ประวัติ สายสุนีย์ จ๊ะนะ ยอดนักวีลแชร์ฟันดาบสาวไทย เจ้าของ 6 เหรียญพาราลิมปิก
เปิดประวัติเส้นทางชีวิต และทำความรู้จัก “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ ยอดนักวีลแชร์ฟันดาบสาวไทย ฝีมือระดับโลก ซึ่งคว้าเหรียญรางวัลจากศึกพาราลิมปิกได้ทุกครั้งที่เธอลงทำการแข่งขัน
หลังจากกีฬาคนพิการ “พาราลิมปิก เกมส์ 2020” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นไปได้ไม่กี่วัน ทีมชาติไทยก็คว้าเหรียญรางวัลมาครองได้แล้ว จากผลงานของ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบสาวทีมชาติไทย ซึ่งคว้าเหรียญทองแดง ประเภทดาบเอเป้ หญิง คลาสบี มาครองได้สำเร็จ ฉะนั้น เรามาทำความรู้จักกับฮีโร่พาราลิมปิกรายนี้กันให้มากขึ้นกันดีกว่า
“แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ เป็นชาวจ.เชียงใหม่ ปัจจุบันอายุ 47 ปี โดยจุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องมาใช้ชีวิตบนวีลแชร์เกิดขึ้นเมื่อตอนอายุ 17 ปี ซึ่งขณะนั้น ทำงานอยู่ที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมลำพูน โดยเหตุเกิดขณะที่เธอซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์จะไปทำงาน และจอดติดไฟแดงอยู่ ได้มีรถยนต์พุ่งเข้ามาชนท้ายเธออย่างจัง ทำให้ได้รับบาดเจ็บหนักทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่กระดูกสันหลัง จนกลายเป็นอัมพาตช่วงล่างและไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเองอีกต่อไป
จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้ สายสุนีย์ เจ็บหนักทั้งร่างกายและจิตใจ ถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย และยังดีที่ได้ครอบครัวคอยประคับประคองจนผ่านพ้นช่วงวิกฤตนั้นมาได้ ก่อนจะมาเริ่มต้นชีวิตอีกครั้งที่ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการหยาดฝน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ที่นี่ นอกจากจะได้ฝึกอาชีพแล้ว สายสุนีย์ ยังได้เจอเพื่อนๆ ที่เป็นผู้พิการด้วยกัน ทำให้เธอมองโลกในแง่ดีมากขึ้น และได้เริ่มเล่นกีฬา โดยมีแรงบันดาลใจจากนักกีฬาคนพิการรุ่นพี่ที่ได้เดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ พร้อมกับมีรายได้ และเงินรางวัล ซึ่ง “แวว” ก็อยากมีโอกาสเช่นนั้นบ้าง โดยมีเป้าหมายคือการนำเงินรางวัลจากการแข่งขันไปแบ่งเบาภาระและช่วยเหลือครอบครัวของเธอที่ค่อนข้างยากจน
สายสุนีย์เริ่มต้นการเล่นกีฬาคนพิการจากวีลแชร์บาสเกตบอล ก่อนจะหันมาเล่นวีลแชร์ฟันดาบ ซึ่งเธอมุ่งมั่นตั้งใจอย่างมาก จนกระทั่งติดทีมชาติไทยลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่รายการแรกคือ “เฟสปิก เกมส์” เมื่อปี 1999 ซึ่งเป็นมหกรรมกีฬาคนพิการที่ยิ่งใหญ่ในระดับเดียวกับกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ของคนปกติ
ในทัวร์นาเมนต์นั้น สายสุนีย์ ประสบความสำเร็จคว้ามาได้ถึง 2 เหรียญทอง และได้เงินอัดฉีด 2 แสนบาทไปให้ครอบครัวใช้หนี้อย่างที่ตั้งใจ นั่นยิ่งทำให้เธอมุ่งมั่นกับสังเวียนวีลแชร์ฟันดาบมากขึ้นไปอีก และหลังจากนั้นชื่อของ “สายสุนีย์ จ๊ะนะ” ก็อยู่ในสารบบนักกีฬาที่รับใช้ทีมชาติไทยมาโดยตลอด และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย โดยเฉพาะในศึก “พาราลิมปิก” ซึ่งถือเป็นเวทีสุดยอดของนักกีฬาคนพิการทั่วโลก
สายสุนีย์ ลงแข่งขัน พาราลิมปิก ครั้งแรกเมื่อปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเธอก็สร้างผลงานกระหึ่มทันที ด้วยการคว้าเหรียญทอง ประเภทดาบเอเป้ คลาสบี และเหรียญทองแดง ประเภทดาบฟอยล์ คลาสบี มาครองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับกลายเป็น “นักกีฬาหญิง” คนแรกและคนเดียวของไทยถึง ณ ปัจจุบันที่คว้า "เหรียญทอง" พาราลิมปิกมาครองได้สำเร็จ
จากนั้น สายสุนีย์ มีเหรียญรางวัลติดมือกลับบ้านตลอดทุกครั้ง ไล่มาตั้งแต่เหรียญเงิน พาราลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง, เหรียญทอง พาราลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน และเหรียญเงิน พาราลิมปิก 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร จนกระทั่งล่าสุดคือ เหรียญทองแดง พาราลิมปิก 2020 ที่โตเกียว ทำให้เธอได้เหรียญพาราลิมปิกมาแล้วทั้งสิ้น 6 เหรียญ แบ่งเป็น 2 ทอง 1 เงิน และ 3 ทองแดง ซึ่งยอดนักฟันดาบสาวไทยรายนี้ก็ยังไม่หมดไฟที่จะรับใช้ชาติ โดยพร้อมที่จะสู้ล่าเหรียญรางวัลในศึกพาราลิมปิกครั้งต่อไป ในปี 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ส่วนชีวิตนอกสนาม สายสุนีย์ จบการศึกษาปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต และมีครอบครัวกับสามี ซึ่งเป็นผู้พิการเหมือนกันจากอุบัติเหตุโดนสุนัขกัดจนมือขาด และทั้งคู่ก็มีทายาทด้วยกัน 1 คนคือลูกสาว “น้องฤทัย” วัย 6 ขวบ