำหรับรับของเสียจากปกติจะต้องเปลี่ยนทุกวัน ต้องนำมาถอดล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับไปใช้ใหม่ แผ่นติดหน้าท้องจากต้องเปลี่ยน 2 วันต่อแผ่น ต้องใช้เป็น 1 อาทิตย์เปลี่ยนครั้ง กลัวเหมือนกันว่าน้องจะติดเชื้อแต่ก็จำเป็น
จึงขอวอนสื่อให้ช่วยประสานคนมีจิตศรัทธาช่วยคนละบาท เป็นค่าอุปกรณ์การแพทย์ให้น้องที่ต้องรักษากันไปตลอดชีวิต ผ่านบัญชีน้อง นายรอบีซีน เตบสัน ธนาคาร ธกส.สาขาท่าแพ เลขบัญชี 020080055330
ขณะที่หลังทางอำเภอทราบข่าว นายธีระพงษ์ คุ่มเคี่ยม นายอำเภอท่าแพ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอำเภอท่าแพ องค์การบริหารส่วนตำบลสาคร และเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว
นายธีระพงษ์ นายอำเภอท่าแพ กล่าวว่า ตนได้ทราบเรื่องก็ได้นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบและดูแล โดยเบื้องต้นได้รับรายงานจากทางองการณ์บริหารส่วนตำบลสาครว่าได้มีการดูแลช่วยเหลือในส่วนคนพิการที่เป็นสิทธิ์ที่ได้รับ โดยประสานไปยังจังหวัดเพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือคนพิการมาหลายปีแล้ว ด้านการช่วยเหลือในเรื่องของการรักษาพยาบาลก็ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณะอำเภอท่าแพ เพื่อเข้าดูแลและหาแนวทางในการช่วยเหลือการรักษาพยาบาลต่อไป
ส่วนในเรื่องของที่อยู่อาศัย ก็ต้องปรึกษาหารือหลายฝ่าย เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งมีข้อกำหนดในทางกฎหมายหลายด้าน แต่ก็จะประสานเพื่อหาทางช่วยเหลือ
สำหรับการช่วยเหลือเร่งด่วนที่สามารถทำได้ในเรื่องของผลกระทบจากโควิด-19 คือการเยียวยาครัวเรือนละ 500 บาท ซึ่งจะให้ทางองการบริหารส่วนตำบลสาครดำเนินการให้อย่างเร่งด่วน ส่วนเรื่องของบ้านที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างสะพาน จะหารือกับทางกรมทางหลวงชนบทและผู้รับเหมาว่าพอจะมีทางเยียวยาช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง