พม.เชียงใหม่ เร่งช่วยเหลือคนพิการทางการมองเห็น ในโครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่หนองหอย
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เร่งช่วยเหลือคนพิการทางการมองเห็น ในโครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่หนองหอย หลังวิกฤติโควิด-19 กระทบการออกไปประกอบอาชีพร้องเพลง และขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว พร้อมเตรียมลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคม ก่อนเสนอขอรับการช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่ มีการเสนอข่าวทางสำนักข่าวไทย อสมท. ประเด็น “เผชิญวิกฤติชีวิตช่วงโควิดในโลกมืด ตอน 1” นั้น วานนี้ (27 ก.ค. 64) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง ร่วมกับศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ พบคนพิการทางการมองเห็น จำนวน 22 คน พักอาศัยอยู่กับครอบครัวในโครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่หนองหอย ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยส่วนใหญ่มีอาชีพร้องเพลงในพื้นที่สาธารณะหรือตามตลาดชุมชนใกล้ที่พักอาศัย และมีบัตรผู้แสดงความสามารถที่ได้รับอนุญาตแล้ว
โดยมีคนพิการทางการมองเห็นจำนวน 3 คน ที่ได้การอนุมัติกู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉุกเฉิน) และจำนวน 5 คน ที่กู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 40,000 – 60,000 บาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คนพิการไม่สามารถออกจากที่พักอาศัยไปร้องเพลงได้ ทำให้ขาดรายได้ และประสบปัญหาด้านค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ขาดแคลนอาหาร
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มอบถุงยังชีพ จำนวน 22 ถุง ให้กับคนพิการและครอบครัว ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ มอบพืชผักทางการเกษตรและไข่ไก่ ให้กับคนพิการ และมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ มอบถุงยังชีพและข้าวสาร
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้นัดหมายคนพิการทางการมองเห็น เพื่อเข้าเก็บข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคม ในวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม นี้ ก่อนจะนำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ ตามระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และได้ข้อมูลคนพิการให้เข้าถึงวัคซีนโควิด-19 จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
ขอบคุณ... https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1731731/